ระบบเทรดแบบ Passive Trading เป็นระบบที่เราพัฒนาขึ้นใช้ในการจัดการภายใต้กองทุนของเราเองที่ตั้งอยู่ต่างประเทศมีหลายพอร์ตลงทุนที่เราบริหารและแตกต่างกันไปตามกลยุทธ์การลงทุน นี่เป็นตัวอย่างของพอร์ตทดสอบที่เราใช้ทำการทดสอบก่อนที่จะรันเงินจริงในช่วงแรก ซึ่งยังมีการเทรดอยู่จนถึงทุกวันนี้
คุณสามารถติดตามการลงทุนแบบ Passive Trading ของเราได้ผ่าน Myfxbook โดยเราไม่สามารถเปิดเผยระบบได้ ถ้าหากคุณอยากติดตามต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น เราให้ดูได้เฉพาะยอดกำไรขาดทุนในนระยะยาวเท่านั้นโดยสิ่งที่คุณต้องดู ให้ทำความเข้าใจตั้งแต่การสร้างพอร์ต
เริ่มสร้าง Block ในพอร์ตทดลอง
เปิดบัญชี
เราเลือกใช้บัญชี Exness แบบ Pro Account บัญชีโปร สาเหตุที่เลือกเพราะว่า บัญชีโปรไม่มีค่าคอมฯ ไม่มี swap และค่าสเปรดถูกที่สุด นี่คือสาเหตุว่าทำไมเราเลือก Exness แบบ Pro และที่สำคัญโบรกนี้ฝากถอนเร็วที่สุด เพราะเราต้องมีการโอนถ่ายระหว่างบัญชีหลัก (บัญชีพักเงิน) และบัญชีเทรด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การออกแบบระบบ Passive Trading
กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาระบบ
ติดตามพอร์ตลงทุนของเราใน myfxbook ได้เลยค่ะ
เริ่มการสร้างพอร์ต
เราใช้เงินทดสอบซึ่งเป็นงบประมาณสำหรับการวิจัยกลยุทธ์การลงทุน โดยเราเลือกใช้เงิน 5000 USD สำหรับ Block ละ 1,000 USD และจะทำการถอนเพื่อนำไปสร้าง Block ใหม่เมื่อครบ 500 USD ถอนออกทุกครั้ง สิ่งที่คุณจะเห็นได้คือ ยอดฝากและยอดถอน
สิ่งที่คุณไม่ควรสนใจคือ อัตรากำไรรายเดือน หรือ Drawdown ของระบบเพราะว่า เราตั้งระบบให้ล้างพอร์ตได้ ทำให้ Draw Down และอัตรากำไรขาดทุนจึงไม่สามารถวัดอะไรได้ สิ่งที่วัดว่าระบบนี้กำไรหรือขาดทุน มีเพียงอย่างเดียว คือ ยอดเงินฝากและกำไร ยอดถอนที่ไม่สามารถโกหกกันได้ ขอให้ท่านดูว่า “ยอดที่ถอนเยอะกว่ายอดที่ฝากและยังมีเงินคงเหลือในระยะยาวอยู่” นั่นก็เท่ากับว่า ระบบประสบความสำเร็จ
การจะดูได้ว่าระบบประสบความสำเร็จนั้น จะต้องใช้เวลานาน ซึ่งการดู myfxbook ที่ดีก็ควรจะดูมากกว่าระยะเวลาเกิน 6 เดือนขึ้นไป ถึงจะบอกว่าการเทรดนั้นสำเร็จ ไม่ควรดูระยะเวลาสั้น ถ้าจะให้ดีก็ควรจะ 1 ปีขึ้นไปด้วยซ้ำ
การสะสม Block ในพอร์ต
ขั้นตอนการสร้าง Block ด้วยระบบ passive trading นี่คือบันทึกการเทรด บันทึกการสร้าง Block อัพเดทความก้าวหน้าของระบบเทรด
บันทึกการเทรด
8 พฤศจิกายน 2564 – ฝากเงินเข้าบัญชีจำนวน 1000 USD
การขึ้น Layer ใหม่และสะสมบล็อค
การขึ้น Block layer ใหม่ ขนาด 2000 USD เมื่อ Layer ที่ 2 เต็มแล้วเท่านั้น หมายความว่าต้องทำกำไรให้ได้ครบ 4000 USD จากเงิน 5000 USD ( กำไร 80 %)