กลยุทธ์การเทรด forex คืออะไร มีอะไรบ้าง

IUX Markets Bonus

กลยุทธ์การเทรด Forex คือแนวทางหรือวิธีการที่เทรดเดอร์ใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจซื้อขายคู่สกุลเงินในตลาด Forex โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างผลกำไร กลยุทธ์เหล่านี้มักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อระบุจุดเข้าและออกจากตลาดที่เหมาะสม การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน เนื่องจากแต่ละกลยุทธ์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน และเหมาะสมกับเทรดเดอร์ที่มีลักษณะ ทักษะ และเป้าหมายที่แตกต่างกัน

กลยุทธ์การเทรด forex
กลยุทธ์การเทรด forex

ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงกลยุทธ์การเทรด Forex ที่นิยมใช้ 10 แบบ พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าแต่ละกลยุทธ์เหมาะสมกับเทรดเดอร์ประเภทใด เพื่อให้คุณสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

1. Price Action Trading

Price Action Trading เป็นการเทรดโดยวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรง โดยไม่พึ่งพาอินดิเคเตอร์มากนัก เทรดเดอร์จะดูรูปแบบแท่งเทียน, แนวรับแนวต้าน และแนวโน้มของราคาเป็นหลัก

Price Action
Price Action

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ชอบการวิเคราะห์แบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
  • ผู้ที่มีความเข้าใจในพฤติกรรมของตลาดเป็นอย่างดี
  • เทรดเดอร์ที่ต้องการลดการพึ่งพาอินดิเคเตอร์และเครื่องมือทางเทคนิคที่ซับซ้อน

ข้อดี:

  • ลดความซับซ้อนในการวิเคราะห์
  • สามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว เหมาะกับการเทรดระยะสั้น
  • ไม่ต้องรอสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ที่อาจล่าช้า

ข้อเสีย:

  • ต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนมาก
  • อาจมีความเสี่ยงสูงหากขาดความเข้าใจในพฤติกรรมของตลาดอย่างลึกซึ้ง

2. Trend Trading

 YWO Promotion

Trend Trading เป็นการเทรดตามทิศทางของเทรนด์หลัก โดยเข้าซื้อเมื่อราคามีแนวโน้มขึ้น และขายเมื่อราคามีแนวโน้มลง เทรดเดอร์มักใช้ Moving Average หรือ อินดิเคเตอร์อื่นๆ เพื่อยืนยันทิศทางของเทรนด์

8 Trend Confirmation
8 Trend Confirmation

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความอดทน สามารถถือครองตำแหน่งได้นาน
  • ผู้ที่ชอบการวิเคราะห์แนวโน้มระยะกลางถึงระยะยาว
  • เทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการติดตามตลาดตลอดเวลา

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรสูงเมื่อจับเทรนด์ได้ถูกต้อง
  • ลดความเสี่ยงจากการเทรดสวนเทรนด์
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีงานประจำและไม่สามารถติดตามตลาดตลอดเวลา

ข้อเสีย:

  • อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรจากการแกว่งตัวระยะสั้น
  • ต้องมีความอดทนสูง เนื่องจากเทรนด์อาจใช้เวลานานกว่าจะเกิดขึ้น

3. Range Trading

Range Trading ใช้ในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบราคาแคบๆ โดยเทรดเดอร์จะซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้านของกรอบราคานั้น

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความสามารถในการระบุแนวรับแนวต้านได้แม่นยำ
  • ผู้ที่ชอบการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ
  • เทรดเดอร์ที่มีความอดทนในการรอจังหวะเข้าเทรดที่เหมาะสม

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรสม่ำเสมอในตลาดที่ไม่มีทิศทางชัดเจน
  • สามารถกำหนดจุดเข้าและออกได้ชัดเจน
  • เหมาะสำหรับการใช้ Stop Loss และ Take Profit ที่แน่นอน

ข้อเสีย:

  • มีความเสี่ยงสูงเมื่อตลาดเกิด Breakout ออกจากกรอบ
  • อาจมีโอกาสทำกำไรจำกัดเมื่อเทียบกับการเทรดตามเทรนด์

4. Breakout Trading

Breakout Trading เป็นการเทรดเมื่อราคาทะลุออกจากกรอบหรือรูปแบบทางเทคนิคที่สำคัญ เช่น สามเหลี่ยม หรือ ช่องราคา โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนที่ต่อในทิศทางของการเบรกเอาท์

การเทรดแบบ Breakout
การเทรดแบบ Breakout

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ชอบความตื่นเต้นและการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างรวดเร็ว
  • ผู้ที่มีความสามารถในการระบุจุด Breakout ที่สำคัญได้
  • เทรดเดอร์ที่สามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรสูงในระยะเวลาอันสั้น
  • สามารถใช้ได้ดีในทุกกรอบเวลา ตั้งแต่ระยะสั้นถึงระยะยาว
  • เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนสูง

ข้อเสีย:

  • มีความเสี่ยงสูงจาก False Breakouts
  • ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดีมาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาอาจรุนแรง

5. News Trading

News Trading เป็นการเทรดโดยอาศัยข่าวสารและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ หรือ การประชุมธนาคารกลาง

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์และการเงินเป็นอย่างดี
  • ผู้ที่สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้รวดเร็ว
  • เทรดเดอร์ที่ชอบความตื่นเต้นและไม่กลัวความผันผวนสูง

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรสูงในระยะเวลาอันสั้น
  • สามารถใช้ข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจในการตัดสินใจ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบติดตามข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบัน

ข้อเสีย:

  • มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนรุนแรงหลังการประกาศข่าว
  • ต้องมีความรู้และความเข้าใจในผลกระทบของข่าวต่อตลาดอย่างลึกซึ้ง
  • อาจเกิด Slippage สูงในช่วงที่มีความผันผวนมาก

6. Swing Trading

Swing Trading เป็นการเทรดในระยะกลาง โดยถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายวันถึงสัปดาห์ เพื่อทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา

Swing Trading
Swing Trading

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีงานประจำและไม่สามารถติดตามตลาดตลอดเวลา
  • ผู้ที่ต้องการสมดุลระหว่างการทำกำไรระยะสั้นและการถือครองตำแหน่งระยะยาว
  • เทรดเดอร์ที่สามารถทนต่อความผันผวนระยะสั้นได้

ข้อดี:

  • ลดความเครียดจากการติดตามตลาดตลอดเวลา
  • มีโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญ
  • สามารถใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานร่วมกันได้

ข้อเสีย:

  • อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
  • ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี เนื่องจากถือครองตำแหน่งข้ามคืน
  • อาจเกิดความเสียหายมากหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในช่วงที่ตลาดปิด

7. Scalping

Scalping เป็นการเทรดระยะสั้นมาก โดยเปิดและปิดการเทรดภายในไม่กี่วินาทีถึงนาที เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อย

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความสามารถในการตัดสินใจรวดเร็ว
  • ผู้ที่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาเทรด
  • เทรดเดอร์ที่มีความแม่นยำสูงและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรบ่อยครั้งในแต่ละวัน
  • ลดความเสี่ยงจากการถือครองตำแหน่งข้ามคืน
  • เหมาะสำหรับตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนต่ำ

ข้อเสีย:

  • มีค่าธรรมเนียมการเทรดสูงเนื่องจากมีการเปิดปิดตำแหน่งบ่อย
  • ต้องใช้สมาธิสูงและอาจเกิดความเครียดได้ง่าย
  • ต้องการแพลตฟอร์มการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูงและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร

8. Position Trading

Position Trading เป็นการเทรดระยะยาว โดยถือครองตำแหน่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เดือน หรือแม้กระทั่งปี โดยมุ่งเน้นที่แนวโน้มหลักของตลาด

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความอดทนสูงและไม่ต้องการติดตามตลาดทุกวัน
  • ผู้ที่มีความเข้าใจในปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจระยะยาว
  • เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนมากพอที่จะทนต่อความผันผวนระยะสั้นได้

ข้อดี:

  • มีโอกาสทำกำไรสูงจากแนวโน้มหลักของตลาด
  • ลดความเครียดจากการติดตามตลาดตลอดเวลา
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีงานประจำหรือไม่สามารถให้เวลากับการเทรดมากนัก

ข้อเสีย:

  • ต้องใช้เงินทุนสูงเพื่อรองรับความผันผวนระยะสั้น
  • อาจพลาดโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
  • ต้องมีความรู้ความเข้าใจในปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง

9. Carry Trade

Carry Trade เป็นการทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน โดยซื้อสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่มีความเข้าใจในนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
  • ผู้ที่สามารถถือครองตำแหน่งในระยะยาวเพื่อรับผลตอบแทนจากส่วนต่างดอกเบี้ย
  • เทรดเดอร์ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ความเสี่ยงระหว่างประเทศ

ข้อดี:

  • สามารถสร้างรายได้จากส่วนต่างดอกเบี้ยแม้ราคาไม่เคลื่อนไหว
  • เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนต่ำ
  • สามารถใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทน

ข้อเสีย:

  • มีความเสี่ยงสูงหากเกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินอย่างฉับพลัน
  • อาจเกิดการขาดทุนอย่างรุนแรงหากอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม
  • ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเงินระหว่างประเทศ

10. Grid Trading

Grid Trading เป็นการวางคำสั่งซื้อและขายหลายๆ จุดในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในทุกทิศทาง

การเทรดด้วยระบบ Grid 2
การเทรดด้วยระบบ Grid 2

เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ชอบใช้ระบบอัตโนมัติในการเทรด
  • ผู้ที่สามารถทนต่อการขาดทุนในระยะสั้นเพื่อรอผลกำไรในระยะยาว
  • เทรดเดอร์ที่มีความเข้าใจในการจัดการความเสี่ยงและการจัดสรรเงินทุน

ข้อดี:

  • สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดที่มีทิศทางและไม่มีทิศทาง
  • ลดอารมณ์ในการเทรดเนื่องจากใช้ระบบอัตโนมัติ
  • สามารถปรับใช้ได้กับหลายสภาวะตลาด

ข้อเสีย:

  • ต้องใช้เงินทุนสูงเพื่อวางคำสั่งหลายๆ จุด
  • อาจเกิดการขาดทุนอย่างรุนแรงหากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวอย่างต่อเนื่อง
  • ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมหรือใช้เครื่องมือ EA (Expert Advisor) ในการสร้างระบบ

สรุป

การเลือกกลยุทธ์การเทรด Forex ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรด แต่ละกลยุทธ์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน และเหมาะสมกับเทรดเดอร์ที่มีลักษณะ ทักษะ และเป้าหมายที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการเลือกกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับ:

  1. สไตล์การเทรดของคุณ: ไม่ว่าจะเป็นการเทรดระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว
  2. เวลาที่คุณสามารถอุทิศให้กับการเทรด: บางกลยุทธ์ต้องการการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด ในขณะที่บางกลยุทธ์เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
  3. ความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้: แต่ละกลยุทธ์มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
  4. ทุนที่มี: บางกลยุทธ์ต้องการเงินทุนสูงเพื่อรองรับความผันผวน
  5. ความรู้และประสบการณ์ในการเทรด: บางกลยุทธ์เหมาะสำหรับมือใหม่ ในขณะที่บางกลยุทธ์ต้องการความเชี่ยวชาญสูง

นอกจากนี้ การทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนใช้จริงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจข้อดีและข้อเสียของแต่ละกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของคุณ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้กลยุทธ์ใด การจัดการความเสี่ยงที่ดีและการมีวินัยในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับความสำเร็จในระยะยาวในตลาด Forex การฝึกฝนและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด Forex

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser