Breakaway (Bearish, Bullish) คืออะไร วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

Breakaway คืออะไร

“Breakaway” เป็นรูปแบบของแท่งเทียน (candlestick) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟหุ้นหรือตลาดทั่วไป การเกิดขึ้นของ Breakaway pattern มักบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด (Trend Reversal) ในระยะยาว

 

รูปแบบ Breakaway candlestick pattern

Breakaway candlestick pattern ประกอบด้วย 5 แท่งเทียน โดยมีลักษณะดังนี้

แท่งแท่งเทียนที่ 1

• แท่งแท่งเทียนแรก เป็นแท่งเทียนของแนวโน้มปัจจุบัน ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาขึ้น แต่ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาลง

แท่งแท่งเทียนที่ 2

• แท่งแท่งเทียนที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนที่มีช่วงราคาที่ไม่ซ้อนทับแท่งเทียนแรก นั่นหมายความว่า ถ้าแนวโน้มเป็นขาขึ้น แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่สูงกว่าแท่งเทียนแรก และถ้าแนวโน้มเป็นขาลง แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่ต่ำกว่าแท่งเทียนแรก

แท่งแท่งเทียนที่ 3, แท่งแท่งเทียนที่ 4 และแท่งแท่งเทียนที่ 5

จะเป็นแท่งเทียนที่ยืนยันแนวโน้มใหม่ ซึ่งความยาวของแท่งเทียนไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดียวกัน แต่จะยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม

การที่ Breakaway pattern เกิดขึ้นบ่งบอกว่า สภาพของตลาดได้เปลี่ยนแปลง ซึ่งก็คือสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มในระยะยาว

 

Breakaway ใช้วิเคราะห์อะไร

Beakaway pattern ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน (candlestick) มักใช้ เพื่อระบุการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่หลังจากการหยุดสั้น ๆ หรือการสะสม/การแจกจ่าย (consolidation/distribution) ของราคา สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Breakaway pattern คือ

• การเกิด: มักเกิดขึ้นหลังจากการสะสมราคาหรือการแจกจ่ายราคาในช่วงที่ราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน (consolidation phase) และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแนวโน้ม
• การตีความ: Breakaway pattern บ่งบอกถึงการปลดปล่อยของแรงกดดันของราคาหลังจากการสะสมหรือการแจกจ่าย ซึ่งหมายความว่าราคากำลังจะเริ่มต้นแนวโน้มใหม่
• การยืนยัน: แม้ว่า Breakaway จะเป็นรูปแบบที่สำคัญ แต่การยืนยันจากตัวชี้วัดเทคนิคอื่น ๆ เช่น เส้นเคลื่อนไหวเฉลี่ย (Moving Averages), MACD, RSI, หรือปริมาณการซื้อขาย (volume) จะช่วยในการเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ
• จุดด้อย: หลังจากการปรากฏของ Breakaway pattern, ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะเริ่มแสดงแนวโน้มใหม่อย่างชัดเจน

ดังนั้นแล้ว Breakaway pattern ช่วยในการระบุการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่หลังจากช่วงการสะสมหรือการแจกจ่าย การที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจการซื้อขาย แต่ควรใช้ร่วมกับตัวชี้วัดเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจด้วย

 

 

ลักษณะรูปแบบ Breakaway Bearish

Breakaway Bearish candlestick คือ รูปแบบของกราฟแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของการเริ่มต้นแนวโน้มขาลงหลังจากช่วงของการสะสมหรือการค้าระหว่างช่วง (consolidation phase)

 

รูปแบบ Breakaway Bearish

ประกอบด้วย 5 แท่งเทียน และมีลักษณะดังนี้

แท่งเทียนแรก

แท่งเทียนแรก (Bullish candle): แท่งเทียนขาขึ้นที่สื่อถึงการควบคุมของผู้ซื้อในแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่

• ลักษณะ: แท่งเทียนขาขึ้นหรือ Bullish candle ประกอบด้วยส่วนตัวของแท่งเทียน (body) ที่เป็นสีขาวหรือสีเขียว (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของแพลตฟอร์มวิเคราะห์) ที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของราคาระหว่างเปิดและปิดของช่วงเวลานั้น ๆ (เช่น 1 วัน, 1 ชั่วโมง) ปลายแท่งเทียน (wicks หรือ shadows) แสดงถึงช่วงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ๆ
• ความหมาย: เมื่อเห็นแท่งเทียนขาขึ้นในกราฟ, มันบ่งบอกถึงความสนใจและความแข็งแกร่งของผู้ซื้อในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งแสดงถึงการที่ผู้ซื้อมีการควบคุมตลาดในช่วงเวลานั้น และราคาปิดของวันนั้นสูงกว่าราคาเปิด
• ในบริบทของ Breakaway Bearish: แท่งเทียนแรกบ่งบอกถึงความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่ และการที่มี Bullish candle แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความแข็งแกร่งของผู้ซื้อในตลาด ทำให้คาดหวังว่าแนวโน้มขาขึ้นจะยังคงต่อเนื่องไป แต่เมื่อแท่งเทียนถัดไปของ Breakaway Bearish pattern เริ่มปรากฏ, มันเริ่มแสดงความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

แท่งเทียนที่สอง

แท่งเทียนที่สอง (Bearish candle): แท่งเทียนขาลงที่เปิดที่ราคาที่สูงกว่าการปิดของแท่งเทียนแรก (forming a gap) ซึ่งบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของการปลดปล่อยของแรงกดดันของราคา

• ลักษณะ: แท่งเทียนขาลง หรือ Bearish candle, มีสีที่แตกต่างจาก Bullish candle (มักจะเป็นสีแดงหรือดำ) ส่วนตัวของแท่งเทียนแสดงถึงราคาเปิดและราคาปิดในช่วงเวลานั้น ๆ โดยที่ราคาปิดจะต่ำกว่าราคาเปิด ปลายแท่งเทียน (wicks หรือ shadows) แสดงราคาสูงสุดและราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้น
• Gap: ในบริบทของ Breakaway pattern ราคาเปิดของแท่งเทียนที่สองจะสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแรก ซึ่งเรียกว่า “gap” หรือช่องว่าง การที่มี gap เกิดขึ้นระหว่างแท่งเทียนแรกและแท่งเทียนที่สอง แสดงถึงการปฏิกรณ์รุนแรงของตลาดในช่วงเวลานั้น
• ความหมาย: แท่งเทียนที่สองในรูปแบบ Breakaway Bearish บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทางใจของตลาด แม้ว่าแท่งเทียนจะเปิดที่ราคาที่สูงกว่าแท่งเทียนแรก แต่ราคาก็ต่ำลงและปิดอยู่ใต้ราคาเปิด บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจของผู้ซื้อ และผู้ขายมีแนวโน้มควบคุมตลาด
• ในบริบทของ Breakaway Bearish: Gap แสดงถึงความไม่ต่อเนื่องของราคาและการปฏิกรณ์รุนแรงของตลาด ความปลดปล่อยของแรงกดดันราคานั้นบ่งบอกถึงการที่ผู้ซื้อเริ่มสูญเสียการควบคุมตลาดและผู้ขายเริ่มมีแนวโน้มที่จะควบคุม

แท่งเทียนที่สาม, ที่สี่ และที่ห้า

• แท่งเทียนที่สาม, ที่สี่ และที่ห้า: สามแท่งเทียนนี้ยืนยันแนวโน้มขาลงใหม่ โดยแท่งเทียนเหล่านี้ควรเป็นแท่งเทียนขาลงหรืออาจมีการปิดที่ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า
• ลักษณะ: สามแท่งเทียนนี้มักจะเป็นแท่งเทียนขาลง, แสดงถึงการที่ผู้ขายยังคงควบคุมตลาด สีของแท่งเทียนเหล่านี้มักจะเป็นสีแดงหรือดำ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของแพลตฟอร์ม) แสดงถึงการที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด สำหรับรูปแบบ Breakaway Bearish, การปิดราคาที่ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้าจะเป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงที่เริ่มต้นขึ้น
• ความหมาย: หากสามแท่งเทียนนี้ยังคงแสดงราคาที่ต่ำลง, แสดงถึงความแข็งแกร่งของการขายและความไม่มั่นใจของผู้ซื้อ การที่ราคาปิดของแท่งเทียนเหล่านี้ต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้ายืนยันแนวโน้มขาลงและความเสียเปรียบของผู้ซื้อ
• ในบริบทของ Breakaway Bearish: เมื่อเห็นแท่งเทียนที่สาม, ที่สี่, และที่ห้าที่ยืนยันแนวโน้มขาลง, นั้นแสดงว่า Breakaway Bearish pattern ได้รับการยืนยันแล้ว นักลงทุนหรือนักวิเคราะห์เทคนิคสามารถใช้รูปแบบนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง

 

ลักษณะรูปแบบ Breakaway Bullish

ลักษณะของ Breakaway Bullish คือ ในกราฟแท่งเทียนเป็นรูปแบบที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากแนวโน้มขาลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น, ซึ่งสัญญาณนี้มักจะปรากฏหลังจากที่ราคาได้มีการเคลื่อนที่ตามแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง และกำลังจะเริ่มต้นการกลับตัวขึ้นไปในแนวโน้มขาขึ้นใหม่

รูปแบบ Breakaway Bullish

ข้อยืนยันของรูปแบบ Breakaway Bullish ประกอบด้วย 5 แท่งเทียนดังนี้

แท่งเทียนแรก (Bearish candle)

แท่งเทียนแรก (Bearish candle): แท่งเทียนขาลงที่แสดงถึงความครอบครองของผู้ขายในแนวโน้มขาลงที่มีอยู่

• ลักษณะทั่วไป: แท่งเทียนนี้มีลักษณะของแท่งเทียนขาลง (bearish) ซึ่งหมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด ในกราฟแท่งเทียนแท่ง, สีของแท่งเทียนนี้มักจะเป็นสีแดงหรือดำ แต่สีก็ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของแพลตฟอร์มแต่ละแพลตฟอร์ม
• ความหมาย: แท่งเทียนแรกนี้บ่งบอกถึงความครอบครองของผู้ขายในตลาด หรือว่าการขายมีแรงกดดันมากกว่าการซื้อในช่วงเวลานั้น. ความหมายนี้มักจะแสดงถึงความไม่มั่นใจของผู้ซื้อหรือความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้ขา
• บทบาทในรูปแบบ Breakaway Bullish: ในบริบทของรูปแบบ Breakaway Bullish, แท่งเทียนแรกนี้จะทำหน้าที่เป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงที่มีอยู่ และเตรียมพื้นที่ให้กับการปรากฏของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อมาการที่แท่งเทียนแรกเป็นแท่งเทียนขาลงมักจะแสดงถึงความผิดหวังหรือความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้ซื้อ และบ่งบอกถึงสภาพของตลาดที่ยังคงเป็นแนวโน้มขาลง
• การวิเคราะห์เพิ่มเติม: ความยาวของแท่งเทียนแรกหรือรูปร่างของแท่งเทียน (เช่น หากเป็นแท่งเทียนที่มีร่างกายยาวมากหรือเป็น Marubozu) สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแรงกดดันของการขายในช่วงเวลานั้น

แท่งเทียนที่สอง (Bullish candle)

แท่งเทียนที่สอง (Bullish candle): แท่งเทียนขาขึ้นที่เปิดที่ราคาที่ต่ำกว่าการปิดของแท่งเทียนแรก (forming a gap) ซึ่งบ่งบอกถึงการเริ่มต้นของการปลดปล่อยของแรงกดดันของราคาในแนวโน้มขาขึ้น

• แท่งเทียนที่สอง (Bullish candle) หรือแท่งเทียนขาขึ้นในช่วงที่เป็นแท่งเทียนที่สอง แปลว่า การเปิดของแท่งเทียนขาขึ้นนี้อยู่ใต้ราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า (forming a gap) หรือการเกิดช่องว่างระหว่างแท่งเทียน
• สภาพของแท่งเทียนขาขึ้นบ่งบอกถึงแนวโน้มที่ราคาเริ่มจะขึ้น ซึ่งคือการปลดปล่อยของแรงกดดันราคาที่ได้รับในแนวโน้มลงก่อนหน้านั้น

แท่งเทียนที่สาม, ที่สี่ และที่ห้า

แท่งเทียนที่สาม, ที่สี่ และที่ห้า: สามแท่งเทียนนี้ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นใหม่ โดยแท่งเทียนเหล่านี้ควรเป็นแท่งเทียนขาขึ้น หรืออาจมีการปิดที่สูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า

• เทียนที่สาม: หากเป็นเทียนขาขึ้น แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงต่อเนื่องจากเทียนที่สอง
• เทียนที่สี่: การยืนยันแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง และความเชื่อมั่นในแนวโน้มนี้เพิ่มขึ้น
• เทียนที่ห้า: หากยังคงเป็นเทียนขาขึ้น หรือปิดสูงกว่าเทียนก่อนหน้า แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงอยู่และเสถียร

 

วิธีการใช้งาน Breakaway

ส่วนประกอบ

• Breakaway ประกอบด้วยแท่งเทียนห้าแท่ง
• แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนยาวที่แสดงถึงแนวโน้มก่อนหน้า
• แท่งเทียนสามแท่งถัดไปจะสั้นกว่าและเคลื่อนที่สวนทางกับทิศทางของแท่งเทียนแท่งแรก ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวของแนวโน้มหรือการสร้างฐาน
• แท่งเทียนแท่งที่ 5 เป็นแท่งเทียนยาวที่เคลื่อนไปในทิศทางของแท่งเทียนแท่งแรก เป็นการยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มเดิม

Bullish Breakaway

• แท่งเทียนแท่งแรก: แท่งเทียนขาลงยาว (red)
• แท่งเทียนสามแท่งถัดไป: แต่ละแท่งเปิดภายในตัวแท่งเทียนก่อนหน้า และควรปิดใกล้กับการเปิดแท่งเทียนขาลงแท่งแรก ซึ่งบ่งบอกถึงความลังเลใจหรือการสร้างฐาน
• แท่งเทียนที่ห้า: แท่งเทียนยาว (green) ที่ยืนยันการฝ่าวงล้อมและการเริ่มต้นที่เป็นไปได้ของแนวโน้มขาขึ้นใหม่

Bearish Breakaway

• แท่งเทียนแท่งแรก: แท่งเทียนแท่งยาว (green)
• แท่งเทียนสามแท่งถัดไป: แต่ละแท่งจะเปิดขึ้นภายในตัวแท่งเทียนก่อนหน้า และควรปิดใกล้กับการเปิดแท่งเทียนขาขึ้นแท่งแรก
• แท่งเทียนที่ห้า: แท่งเทียนขาลง (red) ยาวที่ยืนยันการฝ่าวงล้อมและการเริ่มต้นที่เป็นไปได้ของแนวโน้มขาลงใหม่
• การเข้า: เมื่อแท่งเทียนที่ห้าของรูปแบบ Breakaway ก่อตัวขึ้นและยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้ม ผู้ค้าสามารถพิจารณาเข้าสู่ตำแหน่งในทิศทางของแนวโน้ม
• Stop-Loss: สามารถวาง stop-loss เหนือระดับต่ำ (สำหรับการทะลุกรอบขาขึ้น) หรือสูง (สำหรับการทะลุกรอบขาลง) ของรูปแบบเพื่อป้องกันการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
• Take-Profit: เทรดเดอร์สามารถกำหนดเป้าหมายกำไรตามตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ ระดับแนวต้าน/แนวรับ หรือใช้ Trailing Stop เพื่อจับแนวโน้มให้ได้มากที่สุด

 

สถิติและความแม่นยำของ Breakaway

(อ้างอิง : ข้อมูลสถิติจากหนังสือ Encyclopedia of candlestick charts)

Breakaway Bearish

• ชื่อทฤษฎี : Bearish reversal
• Actual bull market: Bearish reversal 63% อันดับ (ranking 23).
• Actual bear market: Bearish reversal 89% อันดับ (ranking 2).
• อันดับความถี่ของการเกิด: 98th จาก 103.
• อันดับความแม่นยำ: 11th จาก 103.

Breakaway Bullish

• ชื่อทฤษฎี : Bullish reversal.
• Actual bull market: Bullish reversal 59% อันดับ (ranking 31).
• Actual bear market: Bullish reversal 71% อันดับ (ranking 12).
• อันดับความถี่ของการเกิด: 97th จาก 103.
• อันดับความแม่นยำ: 45th จาก 103.

 

ข้อดี Breakaway

• รูปแบบ Breakaway ให้สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการต่อเนื่องของแนวโน้มหรือการกลับตัวของแนวโน้ม: ไม่ว่าจะเป็นแบบวัวหรือหมี, รูปแบบนี้ให้กับนักเทรดสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับการต่อเนื่องหรือการกลับตัวของแนวโน้ม ซึ่งสามารถช่วยให้การตัดสินใจของนักเทรดเป็นไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในตลาดที่มีการขยับแกว่ง
• ใช้แท่งเทียนหลายแท่งเพื่อยืนยัน: รูปแบบ Breakaway ประกอบด้วยแท่งเทียนห้าแท่ง, ซึ่งหมายความว่ามันใช้ข้อมูลจากหลายฉากการซื้อขาย การใช้ข้อมูลจากแท่งเทียนหลายแท่งนี้สามารถถือเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับรูปแบบที่มีแท่งเทียนเดียว เนื่องจากการรวมข้อมูลจากจุดข้อมูลหลายๆ จุดมักจะนำไปสู่สัญญาณที่แข็งแกร่งและมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
• เป็นที่ยอมรับในสภาพตลาดที่ต่างกัน: รูปแบบ Breakaway สามารถจำแนกได้ทั้งในสภาพตลาดแบบวัวและหมี ความหลากหลายนี้ทำให้นักเทรดสามารถใช้รูปแบบนี้และหลักการพื้นฐานในสภาพตลาดที่ต่างกัน ซึ่งสามารถนำไปสู่โอกาสในการซื้อขายที่มากขึ้น

 

ข้อเสีย Breakaway

สัญญาณที่ผิดพลาด: ข้อเสียหลักของรูปแบบทางเทคนิคหลายๆ รูปแบบ รวมทั้ง Breakaway คือการมีโอกาสได้รับสัญญาณที่ผิดพลาด ทั้งนี้ แม้ว่า Breakaway อาจแนะนำถึงการต่อเนื่องหรือการกลับตัวของแนวโน้ม ก็ยังไม่ได้เป็นการรับประกัน การเกิดการแตกออกที่ผิดพลาดสามารถเกิดขึ้น นำไปสู่การที่นักเทรดเข้าสู่ตำแหน่งที่ไม่มีประโยชน์

การขึ้นอยู่กับบริบท: ประสิทธิภาพของรูปแบบ Breakaway อาจได้รับอิทธิพลอย่างมากจากบริบทของตลาดในภาพรวม ยกตัวอย่างเช่น หากรูปแบบ Breakaway ปรากฏในช่วงที่มีความแปรปรวนต่ำหรือปริมาณการซื้อขายที่น้อย ความน่าเชื่อถือของมันอาจถูกทำลาย การเข้าใจบริบทของตลาดในภาพรวมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการแปลความหมายของรูปแบบ Breakaway อย่างถูกต้อง

การต้องการความอดทนและการยืนยัน: รูปแบบ Breakaway ครอบคลุมแท่งเทียนจำนวนห้าแท่ง ซึ่งหมายความว่านักเทรดต้องรอให้รูปแบบสมบูรณ์แบบก่อนการตัดสินใจ และหลังจากการก่อตัวเสร็จสิ้น การรอการยืนยัน (เช่น การแตกออกของแท่งเทียนที่ห้าในทิศทางของแนวโน้มที่ต้องการ) สามารถทดสอบความอดทนของนักเทรด ช่วงเวลาการรอคอยนี้อาจทำให้นักเทรดพลาดโอกาสอื่นในตลาด