แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด วิธีการอ่านเกมส์เทรดด้วยแท่งเทียน

IUX Markets Bonus

Contents

แท่งเทียน คืออะไร

1 แท่งเทียน คืออะไร

แท่งเทียนหรือ Candlestick เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สำหรับการแสดงราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนดไว้ วิธีนี้มาจากญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในการวิเคราะห์กราฟราคาตลาดหุ้น สกุลเงิน และตลาดอื่นๆ

แท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลักคือ

  • ราคาเปิด (Open Price) : ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ราคาปิด (High Price) : ราคาที่สิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ราคาสูงสุด (Low Price) : ราคาที่สูงที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ราคาต่ำสุด (Low Price) : ราคาที่ต่ำที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีเขียว หรือขาว(ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีแดง หรือดำ

ในส่วนของ “ไส้เทียน” คือ เส้นที่ยื่นออกจากตัวแท่งเทียน แทนราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเทียนในภาพรวมแสดงถึงกระแสความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาด และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายแนวโน้มของตลาดในอนาคต

2 แท่งเทียนแบบต่างๆ

แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด

การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick) สามารถช่วยให้นักเทรดทำความเข้าใจถึงความผันผวนของราคา, แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคา และเป็นสัญญาณแนะนำสำหรับการทำการซื้อขาย มีหลากหลายรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดทำใช้เป็นสัญญาณ บางรูปแบบมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม

  • แท่งเทียนเดี่ยว: มีแท่งเทียนที่มีความหมายด้วยตัวเอง เช่น Doji แทนความลังเลของตลา Hammer และ Hanging Man สื่อถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
    3 แท่งเทียนเดี่ยว
  • คู่แท่งเทียน: แท่งเทียนสองแท่งที่รวมกันมีความหมาย เช่น Bullish Engulfing และ Bearish Engulfing แสดงการกลับแนวโน้มราคาขึ้นหรือลง
    4 คู่แท่งเทียน
  • การแสดงรูปแบบบนกราฟ: ในระยะเวลายาวขึ้น แท่งเทียนสามารถสร้างรูปแบบที่รู้จักกันในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น รูปแบบเชิงรุก (bullish) หรือเชิงรับ (bearish) รูปแบบขอบเขต (wedge) และรูปแบบสายเป็นรูปรี (pennant)
    5 แท่งเที่ยน Bullish Bearish

การใช้แท่งเทียนในการวิเคราะห์ทางเทคนิคต้องระมัดระวังและใช้การวิเคราะห์อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น แนวรับและแนวต้าน, ระดับ Fibonacci, และตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เช่น RSI, MACD, หรือวงเงินเติบโต (moving averages). มันสำคัญที่จะจดจำว่า ไม่มีเทคนิคการวิเคราะห์ใดที่สามารถทำนายตลาดได้แน่นอน, แต่แท่งเทียนสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มราคาและการรุกขาย

 YWO Promotion

6 การใช้แท่งเทียนในการวิเคราะห์ทางเทคนิค

กราฟแท่งเทียนบอกอะไรบ้าง

แท่งเทียน หรือ Candlestick เป็นกราฟที่สร้างขึ้นเพื่อวัดความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งประกอบด้วยราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิด โดยกราฟนี้เริ่มต้นจากคนญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดทั่วโลกในปี 1990s ต่อมา การอ่านแท่งเทียนสามารถให้เราทราบถึงความรุนแรง ความไม่แน่นอน และแนวโน้มของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ

การทราบถึงข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการซื้อขายหลากหลายประเภทของสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สกุลเงินหรือสินค้า แท่งเทียนสามารถบอกเราถึงพฤติกรรมของการซื้อขายและสภาพแวดล้อมของตลาด ซึ่งนักลงทุนหลายๆ คนที่มีประสบการณ์มักจะสนใจดูในด้านของรูปร่างต่างๆ ของแท่งเทียน เพื่อนำไปใช้เป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค

ถ้ามองเห็นว่าไส้เทียนด้านล่างยาว หมายความว่า ระหว่างการซื้อขายนั้น มีแรงซื้อมาก ทำให้ราคาถูกขับขึ้นสูงสุดที่ราคาเปิด แต่ในท้ายที่สุด ผู้ขายทำให้ราคาลดลงมาถึงราคาปิด ในทางกลับกัน ถ้าไส้เทียนด้านบนยาว หมายความว่า ระหว่างการซื้อขายนั้น มีแรงขายมาก ทำให้ราคาถูกกดลงสูงสุดที่ราคาเปิด แต่ในท้ายที่สุด ผู้ซื้อทำให้ราคาขึ้นมาถึงราคาปิด

 

วิธีการอ่านเกมส์เทรดด้วยแท่งเทียน

การเทรดด้วยการอ่านแท่งเทียนสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและทำการตัดสินใจในการเข้าออร์เดอร์ อย่างไรก็ตาม การเทรดด้วยการอ่านแท่งเทียนไม่ได้แปลว่านักเทรดจะสามารถทายถูกผลลัพธ์ในทุกครั้ง มีความสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า

แท่งเทียนเป็นการแสดงผลของความรุนแรงในตลาด

แท่งเทียนไม่ได้บอกถึงผลลัพธ์ที่แน่นอน แต่เป็นการแสดงถึงความรุนแรงในการซื้อขาย นักเทรดต้องใช้ประสบการณ์และความรู้เพื่อทำความเข้าใจถึงแนวโน้มที่แท่งเทียนนั้นสะท้อนขึ้นมา

การเทรดด้วยการอ่านแท่งเทียนต้องใช้งานร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ

การอ้างอิงแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอในการตัดสินใจเข้าออร์เดอร์ การใช้แท่งเทียนร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น ตัวบ่งชี้เคลื่อนไหวเฉลี่ย (Moving Averages) ระดับราคาที่มีความสนับสนุนหรือต้านทาน (Support and Resistance levels) หรือการวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend analysis) จะช่วยให้การตัดสินใจในการเทรดมีความรอบคอบและมั่นใจมากขึ้น

การจัดการความเสี่ยงและการจัดการเงินคือสิ่งที่สำคัญ

แม้ว่าการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนจะสำคัญ แต่การจัดการความเสี่ยงและการจัดการเงินยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเทรดที่ประสบความสำเร็จ นักเทรดควรจะมีแผนการจัดการความเสี่ยงและการจัดการเงินที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสียหายจากการเทรดที่ไม่สำเร็จ

 

ตัวอย่าง กราฟรายวันคู้สกุลเงิน GBP/JPY

7 ตัวอย่าง กราฟรายวันคู้สกุลเงิน GBPJPY

อ้างอิงส่วนตัวอย่างจากโบกรกเกอร์ FXTM

จากภาพจะเห็นได้ว่า ราคา GBPJPY เด้งไปแนวรับที่แข็งแกร่ง แต่ล้มเหลวในการทะลุผ่านแนวรับด้านล่าง มันทะลุระดับแนวรับในความพยายามครั้งที่สาม แต่ตลาดพลิกกลับอย่างรวดเร็วและสร้างรูปแบบแท่งเทียนแบบ Engulfing Bullish ซึ่งส่งสัญญาณถึงภาวะกระทิงในตลาด

เทรดเดอร์มือใหม่บางรายอาจรับรู้ถึงการก่อตัวของภาวะกระทิงและเข้าทำคำสั่งซื้อ ณ จุดนี้ ในทางกลับกัน เทรดเดอร์มืออาชีพอาจกำลังรอการยืนยันที่แน่ชัดก่อนที่จะเข้าเทรด การยืนยันนี้เกิดขึ้นในวันถัดไปเมื่อราคา GBPJPY ทะลุขึ้นเหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียน รูปแบบ Engulfing Bullish นี้ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าตลาดจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เมื่อแท่งเทียนรูปแบบ Engulfing Bullish ก่อตัวขึ้นในระดับแนวรับที่สำคัญนี้ จึงทำให้เกิดคำสั่งซื้อที่รอดำเนินการจำนวนมากอยู่เหนือระดับสูงสุดของแท่งเทียนรูปแบบ Engulfing Bullish นี้ เมื่อราคาทะลุขึ้นไปเหนือจุดสูงสุด ก็จะมีการทำคำสั่งซื้อเหล่านั้น ซึ่งเพิ่มโมเมนตัมกระทิงเพิ่มเติมในตลาด

เมื่อตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในระยะเวลาหนึ่ง โดยปกติแล้วจะเป็นการสร้างฐานเพื่อทะลุไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง การก่อตัวของรูปแบบแท่งเทียนที่เป็นขาขึ้นนี้เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะพุ่งไปทางใด

เทรดเดอร์ที่เข้าใจวิธีการอ่านรูปแบบแท่งเทียนง่ายๆ อย่างเช่น Engulfing Bullish จะรู้ว่าจะต้องเข้าเทรดเมื่อใดและอาจได้รับผลกำไรด้วยการกำหนดอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงสูงนี้ (ข้อมูล FXTM)

 

ตัวอย่าง การอ่านกราฟแท่งเทียนในตลาด

ถ้า demand ชนะ แสดงว่าราคามีโอกาสวิ่งขึ้นไปต่อได้อีกแต่ถ้า  supply ชนะ ราคามีโอกาสร่วงต่อได้อีกเช่นกัน ซึ่งแท่งเทียนสามารถบอกได้ทั้งหมด

ข้อสังเกตในอารมณ์ของแท่งเทียน

8 ข้อสังเกตในอารมณ์ของแท่งเทียน

  • ถ้าเนื้อแท่งเทียนเป็นสีเขียว หมายถึง วันนั้นอาจจะ bullish เรียกว่า มีความกล้า
  • ถ้าเนื้อแท่งเทียนเป็นสีแดง หมายถึง วันนั้น เกิดความกลัว
  • ถ้าหากราคาปิดเท่ากับราคาเปิด หมายถึง มีความลังเลใจ ไม่แน่ใจ

demand และ supply

9 demand และ supply

  • ถ้าแท่งเทียนเป็นสีขาว หมายถึง ความต้องการซื้อ มีมากกว่าความต้องการขาย
  • ถ้าแท่งเทียนเป็นสีดำ หมายถึง ความต้องการขาย มีมากกว่าความต้องการซื้อ
  • ถ้าราคาปิดเท่ากับราคาเปิด หมายถึง demand และ supply มีกำลังเท่ากัน

 

แนะนำหนังสือกราฟแท่งเทียน

การศึกษาและอ่านหนังสือเกี่ยวกับกราฟแท่งเทียนเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาทักษะในการเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วยกราฟแท่งเทียน นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มของตลาด รูปแบบการเปลี่ยนแปลงราคาและสัญญาณทางเทคนิคอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเทรดได้ อีกทั้ง การอ่านหนังสือเกี่ยวกับกราฟแท่งเทียนจะช่วยให้คุณสามารถ

  • เรียนรู้และทำความเข้าใจกราฟแท่งเทียนได้เป็นอย่างละเอียด
  • สามารถระบุและอ่านรูปแบบแท่งเทียนที่ซับซ้อนได้
  • เข้าใจการเคลื่อนไหวและความผันผวนของราคาในตลาดที่แสดงด้วยกราฟแท่งเทียน
  • นำเสนอเทคนิคและกลยุทธ์ในการเทรดที่ใช้กราฟแท่งเทียน

หนังสือหนังสือกราฟแท่งเทียนที่ดีและยอดนิยมมากที่สุด คือ

  • หนังสือ “Japanese Candlestick Charting Techniques”
  • หนังสือ “The Candlestick Course”
  • หนังสือ “Candlestick Charting For Dummies”
  • หนังสือ “Profitable Candlestick Trading: Pinpointing Market Opportunities to Maximize Profits”

 

1.หนังสือ “Japanese Candlestick Charting Techniques”

“Japanese Candlestick Charting Techniques” โดย Steve Nison: หนังสือเล่มนี้มักถูกจัดว่าเป็น “คัมภีร์” ในด้านกราฟแท่งเทียน โดย Nison รวบรวมและทำความเข้าใจความรู้ที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการทำความเข้าใจกราฟแท่งเทียนจากญี่ปุ่น

ใจความสำคัญ

เป็นหนังสือที่แนะนำกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นไปยังตลาดทุนของฝั่งตะวันตก หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือรายละเอียดเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีอายุกว่า 300 ปีที่ได้รับการยอมรับและใช้โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคทั่วโลก

หนังสือนี้พร้อมให้การบรรยายละเอียดและชัดเจนทั้งในเรื่องของแนวคิดและการประยุกต์ใช้ แต่ละบทจะมาพร้อมกับตัวอย่างจากการเทรดจริง โดยใช้รูปแบบแท่งเทียนที่เฉพาะเจาะจง

สุดท้าย หนังสือนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่เยี่ยมยอดสำหรับทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนมืออาชีพ มันจะช่วยให้คุณเข้าใจกราฟแท่งเทียนได้อย่างละเอียด และทำให้คุณสามารถประยุกต์ใช้ความรู้นี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนหรือเทรดของคุณได้ดีขึ้น

 

2.หนังสือ “The Candlestick Course”

“The Candlestick Course” โดย Steve Nison: หนังสือเล่มนี้เป็นการนำเสนอขั้นตอนการทำงานด้วยแท่งเทียนในรูปแบบของคอร์ส ใช้เวลาไม่นานในการอ่านและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้พื้นฐาน

ใจความสำคัญ

หนังสือนี้มุ่งเน้นให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้และนำเทคนิคของกราฟแท่งเทียนไปประยุกต์ใช้ในการเทรดและลงทุนแบบจริง Nison ได้จัดรูปแบบหนังสือให้เป็นคอร์สเรียน ทำให้ผู้อ่านสามารถเรียนรู้ทีละขั้นตอน ซึ่งเริ่มจากพื้นฐานที่สำคัญ ไปจนถึงรูปแบบแท่งเทียนที่ซับซ้อนและการนำไปใช้ในตลาดจริง

หนังสือนี้มีการนำเสนอความรู้ผ่านทางแนวคิด, ตัวอย่างจากการเทรดจริง และการทดลองในแต่ละบท โดยผู้อ่านสามารถทดลองฝึกฝนความรู้ที่ได้จากหนังสือ ทำให้มั่นใจในการอ่านและตีความกราฟแท่งเทียน “The Candlestick Course” ยังมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถตรวจสอบและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของตนเอง ช่วยให้เข้าใจลึกซึ้งในปรากฏการณ์ต่างๆ ในตลาดและเตรียมตัวให้พร้อมในการตัดสินใจทางการเงินที่มีประสิทธิภาพและมั่นคง

ในท้ายที่สุด “The Candlestick Course” คือ หนังสือที่ทำให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและใช้งานกราฟแท่งเทียนได้อย่างมั่นใจและครบถ้วนทั้งในระดับพื้นฐานและขั้นสูง

 

3.หนังสือ “Candlestick Charting For Dummies”

“Candlestick Charting For Dummies” โดย Russell Rhoads: หนังสือนี้เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

ใจความสำคัญ

หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์ “For Dummies” ที่โด่งดังที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เบื้องต้นหรือผู้ที่ต้องการรับรู้ความรู้ในเรื่องที่ซับซ้อนในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ

“Candlestick Charting For Dummies” มุ่งเน้นไปที่การสอนผู้อ่านวิธีการอ่านและตีความกราฟแท่งเทียนและเรียนรู้ถึงการประยุกต์ใช้เทคนิคนี้ในการทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อการลงทุนและการเทรด หนังสือเล่มนี้มีการแสดงการทำงานของกราฟแท่งเทียนผ่านทางตัวอย่างจากตลาดจริง และการสาธิตวิธีการเข้าใจรูปแบบต่าง ๆ ของแท่งเทียน

หนังสือนี้ยังขยายความหลักการที่ฝังมาในกราฟแท่งเทียน, โดยไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การอ่านและตีความแต่ละแท่งเทียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจดีว่าเทคนิคนี้สามารถช่วยให้เห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวของตลาด และเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพยากรณ์แนวโน้มของตลาด “Candlestick Charting For Dummies” ให้ความรู้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการใช้กราฟแท่งเทียนในแบบที่สอนอย่างง่าย ชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับผู้เริ่มต้น นักลงทุนและผู้เทรดที่มีประสบการณ์

 

4.หนังสือ “Profitable Candlestick Trading: Pinpointing Market Opportunities to Maximize Profits”

“Profitable Candlestick Trading: Pinpointing Market Opportunities to Maximize Profits” โดย Stephen W. Bigalow: หนังสือนี้นำเสนอการเข้าใจรูปแบบแท่งเทียนที่ใช้กันทั่วไปและวิธีที่เทรดเดอร์สามารถนำไปใช้ปรับปรุงผลลัพธ์ในการเทรด

ใจความสำคัญ

เป็นหนังสือที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับการซื้อขายด้วยกราฟแท่งเทียนที่มีประสิทธิภาพ และละเอียดอ่อนในการบรรยาย ผู้เขียนรายงานถึงหลักการทางเทคนิคของการซื้อขายด้วยกราฟแท่งเทียนและวิธีที่นักลงทุนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเพื่อหาโอกาสในการซื้อขายที่จะส่งผลกำไรสูงสุด

หนังสือเล่มนี้รวมรูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่จำเป็นต่อการประยุกต์ใช้เทคนิคการซื้อขายด้วยกราฟแท่งเทียนด้วยการวิเคราะห์เหตุการณ์ทางการเงินและข้อมูลราคาในอดีต นักลงทุนสามารถทำนายแนวโน้มในราคาอนาคตได้ หนังสือเล่มนี้ยังขอแนะนำกลยุทธ์ทางการเงินที่เน้นการหาโอกาสที่ทำให้สามารถสร้างกำไรสูงสุดได้ เหล่านักลงทุนที่สนใจในการสร้างกำไรสูงสุดจากการลงทุนของตน อาจพบว่าหนังสือเล่มนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดี

โดยสรุป, “Profitable Candlestick Trading: Pinpointing Market Opportunities to Maximize Profits” ยืนยันว่าการซื้อขายด้วยกราฟแท่งเทียนสามารถช่วยให้นักลงทุนสามารถมองเห็นโอกาสในตลาดและเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับเหตุการณ์เฉพาะเพื่อสร้างกำไรสูงสุดได้

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser