การจัดการกับความเครียดและความกดดันในการเทรด อารมณ์กับการเทรด

IUX Markets Bonus

Contents

การจัดการกับความเครียดและความกดดันของเทรดเดอร์

การเทรดในตลาดการเงินเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างความเครียดและความกดดันอย่างมาก นักเทรดต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของตลาด การตัดสินใจที่รวดเร็ว และความเสี่ยงทางการเงินอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดังนั้น การเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดและความกดดันจึงเป็นทักษะสำคัญที่นักเทรดทุกคนควรพัฒนา บทความนี้จะนำเสนอเทคนิคการผ่อนคลายความเครียดและวิธีการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรด เพื่อช่วยให้นักเทรดสามารถรับมือกับความท้าทายทางอารมณ์ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคการผ่อนคลายความเครียด

ความเครียดเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายต่อความกดดัน แต่หากปล่อยให้ความเครียดสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการเทรด ดังนั้น การเรียนรู้เทคนิคการผ่อนคลายความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต่อไปนี้เป็นเทคนิคที่นักเทรดสามารถนำไปปฏิบัติได้:

จิตวิทยาการเทรด เทคนิคจัดการความเครียด
จิตวิทยาการเทรด เทคนิคจัดการความเครียด

1. การฝึกหายใจอย่างถูกวิธี

การหายใจอย่างถูกวิธีเป็นหนึ่งในเทคนิคพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในการลดความเครียด เมื่อเรารู้สึกเครียด ร่างกายมักจะหายใจตื้นและเร็ว ซึ่งอาจทำให้รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น การฝึกหายใจลึกๆ ช้าๆ จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8:

  1. หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ นับ 1 ถึง 4
  2. กลั้นหายใจ นับ 1 ถึง 7
  3. หายใจออกทางปากช้าๆ นับ 1 ถึง 8
  4. ทำซ้ำขั้นตอนนี้ 4-5 รอบ

การฝึกเทคนิคนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่รู้สึกเครียดหรือก่อนเริ่มเซสชั่นการเทรด จะช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิมากขึ้น [1]

2. การทำสมาธิและการฝึกสติ

การทำสมาธิและการฝึกสติเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการจัดการความเครียดและความกดดัน การฝึกเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต และความเสียใจกับอดีต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักเทรดที่ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลปัจจุบัน

 YWO Promotion

วิธีการฝึกสมาธิเบื้องต้น:

  1. หาที่นั่งสบายๆ ในบริเวณที่เงียบสงบ
  2. ตั้งนาฬิกาจับเวลา 5-10 นาที
  3. หลับตาและโฟกัสที่ลมหายใจของคุณ
  4. สังเกตการเคลื่อนไหวของลมหายใจเข้าและออก
  5. เมื่อจิตใจวอกแวก ให้ค่อยๆ นำความสนใจกลับมาที่ลมหายใจอีกครั้ง

การฝึกสมาธิเป็นประจำทุกวัน แม้เพียงวันละ 5-10 นาที สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสามารถในการจดจ่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ [2]

3. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความเครียด การออกกำลังกายช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย เช่น คอร์ติซอล และเพิ่มการผลิตเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยให้รู้สึกดีและผ่อนคลาย

นักเทรดควรพยายามออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ กิจกรรมที่แนะนำ ได้แก่:

  • การเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ
  • การว่ายน้ำ
  • การปั่นจักรยาน
  • การเต้นแอโรบิก
  • การเล่นโยคะ

การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยลดความเครียดเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มพลังงาน ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการเทรดทั้งสิ้น [3]

4. การฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อแบบก้าวหน้า (Progressive Muscle Relaxation)

เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อกลุ่มต่างๆ ทั่วร่างกายอย่างเป็นระบบ ช่วยให้เราตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างความตึงเครียดและการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ

วิธีการฝึก:

  1. นั่งหรือนอนในท่าที่สบาย
  2. เริ่มจากเท้า เกร็งกล้ามเนื้อเท้าแน่นๆ นับ 1 ถึง 5
  3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าอย่างช้าๆ สังเกตความรู้สึกผ่อนคลาย
  4. ทำซ้ำขั้นตอนนี้กับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ไล่ขึ้นมาจนถึงใบหน้า

การฝึกเทคนิคนี้เป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วเมื่อรู้สึกเครียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในระหว่างการเทรด [4]

5. การใช้เทคนิคการจินตนาการ (Visualization)

การจินตนาการเป็นเทคนิคที่ทรงพลังในการลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจ นักเทรดสามารถใช้เทคนิคนี้เพื่อจินตนาการถึงสถานการณ์ที่ประสบความสำเร็จหรือสถานที่ที่ทำให้รู้สึกสงบ

ตัวอย่างการใช้เทคนิคการจินตนาการ:

  1. หาที่นั่งสบายๆ และหลับตา
  2. หายใจลึกๆ ช้าๆ สัก 2-3 ครั้ง
  3. จินตนาการถึงสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เช่น ชายหาด ภูเขา หรือสวนสวย
  4. ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการจินตนาการ: สิ่งที่คุณเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้สึก และรสชาติ
  5. อยู่ในภาพจินตนาการนั้นสัก 5-10 นาที

การฝึกเทคนิคนี้เป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถสร้างความรู้สึกสงบได้อย่างรวดเร็วแม้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียด [5]

6. การจดบันทึกความรู้สึก

การเขียนบันทึกเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่ต้องเผชิญกับอารมณ์ที่หลากหลายในแต่ละวัน

วิธีการจดบันทึกความรู้สึก:

  1. กำหนดเวลาในการเขียนบันทึกทุกวัน เช่น ก่อนนอนหรือหลังจากจบเซสชั่นการเทรด
  2. เขียนอย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์หรือการสะกดคำ
  3. บันทึกความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ของคุณในวันนั้น
  4. พยายามระบุสาเหตุของความเครียดหรือความวิตกกังวล
  5. คิดถึงวิธีการแก้ปัญหาหรือมุมมองเชิงบวกที่อาจช่วยได้

การจดบันทึกช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความรู้สึกและความคิดที่สร้างความเครียด ทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น และช่วยในการหาวิธีจัดการกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ [6]

7. การฝึกโยคะ

โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานการเคลื่อนไหวร่างกาย การหายใจ และการทำสมาธิเข้าด้วยกัน ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายและจิตใจ การฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยนักเทรดในหลายด้าน:

  • ลดความเครียดและความวิตกกังวล
  • เพิ่มสมาธิและความใส่ใจ
  • ปรับปรุงท่าทางและลดอาการปวดจากการนั่งเป็นเวลานาน
  • เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของร่างกาย
  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ

ท่าโยคะพื้นฐานสำหรับนักเทรด:

  1. ท่าภูเขา (Mountain Pose): ยืนตัวตรง หายใจลึกๆ เพื่อสร้างความมั่นคงและสงบ
  2. ท่าก้มตัวไปข้างหน้า (Forward Fold): ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลังและขา ลดความตึงเครียด
  3. ท่าแมว-วัว (Cat-Cow Stretch): ช่วยยืดกระดูกสันหลังและผ่อนคลายไหล่
  4. ท่านักรบ 1 (Warrior I): เสริมสร้างความแข็งแรงและความมั่นใจ
  5. ท่าศพ (Corpse Pose): ท่าผ่อนคลายที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจสงบ

การเริ่มต้นด้วยคลาสโยคะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือการใช้แอพพลิเคชันสอนโยคะจะช่วยให้คุณเรียนรู้ท่าทางที่ถูกต้องและปลอดภัย [7]

การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรด

การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการเทรดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการความเครียดและความกดดัน นักเทรดที่ทุ่มเทเวลาและพลังงานทั้งหมดให้กับการเทรดโดยละเลยด้านอื่นๆ ของชีวิต อาจเผชิญกับความเหนื่อยล้าทางอารมณ์และการเผาไหม้ (burnout) ได้ง่าย ต่อไปนี้เป็นวิธีการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรด:

จิตวิทยาการเทรด รักษาสมดุล
จิตวิทยาการเทรด รักษาสมดุล

1. กำหนดเวลาทำงานที่ชัดเจน

การกำหนดเวลาทำงานที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าตลาดจะเปิดทำการ 24 ชั่วโมง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเทรดตลอดเวลา

วิธีการกำหนดเวลาทำงาน:

  • ตั้งเวลาเริ่มและเลิกงานที่แน่นอน
  • เลือกช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนและสภาพคล่องสูงสำหรับการเทรดหลัก
  • กำหนดช่วงเวลาสำหรับการวิเคราะห์ตลาดและการวางแผนแยกจากเวลาเทรด
  • ให้เวลากับการพักผ่อนและกิจกรรมส่วนตัวอย่างเพียงพอ

การมีตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีโครงสร้างในชีวิตประจำวัน ลดความเครียด และป้องกันการเทรดมากเกินไป (overtrading) [8]

2. แยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่ส่วนตัว

การมีพื้นที่ทำงานที่แยกออกมาชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถ “ปิด” โหมดการทำงานเมื่อออกจากพื้นที่นั้น

เคล็ดลับในการจัดพื้นที่ทำงาน:

  • จัดมุมทำงานที่เป็นสัดส่วน หากเป็นไปได้ควรแยกห้องสำหรับการเทรดโดยเฉพาะ
  • ตกแต่งพื้นที่ทำงานให้เอื้อต่อสมาธิและความผ่อนคลาย
  • หลีกเลี่ยงการนำอุปกรณ์เทรด เช่น โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต เข้าไปในห้องนอน
  • เมื่อเลิกงาน ให้ปิดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ทั้งหมด

การแยกพื้นที่ทำงานจะช่วยให้คุณสามารถพักผ่อนได้อย่างแท้จริงเมื่อออกจากโซนการทำงาน [9]

3. ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และกิจกรรมทางสังคม

การรักษาความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพจิตและลดความเครียด

วิธีรักษาความสัมพันธ์และกิจกรรมทางสังคม:

  • กำหนดเวลาคุณภาพกับครอบครัวและคนที่คุณรัก
  • เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมหรืองานอดิเรกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเทรด
  • พบปะกับเพื่อนฝูงหรือเข้าร่วมกลุ่มที่มีความสนใจคล้ายกัน
  • อาสาสมัครหรือทำงานเพื่อสังคม เพื่อสร้างความหมายและคุณค่านอกเหนือจากการเทรด

การมีชีวิตทางสังคมที่สมดุลจะช่วยลดความเครียดและให้มุมมองที่กว้างขึ้นในชีวิต [10]

4. ดูแลสุขภาพร่างกาย

สุขภาพร่างกายที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการจัดการความเครียดและรักษาประสิทธิภาพในการเทรด

วิธีดูแลสุขภาพร่างกาย:

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
  • นอนหลับให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนมากเกินไป

การดูแลสุขภาพร่างกายจะช่วยเพิ่มความทนทานต่อความเครียดและปรับปรุงความสามารถในการตัดสินใจ [11]

5. พัฒนาความสนใจและทักษะนอกเหนือจากการเทรด

การมีความสนใจและทักษะที่หลากหลายนอกเหนือจากการเทรดจะช่วยเพิ่มความสมดุลในชีวิตและลดความเครียด

แนวทางในการพัฒนาความสนใจและทักษะ:

  • เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เช่น การเล่นดนตรี การทำอาหาร หรือการเขียนโปรแกรม
  • อ่านหนังสือในหัวข้อที่หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะเรื่องการเงินและการลงทุน
  • ท่องเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ
  • เข้าร่วมคอร์สเรียนหรือเวิร์คช็อปในหัวข้อที่สนใจ

การมีความสนใจที่หลากหลายจะช่วยให้คุณมีมุมมองที่กว้างขึ้น ลดความเครียดจากการเทรด และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ [12]

6. ฝึกการบริหารเวลาและการจัดลำดับความสำคัญ

การบริหารเวลาที่มีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรด

เทคนิคการบริหารเวลา:

  • ใช้เทคนิค Pomodoro: ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที
  • จัดลำดับความสำคัญของงานโดยใช้เมทริกซ์ Eisenhower
  • ใช้แอพพลิเคชันบริหารเวลา เช่น Trello หรือ Asana
  • กำหนดเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
  • เรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานหรือกิจกรรมที่ไม่จำเป็น

การบริหารเวลาที่ดีจะช่วยให้คุณมีเวลาสำหรับทั้งการเทรดและกิจกรรมส่วนตัวอย่างสมดุล [13]

สรุป

การจัดการกับความเครียดและความกดดันเป็นทักษะสำคัญที่นักเทรดทุกคนควรพัฒนา การใช้เทคนิคการผ่อนคลายความเครียด เช่น การฝึกหายใจ การทำสมาธิ การออกกำลังกาย และการฝึกโยคะ สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตและการเทรดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การกำหนดเวลาทำงานที่ชัดเจน การแยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่ส่วนตัว การให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และกิจกรรมทางสังคม การดูแลสุขภาพร่างกาย และการพัฒนาความสนใจนอกเหนือจากการเทรด ล้วนเป็นวิธีการที่จะช่วยให้นักเทรดสามารถรักษาสมดุลในชีวิตและจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดการความเครียดและการรักษาสมดุลในชีวิตไม่ใช่เรื่องที่จะทำสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความพยายามและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง นักเทรดควรทดลองใช้เทคนิคต่างๆ ที่นำเสนอในบทความนี้ และปรับใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะและไลฟ์สไตล์ของตนเอง

ที่สำคัญ ควรตระหนักว่าการจัดการความเครียดและการรักษาสมดุลในชีวิตไม่ใช่เพียงแค่วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณด้วย นักเทรดที่มีความสุขและมีสุขภาพจิตที่ดีจะสามารถตัดสินใจได้ดีกว่า มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวมากกว่า

ดังนั้น จงให้ความสำคัญกับการจัดการความเครียดและการรักษาสมดุลในชีวิตเท่าๆ กับการพัฒนากลยุทธ์การเทรดของคุณ เมื่อคุณสามารถจัดการกับความท้าทายทางอารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะพบว่าการเทรดไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมที่สร้างผลตอบแทนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางแห่งการพัฒนาตนเองและการเติบโตส่วนบุคคลอีกด้วย

อ้างอิง

[1] Grossman, P., Niemann, L., Schmidt, S., & Walach, H. (2004). Mindfulness-based stress reduction and health benefits: A meta-analysis. Journal of Psychosomatic Research, 57(1), 35-43.

[2] Goyal, M., Singh, S., Sibinga, E. M., Gould, N. F., Rowland-Seymour, A., Sharma, R., … & Haythornthwaite, J. A. (2014). Meditation programs for psychological stress and well-being: a systematic review and meta-analysis. JAMA Internal Medicine, 174(3), 357-368.

[3] Salmon, P. (2001). Effects of physical exercise on anxiety, depression, and sensitivity to stress: a unifying theory. Clinical Psychology Review, 21(1), 33-61.

[4] Jacobson, E. (1938). Progressive relaxation. Chicago: University of Chicago Press.

[5] Utay, J., & Miller, M. (2006). Guided imagery as an effective therapeutic technique: A brief review of its history and efficacy research. Journal of Instructional Psychology, 33(1), 40-43.

[6] Pennebaker, J. W. (1997). Writing about emotional experiences as a therapeutic process. Psychological Science, 8(3), 162-166.

[7] Woodyard, C. (2011). Exploring the therapeutic effects of yoga and its ability to increase quality of life. International Journal of Yoga, 4(2), 49-54.

[8] Sonnentag, S., & Fritz, C. (2015). Recovery from job stress: The stressor-detachment model as an integrative framework. Journal of Organizational Behavior, 36(S1), S72-S103.

[9] Vischer, J. C. (2007). The effects of the physical environment on job performance: Towards a theoretical model of workspace stress. Stress and Health: Journal of the International Society for the Investigation of Stress, 23(3), 175-184.

[10] Cohen, S. (2004). Social relationships and health. American Psychologist, 59(8), 676-684.

[11] Chandola, T., Brunner, E., & Marmot, M. (2006). Chronic stress at work and the metabolic syndrome: prospective study. BMJ, 332(7540), 521-525.

[12] Steger, M. F., Kashdan, T. B., & Oishi, S. (2008). Being good by doing good: Daily eudaimonic activity and well-being. Journal of Research in Personality, 42(1), 22-42.

[13] Claessens, B. J., Van Eerde, W., Rutte, C. G., & Roe, R. A. (2007). A review of the time management literature. Personnel Review, 36(2), 255-276.

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser