รีวิว BlackBull Markets ดีไหม ข้อมูลข้อดีข้อเสียแต่ละด้าน

รีวิว BlackBull Markets 2024

ในยุคที่ตลาดการเงินเติบโตและมีตัวเลือกการลงทุนหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีและน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง BlackBull Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ ECN ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวซีแลนด์ แม้จะมีจุดเด่นในด้านของการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและแพลตฟอร์มการเทรดที่ทันสมัย แต่ก็ยังมีประเด็นบางอย่างที่นักลงทุนควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อประเมินว่า BlackBull Markets เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับตนเองหรือไม่ ลองมาดูกันว่ารีวิวและข้อมูลอัปเดตของปี 2024 จะบอกอะไรเราบ้าง

ข้อมูลเบื้องต้นและใบอนุญาตของ BlackBull Markets

• BlackBull Markets ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดย Michael Walker และ Selwyn Loekman โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
• โบรกเกอร์แห่งนี้ให้บริการเทรด Forex, CFD, สินค้าโภคภัณฑ์ และ Fintech solution แก่ลูกค้ากว่า 180 ประเทศทั่วโลก
• Black Bull Group Limited จดทะเบียนในนิวซีแลนด์ (เลขที่บริษัท 5463921) เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่จดทะเบียน (FSP403326)
• BBG Limited จดทะเบียนในเซเชลส์ (เลขที่บริษัท 857010-1) ได้รับอนุญาตจาก Financial Services Authority (FSA) ภายใต้ใบอนุญาตเลขที่ SD045
• BlackBull Group UK Limited จดทะเบียนในสหราชอาณาจักร (เลขที่บริษัท 9556804) แต่ยังไม่มีใบอนุญาตจาก FCA
• Black Bull Trade Limited จดทะเบียนในนิวซีแลนด์ (NZBN 9429049891041) เป็นผู้ให้บริการด้านการเงินจดทะเบียน FSP1002113

ประเภทบัญชีและเงื่อนไขการซื้อขายที่ BlackBull Markets

• มีบัญชีให้เลือก 3 ประเภท ได้แก่ Standard, Prime และ Institutional โดยแต่ละบัญชีมีความแตกต่างกันในเรื่องของค่าสเปรด วงเงินฝากขั้นต่ำ และค่าคอมมิชชัน
• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.8 pips สำหรับบัญชี Standard, 0.1 pips สำหรับ Prime และ 0.0 pips สำหรับ Institutional
• ขนาดการเทรดขั้นต่ำอยู่ที่ 0.01 lot และเลเวอเรจสูงสุดที่ 1:500 เท่ากันในทุกประเภทบัญชี
• บัญชี Prime คิดค่าคอมมิชชัน $6 ต่อ 1 lot ขณะที่ Institutional คิดที่ $3 ต่อ 1 lot และไม่มีค่าคอมมิชชันสำหรับบัญชี Standard

ช่องทางการฝากถอนและสกุลเงินที่รองรับ

• BlackBull Markets รองรับการฝากถอนหลากหลายช่องทาง ทั้ง Visa/Mastercard, FasaPay, Neteller, Skrill และ Bank Transfer
• การฝากเงินสามารถทำได้ผ่านบัตรเครดิต, e-Wallet, Crypto และธนาคาร ส่วนการถอนรองรับเพิ่มเติมผ่าน FXPay, Help2Pay และ PaymentAsia
• มีค่าธรรมเนียมการถอนอยู่ที่ $5 โดยประมาณต่อรายการ ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก
• โบรกเกอร์รายนี้รับเงินฝากหลากหลายสกุล ได้แก่ USD, EUR, GBP, AUD, NZD, SGD, CAD และ ZAR

ผลิตภัณฑ์การลงทุนและแพลตฟอร์มการเทรดของ BlackBull Markets

• BlackBull Markets นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เทรดที่ครอบคลุม ทั้ง Forex, CFDs, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, โลหะมีค่า และพลังงาน
• รองรับการเทรดผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 และ 5 ทั้งเวอร์ชันบนเดสก์ท็อปและมือถือ
• นอกจากนี้ยังมี WebTrader สำหรับการเทรดผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และ TradingView ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟที่ใช้งานง่าย
• BlackBull ระบุว่าให้บริการเทรดได้มากกว่า 26,000 รายการ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตัวเลือกการลงทุน

การสนับสนุนลูกค้าและช่องทางการติดต่อ

• มีทีมสนับสนุนลูกค้าให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ผ่านทางอีเมล แชทสด และช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก
• อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ที่สามารถให้บริการเป็นภาษาไทยหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนไทยบางส่วน
• ข้อมูลช่องทางการติดต่อต่างๆ ระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งอีเมล support@blackbull.com และช่องทางโซเชียลมีเดียของบริษัท
• มีฟังก์ชันแชทสดบนเว็บไซต์ แต่จำเป็นต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม

ความเห็นจากผู้ใช้งานและการจัดอันดับโดยรวม

• จากการสำรวจรีวิวของผู้ใช้งานจริงในอินเทอร์เน็ต พบว่ามีการร้องเรียนหรือรีวิวในแง่ลบน้อยมาก ส่วนใหญ่ให้คะแนนความพึงพอใจในระดับสูง
• มีรายงานจากผู้ใช้รายหนึ่งว่าประสบปัญหาเรื่องการถอนเงินที่ล่าช้ากว่าปกติ แต่ BlackBull ชี้แจงว่าวิธีการถอนที่เลือกใช้อาจต้องใช้เวลานานกว่าแบบอื่น
• เว็บไซต์ TrustPilot ให้คะแนนความน่าเชื่อถือของ BlackBull Markets อยู่ที่ 4.5/5 ดาว จากผู้รีวิวประมาณ 257 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 2/06/2024)
• แม้จะถือว่าเป็นคะแนนที่ดี แต่จำนวนรีวิวยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายใหญ่อื่นๆ ในตลาด ซึ่งอาจยังไม่สะท้อนมุมมองในวงกว้างมากนัก

ข้อดีและข้อควรระวังเมื่อเทรดกับ BlackBull Markets

• ข้อดีของโบรกเกอร์รายนี้ ได้แก่ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ให้ซื้อขาย, เงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่น, แพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ดี รวมถึงมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล
• ส่วนข้อควรระวัง เช่น การไม่มีใบอนุญาตจาก FCA อังกฤษ ซึ่งอาจส่งผลต่อการให้บริการในบางพื้นที่
• การมีรีวิวและเสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานค่อนข้างน้อย อาจทำให้ยังประเมินข้อดีข้อเสียได้ไม่รอบด้านนัก
• การให้เลเวอเรจสูงแม้จะเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ควรมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี

BlackBull Markets โบนัสและโปรโมชันพิเศษ

• BlackBull Markets มักจะมีแคมเปญโบนัสและโปรโมชันพิเศษต่างๆ ให้กับลูกค้าเป็นระยะ เพื่อกระตุ้นให้มีการซื้อขายและเพิ่มความภักดี
• หนึ่งในโปรโมชันยอดนิยม คือการให้เครดิตโบนัสเมื่อฝากเงินตามเงื่อนไขที่กำหนด ช่วยเพิ่มเงินทุนในการเทรดให้กับลูกค้า
• นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันเทรดเป็นประจำ โดยให้รางวัลเป็นเงินสดหรือของรางวัลอื่นๆ สำหรับสมาชิกที่ทำผลงานได้ตามเกณฑ์
• อย่างไรก็ตาม โปรดศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของโปรโมชันแต่ละอย่างให้ถี่ถ้วน และพิจารณาความเหมาะสมกับตนเอง ก่อนเข้าร่วมทุกครั้ง

สรุป

BlackBull Markets น่าลงทุนหรือไม่ ในปี 2024 จากการประเมินข้อมูลรอบด้าน BlackBull Markets ดูเหมือนจะเป็นโบรกเกอร์ที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล มีเงื่อนไขและผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย แพลตฟอร์มใช้งานได้ดี และมีประวัติการดำเนินงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม จำนวนรีวิวจากลูกค้าที่ยังมีน้อย อาจทำให้การประเมินความน่าเชื่อถือทำได้ไม่สมบูรณ์นัก รวมถึงมีรายงานเรื่องความล่าช้าของการถอนเงิน ซึ่งแม้จะเป็นเคสเฉพาะแต่ก็อาจเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา นอกจากนี้ การไม่มีการให้บริการเป็นภาษาไทย และการไม่มีใบอนุญาตจากทาง FCA อาจเป็นข้อจำกัดอีกประการหนึ่ง

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนกับ BlackBull Markets นักลงทุนควรทำการบ้านศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งในแง่ข้อดีและข้อควรระวัง พิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการ ประสบการณ์ และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง รวมถึงมีการวางแผนบริหารความเสี่ยงและจัดสรรเงินลงทุนอย่างชาญฉลาด เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ในระยะยาว และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาจากการใช้บริการโบรกเกอร์ โดยเฉพาะเมื่อยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้างเช่นในกรณีนี้ การศึกษาเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่นๆ ก็เป็นอีกสิ่งที่แนะนำเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด