บทที่ 4 การสร้างกลยุทธ์การเทรดเบื้องต้น (เขียน EA เบื้องต้นด้วย FXDreema)

IUX Markets Bonus

การสร้างกลยุทธ์การเทรดเบื้องต้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนา Expert Advisor (EA) ที่สามารถดำเนินการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อเงื่อนไขตลาดต่าง ๆ

4.1 การตั้งค่าคำสั่งเทรด

การตั้งค่าคำสั่งเทรดเป็นขั้นตอนสำคัญในการกำหนดการดำเนินการของ EA โดยคำสั่งเทรดพื้นฐานที่ใช้ในการพัฒนา EA ได้แก่ คำสั่ง Buy และ Sell ซึ่งแต่ละคำสั่งจะมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

4.1.1 คำสั่ง Buy และ Sell

คำสั่ง Buy และ Sell เป็นคำสั่งพื้นฐานที่ใช้ในการเปิดตำแหน่งการเทรดในตลาด คำสั่งเหล่านี้สามารถตั้งค่าได้อย่างละเอียดเพื่อให้เหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดที่คุณต้องการ

  1. ลากบล็อก ‘Buy now’ ‘Sell now’ ไปยังพื้นที่ทำงาน
    • บล็อกคำสั่งซื้อและขาย มีฟังชั่นให้ใช้งานแบบเดียวกัน
    • บล็อกคำสั่งซื้อและขาย ต้องพึ่งพาบล็อกอื่นเพื่อกำหนดกลยุทธ์เพื่อทำไรอย่างแม่นยำ
เขียน EA เบื้องต้นด้วย fxdreema
เขียน EA เบื้องต้นด้วย fxdreema
  1. ลากบล็อก ‘Condition’ ไปยังพื้นที่ทำงาน
    • สร้างกลยุทธ์ เงื่อนไข จังหวะจุดเข้าซื้อหรือขาย โดยใช้งานกลุ่มบล็อกต่างๆๆ เช่น Condition Indicator TimeFilters(ควบคุมTick) หรือบล็อกอื่นๆที่เกี่ยวของ
      การลาก Block condition fxdreema
      การลาก Block condition fxdreema
    • คลิกที่จุดเชื่อมต่อของบล็อก ‘Condition’ แล้วลากไปเชื่อมต่อกับจุดเชื่อมต่อของบล็อก ‘Buy now’ ‘Sell now’
  2. การเชื่อมต่อ ของบล็อกต่างๆ ตามลำดับก่อนหลัง
    • ลำดับก่อนหลังของบล็อกสำคัญมากเพื่อความเข้าใจลำดับเงื่อนไขกลยุทธ์ที่ซับซ้อนต้องเรียงลำดับให้ถูกต้องอย่างเป็นระเบียบ และสามารถตรวจสอบในแต่ละขั้นตอนที่ง่ายขึ้น
      การเชื่อมต่อ Blcok ต่าง ๆ ของ fxdreema
      การเชื่อมต่อ Blcok ต่าง ๆ ของ fxdreema
    • ผลการทดสอบ ตัวอย่างสามารถทำงานและเปิดออเดอร์ตามเงื่อนไขได้ เมื่อราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น Moving Average 50 วัน บล็อก Condition ตั้งค่าไว้คือ เป็นเท็จ (การใช้ค่าเท็จไม่ใช่เงื่อนไขที่ดี เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ตรงตามบล็อกที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งราคาซื้อหรือขายที่ดีควรจะอยู่ใกล้เส้น Moving Average )
      ผลการทดสอบการเทรด fxdreema block
      ผลการทดสอบการเทรด fxdreema block
    • ออเดอร์ที่เกิดขึ้นมีจำนวนไม่จำกัดเนื่องจากการทำงานวนซ้ำทุกๆTickของราคา
    • จำเป็นต้องมีบล็อกจำพวก TimeFilterCheck Trades & Order Count  กำกับจำนวนออเดอร์

เคล็ดลับการตั้งค่าคำสั่งเทรด

  • การใช้ Buy และ Sell อย่างมีประสิทธิภาพ: การออกแบบกลยุทธ์สำคัญกับการออกคำสั่งซื้อและขาย
  • การตั้งค่า Lot size ที่เหมาะสม: ขนาดของ Lot ควรสอดคล้องกับขนาดบัญชีและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  • การตรวจสอบ Slippage: ค่าความคลาดเคลื่อนของราคาควรตั้งค่าให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเปิดคำสั่งเทรด

การตั้งค่าคำสั่งเทรดเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนา EA ที่มีประสิทธิภาพใน FXdreema การเข้าใจและตั้งค่าคำสั่งเทรดอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ตอบสนองต่อสภาพตลาดและสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

 YWO Promotion

ในบทถัดไป เราจะพูดถึงการตั้งค่าและการปรับแต่งบล็อกคำสั่งเทรดเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ EA ของคุณ

 

4.1.2 การตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss

การตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนา Expert Advisor (EA) ที่มีประสิทธิภาพ การตั้งค่าเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดในตลาด การตั้งค่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันความสูญเสียที่ไม่จำเป็นและทำให้กลยุทธ์การเทรดของคุณมีความยั่งยืนมากขึ้น

Take Profit คือการตั้งค่าระดับราคาที่คุณต้องการปิดการเทรดเพื่อรับกำไร เมื่อราคาสินทรัพย์ถึงระดับนี้ EA จะปิดการเทรดอัตโนมัติและล็อกกำไรที่ได้รับ

Stop Loss คือการตั้งค่าระดับราคาที่คุณต้องการปิดการเทรดเพื่อจำกัดการขาดทุน เมื่อราคาสินทรัพย์ถึงระดับนี้ EA จะปิดการเทรดอัตโนมัติเพื่อลดการขาดทุนที่เกิดขึ้น

ขั้นตอนการตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss

  1. บล็อกควบคุม บล็อกที่เกี่ยวข้อง TP SL
    • ฟังชั่น SL TP อยู่ในบล็อก Buy Sell ซึ่งกำหนดและเซ็ตค่าหรือกลยุทธ์ได้จำกัด เช่น Fixed pips

% of the price หรือ % of Take-Profit เป็นต้น

block ควบคุม fxdreema
block ควบคุม fxdreema
  • บล็อกกลุ่ม Trailing Stop / Break Even เป็นอีกจำพวกที่ควบคุม กำไร ขาดทุนได้ และยังมีบล็อกอื่นๆอีกที่มีความเกี่ยวข้องให้เลือกออกแบบกลยุทธ์

เคล็ดลับการตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss

  • การใช้ระดับที่เหมาะสม: การตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss ควรสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณและขนาดบัญชีการเทรด
  • การใช้ Trailing Stop: คุณสามารถใช้ Trailing Stop เพื่อปรับระดับ Stop Loss อัตโนมัติตามการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อรักษากำไรที่ได้รับและลดความเสี่ยง
  • การทดสอบการตั้งค่า: ทดสอบการตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss ในสภาพตลาดที่แตกต่างกันเพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าดังกล่าวมีประสิทธิภาพในทุกสภาพตลาด

การทดสอบและปรับปรุงการตั้งค่า

หลังจากตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss แล้ว คุณควรทำการทดสอบ EA ของคุณในสภาพตลาดที่แตกต่างกันเพื่อให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเหล่านี้มีประสิทธิภาพ คุณสามารถปรับปรุงการตั้งค่าตามผลลัพธ์ที่ได้รับจากการทดสอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ EA ในการทำกำไรและลดความเสี่ยง

การตั้งค่า Take Profit และ Stop Loss เป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนา EA ที่มีประสิทธิภาพ การตั้งค่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันความสูญเสียที่ไม่จำเป็นและทำให้กลยุทธ์การเทรดของคุณมีความยั่งยืนมากขึ้น ในบทถัดไป เราจะพูดถึงการตั้งค่าบล็อกคำสั่งเทรดเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ EA ของคุณ

 

4.2 การใช้ Indicators เพื่อสร้างสัญญาณ

การใช้ Indicators ในการสร้างสัญญาณเทรดเป็นเทคนิคที่สำคัญในการพัฒนา Expert Advisor (EA) Indicators ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และประเมินสภาวะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้เราสามารถตัดสินใจเทรดได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ในหัวข้อนี้ เราจะพูดถึงการใช้ Moving Average เพื่อสร้างสัญญาณเทรด

4.2.1 การใช้ Moving Average

Moving Average (MA) เป็นหนึ่งใน Indicators ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการการเทรด การใช้ MA ในการสร้างสัญญาณเทรดสามารถทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ โดย MA เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่ช่วยให้เราสามารถระบุแนวโน้มของตลาดได้ การใช้ MA ในการสร้างสัญญาณสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ MA ตัดกัน หรือการใช้ MA ตัดกับราคาตลาด

การตั้งค่า Moving Average ใน FXdreema

  1. ใช้งานบล็อก Condition
    • Condition เป็นบล็อกเงื่อนไขเปรียบเทียบข้อมูลซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลายตามข้อมูลที่มีให้เลือกใช้งาน ซึ่งเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ใช้งาน MA ได้
    • Price x> Indicator หรือ Price x< Indicator เป็นบล็อกกลุ่ม Conditions for Indicators ที่ใช้งาน MA ได้เหมือนกัน
  2. ตั้งค่าเงื่อนไข Moving Average
    • ดับเบิลคลิกที่บล็อก ‘Condition’ เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า
    • ในหน้าต่างการตั้งค่า ให้ตั้งค่าดังนี้:
      • Left Operand: เลือก ‘Price’ และตั้งค่าเป็นราคาปิด (Ask)
      • Operator: เลือก ‘>’
      • Right Operand: เลือก ‘Indicator’ และเลือก ‘Moving Average’
      • ตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Moving Average เช่น Period = 50, MA Method = Simple (SMA), Applied Price = Close
        ตั้งคำสั่งเทรด fxdreema
        ตั้งคำสั่งเทรด fxdreema
  1. ตั้งค่าคำสั่งเทรด
    • ดับเบิลคลิกที่บล็อกคำสั่งเทรดเพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า
    • ตั้งค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น Lot size, Stop Loss และ Take Profit
      ตั้ง parameter ต่าง ๆ fxdreema
      ตั้ง parameter ต่าง ๆ fxdreema
  2. เพิ่มบล็อกคัดกรองออเดอร์
    • เลือกบล็อก Once per bar ( เปิดออเดอร์ได้แค่ 1ออเดอร์/1bar )
    • เลือกบล็อก AND จากกลุ่ม Controlling Blocks เพื่อใช้งาน รวมเงื่อนไขแต่ละบล็อก
    • เชื่อมต่อ โนดของแต่ละบล็อก
เพิ่ม block คัดกรอง order fxdreema
เพิ่ม block คัดกรอง order fxdreema

ตัวอย่าง Moving Average ทดสอบกราฟ

  • เมื่อออกแบบครบแล้วเริ่มการทดสอบเลือกบันทึกไฟล์แบบ .mq4 .exe4

    ปุ่ม mq4 ex4 fxdreema
    ปุ่ม mq4 ex4 fxdreema

 

ต่อไปนี้คือตัวอย่างการทดสอบ EA เบื้องต้น

ตัวอย่างการทดสอบ EA fxdreema ma
ตัวอย่างการทดสอบ EA fxdreema ma

จากตัวอย่างการทดสอบ จะเห็นได้ว่า ออเดอร์ที่เกิดขึ้นนั้นตรงตามเงื่อนไขคือ

  • เมื่อราคาสูงกว่าเส้น MA ส่งคำสั่งซื้อ เมื่อราคาต่ำกว่าเส้น MA ส่งคำสั่งขาย
  • 1bar เปิดออเดอร์ได้แค่ 1 ออเดอร์เท่านั้น ( แต่ก็มีจำนวนมาก )

เคล็ดลับการใช้ Moving Average

  • เลือก Period ที่เหมาะสม: การเลือกค่า Period ที่เหมาะสมสำหรับ Moving Average เป็นสิ่งสำคัญ ค่า Period ที่สั้นจะให้สัญญาณที่ไวกว่าแต่มีโอกาสเกิดสัญญาณเท็จมากขึ้น ค่า Period ที่ยาวจะให้สัญญาณที่มั่นคงกว่าแต่ช้ากว่า
  • ใช้ MA หลายตัว: การใช้ Moving Average หลายตัว เช่น การใช้ MA สั้นและ MA ยาวร่วมกัน สามารถช่วยลดสัญญาณเท็จและยืนยันแนวโน้มได้ดียิ่งขึ้น
  • ปรับแต่งการตั้งค่า: ปรับแต่งพารามิเตอร์ของ Moving Average เช่น การใช้ Simple Moving Average (SMA) หรือ Exponential Moving Average (EMA) ตามความเหมาะสมกับกลยุทธ์ของคุณ

การใช้ Moving Average เพื่อสร้างสัญญาณเทรดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมในวงการการเทรด การตั้งค่าและใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถพัฒนา EA ที่มีประสิทธิภาพและสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

ในบทถัดไป เราจะพูดถึงการใช้ Indicators อื่น ๆ เพื่อสร้างสัญญาณเทรดเพิ่มเติม เช่น Stochastic และ MACD เพื่อให้คุณสามารถพัฒนา EA ที่ตอบสนองต่อสภาพตลาดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

 

4.2.2 การใช้ Stochastic

การใช้ stochastic ใน fxdreema
การใช้ stochastic ใน fxdreema
  • เลือกบล็อก Condition สร้างเงื่อนไข Stochastic บล็อกไอดี 1และ3 เป็นแนวโน้มใหญ่
  • การตั้งค่าการใช้งาน Stochastic ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ
    การตั้งค่า stochastic fxdreema
    การตั้งค่า stochastic fxdreema
  • บล็อก Condition ไอดี 6และ7 เป็นจุดจังหวะเข้าส่งคำสั่งซื้อ ขาย
  • การตั้งค่าการใช้งาน Stochastic ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ
การตั้งค่า การใช้งาน stochastic ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ
การตั้งค่า การใช้งาน stochastic ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ

ผลการทดสอบ

การทดสอบ stochastic fxdreema
การทดสอบ stochastic fxdreema
  • มี Stochastic สองค่าในกราฟ ด้านล่างเป็นสัญญาณหลัก(50,5,10) สัญญาณส่งคำสั่งซื้อ ขาย(7,3,5)
  • ออเดอร์ที่เปิดได้ ตรงตามเงื่อนไข คือ เมื่อค่า ST สูงกว่า 80 ส่งคำสั่ง Sell เมื่อค่า ST ต่ำกว่า 20 ส่งคำสั่ง Buy
  • 1 ออเดอร์ / 1 bar

4.2.3 การใช้ MACD

ในหัวข้อนี้จะใช้ MACD จากกลุ่มบล็อก Various Signals เป็นตัวอธิบาย

การใช้งาน macd fxdreema
การใช้งาน macd fxdreema
  • เลือกบล็อก MACD Divergence (Bearish) และ MACD Divergence (Bullish)
  • การตั้งค่า ผู้ออกแบบสามารถแก้ไขในส่วน MACD
  • การควบคุม Tick ราคาเลือกใช้ Once per tick
    การตั้งค่าคำสั่งซื้อขาย macd fxdreema
    การตั้งค่าคำสั่งซื้อขาย macd fxdreema
  • การตั้งค่าคำสั่งซื้อ ขาย ใช้ค่ามาตรฐาน lot 0.1 SL 50 TP 50
  • บล็อก AND จำเป็นมากในการรวมเงื่อนไขของบล็อกสัญญาณทิศทางให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
  • ผลการทดสอบ ในกราฟจะเป็นหน้าต่าง MACD อยู่ด้านล่าง หน้าหลักจะมี ออเดอร์ เส้น Divergence กำกับ และเส้นสถานะTPหรือSL
    ผลการทดสอบกราฟ macd fxdreema
    ผลการทดสอบกราฟ macd fxdreema
  • เนื่องจากตัว MACD Divergence ให้สัญญาณยากต้องเลือกทามเฟรมในการทดสอบที่น้อยเพื่อความรวดเร็วในการแสดงผล

เคล็ดลับการใช้ Indicator

  • จะใช้หรือไม่ใช้: ไม่มี Indicator ตัวใดที่สามารถให้สัญญาณที่ถูกต้อง 100% เสมอไป Indicator ทุกตัวมีข้อจำกัด Indicator อาจไม่เหมาะสมกับทุกตลาดหรือทุกช่วงเวลา ควรทดลองปรับแต่งค่าพารามิเตอร์เพื่อหาเซ็ตติ้งที่เหมาะสม
  • ใช้ Indicator ตามแนวโน้มตลาด: Indicator บางตัวทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน เช่น Moving Averages และ MACD แต่จะทำงานได้ไม่ดีในตลาดที่มีแนวโน้มไม่ชัดเจน (Sideway)
  • ทดสอบให้มั่นใจ: ทดสอบ Indicator ในบัญชีเดโม่ก่อนที่จะนำไปใช้จริง เพื่อทำความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไรในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน

 

4.3 ตัวอย่าง EA ที่เขียนด้วยพื้นฐานอย่างง่าย

การสร้าง Expert Advisor (EA) ด้วยพื้นฐานอย่างง่ายเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นเรียนรู้การพัฒนา EA โดยใช้ FXdreema ในส่วนนี้ เราจะสร้างตัวอย่าง EA ที่ใช้ Moving Average (MA) เพื่อสร้างสัญญาณเทรด โดยใช้เงื่อนไขพื้นฐานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการทดสอบการทำงานของ EA

4.3.1 EA MA

EA MA คือ EA ที่ใช้ Moving Average เป็นตัวสร้างสัญญาณเทรด โดยจะเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) เมื่อราคาปิดสูงกว่าค่า Moving Average และเปิดคำสั่งขาย (Sell) เมื่อราคาปิดต่ำกว่าค่า Moving Average

ขั้นตอนการสร้าง EA MA ด้วย FXdreema

  1. สร้างโปรเจคใหม่
    • เปิด FXdreema และสร้างโปรเจคใหม่ ตั้งชื่อโปรเจคว่า “EA_MA”
  2. เลือกบล็อก กำกับ Time ออเดอร์
    • ลากบล็อก No Trade จากเมนูด้านซ้ายมาวางในพื้นที่ทำงาน เพื่อคุมออเดอร์
  3. เพิ่มบล็อก ‘Condition’ สำหรับคำสั่งซื้อ (Buy)
    • ลากบล็อก ‘Condition’ มาวางถัดจากบล็อก ‘Start’
    • ตั้งค่าเงื่อนไขดังนี้:
      • Left Operand: เลือก ‘Price’ และตั้งค่าเป็นราคาปิด (Ask)
      • Operator: เลือก ‘>’
      • Right Operand: เลือก ‘Indicator’ และเลือก ‘Moving Average’
      • ตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Moving Average เช่น Period = 50, MA Method = Simple (SMA), Applied Price = Close
  1. เพิ่มบล็อกคำสั่งซื้อ (Buy now)
    • ลากบล็อก ‘Buy now’ มาวางถัดจากบล็อก ‘Condition’
    • เชื่อมต่อบล็อก ‘Condition’ กับบล็อก ‘Buy now’
    • ตั้งค่าพารามิเตอร์ของคำสั่งซื้อ เช่น Lot size = 0.1, Stop Loss = 50 Pips, Take Profit = 100 Pips
      เพิ่ม block คำสั่งซื้อขาย fxdreema
      เพิ่ม block คำสั่งซื้อขาย fxdreema
  2. เพิ่มบล็อก ‘Condition’ สำหรับคำสั่งขาย (Sell)
    • ลากบล็อก ‘Condition’ มาวางถัดจากบล็อก ‘Buy now’
    • ตั้งค่าเงื่อนไขดังนี้:
      • Left Operand: เลือก ‘Price’ และตั้งค่าเป็นราคาปิด (Bid)
      • Operator: เลือก ‘<‘
      • Right Operand: เลือก ‘Indicator’ และเลือก ‘Moving Average’
      • ตั้งค่าพารามิเตอร์ของ Moving Average เช่น Period = 50, MA Method = Simple (SMA), Applied Price = Close
  1. เพิ่มบล็อกคำสั่งขาย (Sell now)
    • ลากบล็อก ‘Sell now’ มาวางถัดจากบล็อก ‘Condition’
    • เชื่อมต่อบล็อก ‘Condition’ กับบล็อก ‘Sell now’
    • ตั้งค่าพารามิเตอร์ของคำสั่งขาย เช่น Lot size = 0.1, Stop Loss = 50 Pips, Take Profit = 100 Pips

ผลการทดสอบ จากตัวอย่าง

 

ผลการทดสอบตัวอย่าง EA ma fxdreema
ผลการทดสอบตัวอย่าง EA ma fxdreema
  • ช่วงทดสอบเป็น Sideways คือสภาวะที่ Pattern ของราคา ไม่มีทิศทางที่แน่นอน ทำให้ EA ไม่สามารถทำกำไรได้ ( ช่วงทดสอบสั้นๆแค่ให้เห็นภาพ )
  • การตั้งค่า SL TP มีผลต่อกำไร ขาดทุน การออกแบบในรูปแบบอื่นช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร

 

เคล็ดลับการสร้าง EA MA

  • ปรับแต่งค่า Period ของ MA: ทดลองใช้ค่า Period ที่แตกต่างกันเพื่อหาค่าที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด
  • การใช้ MA หลายตัว: เพิ่มบล็อก ‘Condition’ และ ‘Moving Average’ เพิ่มเติมเพื่อใช้ MA หลายตัวในการสร้างสัญญาณเทรดที่ซับซ้อนขึ้น
  • การทดสอบและปรับปรุง: หลังจากสร้าง EA เสร็จสิ้น ให้ทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) เพื่อปรับปรุงและปรับแต่งพารามิเตอร์ของ EA ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การสร้าง EA MA ด้วยพื้นฐานอย่างง่ายใน FXdreema เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นเรียนรู้การพัฒนา EA การใช้ Moving Average เป็นตัวสร้างสัญญาณเทรดช่วยให้คุณสามารถพัฒนา EA ที่มีประสิทธิภาพและสามารถทำกำไรได้ในสภาพตลาดต่าง ๆ

4.3.2 EA เบิ้ลลอท Martingale

ความเสี่ยงของการเพิ่มขนาดของลอทเรื่อยๆ ตามจำนวนออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นนั้น นับเป็นความเสี่ยงที่สูง แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้ การจำกัดจำนวนออเดอร์ที่จะเพิ่มขึ้นและขนาดลอทที่มากขึ้นต้องสัมพันธ์กับการบริหารทุน

EA martingale fxdreema
EA martingale fxdreema
    •  กำหนดค่าตัวแปรคงที่ และ ค่าตัวแปรผันแปร
      ประกาศตัวแปร FXdreema lot
      ประกาศตัวแปร FXdreema lot
    • ประกาศค่าตัวแปรผันแปรในหน้าต่าง On Init   ( LotsN เท่ากับ Lots )
      ออกแบบตัวแปรในหน้า ontick fxdreema
      ออกแบบตัวแปรในหน้า ontick fxdreema
    • ออกแบบระบบ Martingale ในหน้า On Tick ( ในการออกแบบตัวอย่างไม่ได้ยกสัญญาณการส่งคำสั่งขาย โดยใช้ indicator หรือสัญญาณไดๆเลย )
    • บล็อกไอดี 5/6/7 เป็นบล็อกตรวจเช็คออเดอร์ จำกัดออเดอร์ นับจำนวนออเดอร์ เป็นบล็อกชุดเริ่มต้นในการตรวจสอบเงื่อนไข
    • AND เป็นบล็อกรวมเงื่อนไขเป็นจริงให้ครบตามบล็อกที่เชื่อมต่อ ไม่เป็นจริงบล็อกไดบล็อกหนึ่งไม่ได้
    • Sell now ส่งคำสั่งขาย
      sell now ส่งคำสั่งขาย fxdreema
      sell now ส่งคำสั่งขาย fxdreema
    • Formula เป็นบล็อกกำกับการเพิ่มขนาดลอทซึ่งเป็นบล็อกสุดท้ายในการเชื่อมต่อ

LotsN คูณ Multi เท่ากับ LotsN เมื่อคำสั่งขายสำเร็จเปิดออเดอร์แรก บล็อกนี้จะทำงานแล้วเกิด LotsN ใหม่ทับ LotsN ค่าเดิมทันทีแล้วพร้อมใช้กับออเดอร์ต่อไป

การใช้ lot คูณ lot ใน martingale Ea
การใช้ lot คูณ lot ใน martingale Ea
    • การประมวลผลออเดอร์แรก ไอดีบล็อก 5,6,7,8,9,10 จบ ออเดอร์สองจะไม่ได้ประมวลผลตามชุดบล็อกชุดเดิมนี้เนื่องจากมีบล็อก No Trade ที่เป็นเท็จเพราะเปิดออเดอร์แรกได้แล้ว
    • การประมวลผลออเดอร์สองจะเป็นออเดอร์เริ่มระบบ Martingale ซึ่งชุดบล็อกที่ประมวลผลจะเป็นชุด ไอดี 7,11,12,13,14,15,16,10 และจะทำงานวนซ้ำเรื่อยๆตามการจำกัดออเดอร์ที่ตั้งค่าไว้หรือจนกว่าจะทำกำไร TP
      การประมวลผลออเดอร์เป็นระบบเริ่ม martingale fxdreema
      การประมวลผลออเดอร์เป็นระบบเริ่ม martingale fxdreema
    • Check trades count เป็นบล็อกจำกัดจำนวนออเดอร์ให้อยู่ในจำนวนที่ต้องการ
    • For each Trade เป็นบล็อกตรวจเช็ดออเดอร์ที่เปิดอยู่นับจากใหม่สุดไปหาสุดท้าย(ตั้งค่าได้)
      forex each trade เป็นบล็อคตรวจ fxdreema
      forex each trade เป็นบล็อคตรวจ fxdreema
    • Check type เป็นบล็อกเช็คยืนยันออเดอร์โดยเลือกชนิดของออเดอร์นั้นๆ ออเดอร์แรก Sell
    • Condition บล็อกนี้ใช้เปรียบเทียบข้อมูลของราคาและออเดอร์ที่เปิดอยู่ก่อนหน้า
    • No trade nearby บล็อกนี้ตรวจสอบระยะที่กำหนดไม่ให้มีออเดอร์เปิดอยู่
    • AND ใช้รวบรวมเป็นจริงของบล็อกก่อนหน้า
      and เป็น block รวมเงื่อนไข fxdreema
      and เป็น block รวมเงื่อนไข fxdreema
    • Sell now บล็อกนี้ที่ทำแยกเพื่อความเข้าใจและไม่สับสน สามารถระบุ comment กำกับในกราฟได้
    • Formula วนกลับมาใช้งานที่บล็อกสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนขนาดลอทใหม่ในออเดอร์ถัดไป
    • ในกรอบการออกแบบ Martingale ครบแล้ว ในส่วน TP หรือการทำกำไร จะใช้ระบบรวบปิดทั้งชุดออเดอร์ที่เกิดขึ้น
      การออกแบบ martingale ครบแล้ว
      การออกแบบ martingale ครบแล้ว
    • Check trades count กำกับจำนวนที่เช็คไม่เกินตามที่กำหนดและระบุชนิดออเดอร์ด้วย
    • Check profit (unrealized) บล็อกนี้ประมวลผลกำไรตามฟังชั่นการเซ็ตค่า
    • Close trades ปิดทุกออเดอร์
      หน้าต่าง ontrade สำหรับ fxdreema
      หน้าต่าง ontrade สำหรับ fxdreema
    • หน้าต่าง On Trade ใช้สร้างชุด รีเซ็ตขนาดลอท เมื่อออเดอร์ถูกปิด
    • LotsN เท่ากับ Lots
    • https://fxdreema.com/shared/gJyHB0axc

ผลการทดสอบ

ผลการทดสอบ EA martingale fxdreema
ผลการทดสอบ EA martingale fxdreema
    • ตัวอย่างข้างต้นออกแบบเพียงด้าน Sell ด้านเดียวเพื่อความเข้าใจการทำงานของระบบ Martingale แบบง่ายที่สุด ชุดบล็อกที่ใช้อธิบายไม่ใช่บล็อกแบบเดียวที่สามารถออกแบบระบบนี้ได้ยังมีรูปแบบอื่นๆอีกที่สามารถออกแบบระบบ Martingale นี้
 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser