โบรกเกอร์ TradingView ดีไหม รีวิวข้อดีข้อเสียปี 2025 [อัปเดตล่าสุด]

IUX Markets Bonus
TradingView
TradingView

ผู้ให้บริการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักเทรดชาวไทย โบรกเกอร์ TradingView ดีไหม? ด้วยการเติบโตของตลาดฟอเร็กซ์ในประเทศไทยที่ก้าวกระโดด ทำให้แพลตฟอร์มกราฟและโบรกเกอร์จากต่างประเทศรายใหญ่ เริ่มเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น

บทความนี้ครอบคลุม: โบรกเกอร์ TradingView คืออะไร, โบรกเกอร์ไหนดีที่สุดปี 2025, ข้อดีข้อเสีย, ประเภทบัญชี, วิธีเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม และวิธีฝาก-ถอน

ซึ่งนั่นรวมไปถึง TradingView ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มกราฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนจาก 200+ ประเทศทั่วโลก และมีการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำกว่า 80 แห่ง ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงตลาดการเงินโลกได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจะมาดูกันว่า โบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ในไทยมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

Contents

สารบัญ

โบรกเกอร์ TradingView คือ อะไร?

โบรกเกอร์ TradingView
โบรกเกอร์ TradingView

เมื่อมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ TradingView หรือโบรกเกอร์ที่รองรับในไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีความนิยมสูงขนาดนี้ โบรกเกอร์ TradingView คือผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินที่สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม TradingView โดยตรง ทำให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์กราฟและเปิดคำสั่งซื้อขายได้จากหน้าจอเดียวกัน ไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์ม

TradingView เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคระดับโลกและคุณสมบัติโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน เปิดให้นักลงทุนแชร์ไอเดียการเทรดและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก

โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView มักเป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

 YWO Promotion

สำหรับในปัจจุบันนักลงทุนไทยที่ใช้ TradingView สามารถเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ได้หลากหลาย โดยมี โบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกหลายแห่งที่ให้บริการภาษาไทย และรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยโดยตรง

โบรกเกอร์ TradingView ดีไหม

ผู้ให้บริการซื้อขาย CFD หรือ Forex ที่เชื่อมต่อกับ TradingView นั้น แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเราได้รวบรวมจุดเด่นและข้อเสียเปรียบที่ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจเกี่ยวกับการไว้ใจในการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็นข้อดี และ ข้อเสียของโบรกเกอร์ TradingView ที่ให้บริการในไทยได้ดังนี้

ข้อดี โบรกเกอร์ TradingView

ในส่วนของข้อดีของโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ในไทย มีจุดเด่นที่น่าสนใจพร้อมขอแนะนำด้วยกันหลายประการ โดยจะขอแบ่งออก 8 เป็นข้อย่อยให้เข้าใจง่ายดังนี้

  1. ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ – โบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีใบอนุญาตถูกต้องและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ เช่น FCA (อังกฤษ), ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส)
  2. เงื่อนไขการเทรดที่เอื้อต่อเทรดเดอร์ไทย – ค่าสเปรดต่ำ, บางโบรกเกอร์ไม่มีค่าสว็อป, และบางแห่งไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนการเทรดลดลงอย่างมาก
  3. โดดเด่นเรื่องแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟ – TradingView ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีอินดิเคเตอร์ให้เลือกใช้มากกว่า 100 ตัว และสามารถเขียนสคริปต์อินดิเคเตอร์เองได้ผ่าน Pine Script
  4. สร้างบัญชีการเทรดง่ายไม่กี่ขั้นตอน – กระบวนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView นั้นง่ายและรวดเร็ว สามารถทำได้ออนไลน์ทั้งหมด
  5. ผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย – สามารถเทรดได้หลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้ง Forex, หุ้น, อนุพันธ์, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  6. ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน – โบรกเกอร์หลายแห่งรองรับการฝากเงินผ่านธนาคารไทยโดยไม่มีค่าธรรมเนียม (ผ่านเว็บไซต์โดยตรงของโบรกเกอร์ ไม่ใช่ผ่าน TradingView)
  7. ฝากเงินสะดวก – สามารถฝากเงินได้หลากหลายช่องทางผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์โดยตรง รวมถึงบัตรเครดิต, โอนเงินผ่านธนาคารไทย, และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
  8. ระบบการสนับสนุนช่วยเหลือเยี่ยม – โบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่งมีทีมงานสนับสนุนภาษาไทย พร้อมให้บริการผ่าน Live Chat, อีเมล และโทรศัพท์

ข้อเสีย โบรกเกอร์ TradingView

เห็นข้อดีของโบรกเกอร์กันไปแล้ว ในหัวข้อนี้มาดูข้อเสียเปรียบหรือจุดด้อยของผู้ให้บริการรายนี้กันบ้าง ซึ่งได้แบ่งออกเป็นข้อย่อยง่ายๆ ด้วยกัน 5 ข้อดังนี้

  1. ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับแพ็คเกจพรีเมียม – TradingView มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน แต่คุณสมบัติขั้นสูงและประโยชน์เต็มรูปแบบจะอยู่ในแพ็คเกจแบบเสียเงิน ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงสำหรับนักลงทุนทั่วไป
  2. โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่อาจมีเงื่อนไขสูง – โบรกเกอร์บางแห่งกำหนดเงินฝากขั้นต่ำสูงสำหรับการรับโบนัสหรือโปรโมชั่น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่มีทุนน้อย
  3. การถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมและใช้เวลานาน – แม้การฝากเงินจะสะดวก แต่การถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมและใช้เวลาในการตรวจสอบและดำเนินการ
  4. บางโบรกเกอร์ยังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ – แม้จะมีฐานลูกค้าในไทยมาก แต่บางโบรกเกอร์ยังไม่มีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มภาษาไทยที่สมบูรณ์
  5. ไม่สามารถฝากถอนเงินผ่าน TradingView โดยตรง – นักลงทุนไทยต้องฝากถอนเงินผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน TradingView ได้ ทำให้ต้องสลับระหว่างแพลตฟอร์ม

ความน่าเชื่อถือของ โบรกเกอร์ TradingView

ความน่าเชื่อถือของ TradingView โบรกเกอร์ไทย
ความน่าเชื่อถือของ TradingView โบรกเกอร์ไทย

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView คือความน่าเชื่อถือ โดยส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView มักมีใบอนุญาตหลายใบ จากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียง ทำให้นักลงทุนไทยมั่นใจได้ในความปลอดภัยของเงินทุน

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการ

TradingView ก่อตั้งเมื่อปี 2011 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟยอดนิยมทั่วโลก ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 14 ปี และมีฐานผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน ส่วนโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีประวัติการให้บริการยาวนานกว่า 10-20 ปี

ใบอนุญาตและการกำกับดูแล

โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView ในไทยส่วนใหญ่ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำระดับโลก เช่น:

  • Financial Conduct Authority (FCA) – หน่วยงานกำกับดูแลจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในโลก
  • Australian Securities and Investments Commission (ASIC) – หน่วยงานกำกับดูแลจากออสเตรเลีย ซึ่งมีมาตรฐานการกำกับดูแลสูง
  • Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) – หน่วยงานกำกับดูแลจากไซปรัส ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม Forex และ CFD
  • Financial Sector Conduct Authority (FSCA) – หน่วยงานกำกับดูแลจากแอฟริกาใต้

การที่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า

คะแนนจาก Trustpilot

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ยังสามารถวัดได้จากคะแนนรีวิวจากผู้ใช้จริง โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView ส่วนใหญ่มีคะแนนบน Trustpilot ตั้งแต่ 3.5-4.5 ดาว ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

ข่าวด้านการโกงหรือการตุกติก

เมื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวด้านการโกงหรือการตุกติกของโบรกเกอร์ที่รองรับ TradingView พบว่าส่วนใหญ่มีประวัติดีไม่มีประเด็นปัญหาร้ายแรง อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้บางรายเกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงินหรือการสนับสนุนลูกค้า แต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีทีมงานพร้อมแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

โบรกเกอร์ไทยยอดนิยมที่รองรับ TradingView

TradingView โบรกเกอร์ไหนดี
TradingView โบรกเกอร์ไหนดี

จากข้อมูลล่าสุดปี 2025 มีโบรกเกอร์หลายแห่งที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนไทยและรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView โดยตรง ได้แก่:

  1. IG – โบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับการจัดอันดับเป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ TradingView ในปี 2025 มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดมากกว่า 19,000 รายการ
  2. Interactive Brokers – ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของตลาดที่เปิดให้เทรด รองรับการเทรดหุ้นทั่วโลก รวมถึง Forex, อนุพันธ์ และอื่นๆ
  3. Saxo – โดดเด่นด้านการวิจัยและความหลากหลายของตลาด มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดมากกว่า 40,000 รายการ
  4. FOREX.com – หนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำที่มีประสบการณ์ยาวนาน ให้บริการครอบคลุมทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  5. Pepperstone – เหมาะสำหรับการเทรดแบบ Copy Trading และรองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader อีกด้วย
  6. XTB – ได้รับรางวัล “Best Stock Broker” ในปี 2023 จาก TradingView มีบริการภาษาไทยและรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย
  7. Capital.com – โบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  8. IC Markets – เหมาะสำหรับการเทรดแบบอัลกอริทึม มีสภาพคล่องสูงและค่าสเปรดต่ำ
  9. Eightcap – โบรกเกอร์พร้อมซัพพอร์ตภาษาไทยเต็มรูปแบบ รองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยโดยไม่มีค่าธรรมเนียม
  10. Oanda – โบรกเกอร์เก่าแก่ที่น่าเชื่อถือสูง มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง

ประเภทบัญชี TradingView โบรกเกอร์

การใช้งาน TradingView สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ แพ็คเกจของ TradingView เอง และประเภทบัญชีของโบรกเกอร์ที่คุณเลือกใช้

แพ็คเกจของ TradingView

TradingView มีแพ็คเกจให้เลือกใช้ 4 ระดับ:

  1. Basic (ฟรี) – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีข้อจำกัดด้านจำนวนอินดิเคเตอร์ การตั้งค่าแจ้งเตือน และการบันทึกเทมเพลตกราฟ
  2. Essential – เริ่มต้นที่ $14.95 ต่อเดือน มีคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่น การตั้งค่าแจ้งเตือนไม่จำกัด และไม่มีโฆษณา
  3. Plus – เริ่มต้นที่ $29.95 ต่อเดือน ได้รับอินดิเคเตอร์เพิ่มเติมและช่วงเวลาที่กำหนดเอง
  4. Premium – เริ่มต้นที่ $59.95 ต่อเดือน รองรับทุกคุณสมบัติขั้นสูง รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์
แพ็คเกจ TradingView และการซื้อขาย
แพ็คเกจ TradingView และการซื้อขาย

ประเภทบัญชีของโบรกเกอร์

โบรกเกอร์แต่ละแห่งมีประเภทบัญชีที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น:

บัญชีมาตรฐาน (Standard)

  • ซื้อขายได้ทุกผลิตภัณฑ์ที่โบรกเกอร์ให้บริการ
  • เลเวอเรจขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ (บางแห่งสูงถึง 1:500)
  • ค่าสเปรดขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ (ตั้งแต่ 0.5 Pips ขึ้นไป)
  • สามารถเปิดออเดอร์ขนาดเล็กได้ (เริ่มต้นที่ 0.01 ล็อต)
  • บางโบรกเกอร์ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • อาจมีค่าสว็อปในกรณีถือออเดอร์ข้ามคืน

บัญชีพรีเมียม/โปร (Premium/Pro)

  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่มีปริมาณการเทรดสูง
  • ค่าสเปรดต่ำกว่าบัญชีมาตรฐาน
  • อาจมีค่าคอมมิชชั่นต่อออเดอร์
  • ได้รับบริการพิเศษ เช่น ที่ปรึกษาส่วนตัว หรือเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
  • อาจมีเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำสูงกว่า

บัญชีอิสลาม/ฟรีสว็อป (Islamic/Swap-Free)

  • ออกแบบมาเพื่อรองรับหลักการทางศาสนาอิสลาม
  • ไม่มีค่าสว็อปในการถือออเดอร์ข้ามคืน
  • ค่าสเปรดอาจสูงกว่าบัญชีมาตรฐานเล็กน้อย

ภาพรวมจากการทดสอบโบรกเกอร์

สำหรับการเทรดผ่าน TradingView จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง กราฟของ TradingView ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกราฟที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม มีความลื่นไหล ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย

ความลื่นไหลในการเทรด

การเทรดผ่าน TradingView มีความลื่นไหลสูง กราฟมีการอัพเดทแบบเรียลไทม์ และการส่งคำสั่งซื้อขายทำได้รวดเร็ว แท่งเทียนและอินดิเคเตอร์มีความแม่นยำ ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

ปัญหาการรีโควตขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณเลือกใช้มากกว่าตัว TradingView เอง โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView ส่วนใหญ่มีอัตราการรีโควตต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องปกติ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง อาจพบการรีโควตได้บ้าง

กราฟค้างบ่อยไหม

ปัญหากราฟค้างบน TradingView พบได้น้อยมาก เว้นแต่ในกรณีที่มีปัญหาจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือเซิร์ฟเวอร์ของ TradingView มีปัญหา ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง TradingView ยังคงสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Slippage บ่อยไหม

Slippage หรือการลื่นไหลของราคาจากที่ส่งคำสั่งจนถึงการเข้าซื้อขายจริง ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและนโยบายการดำเนินการของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ชั้นนำที่เชื่อมต่อกับ TradingView มักมีอัตรา Slippage ต่ำในช่วงเวลาปกติ แต่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในช่วงที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ

ระดับ Stop out

ระดับ Stop out หรือจุดที่ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อเงินในบัญชีลดลงถึงระดับหนึ่ง แตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 20-50% ของมาร์จิ้น ทั้งนี้ควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์ให้ละเอียดก่อนเริ่มเทรด

บัญชี TradingView โบรกเกอร์แบบไหนดี

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดและความต้องการของแต่ละคน เราขอแนะนำตามลักษณะการเทรดดังนี้

TradingView หน้าจอหลัก
TradingView หน้าจอหลัก

สำหรับผู้เริ่มต้น

TradingView Basic (ฟรี) + บัญชี Standard ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้การใช้งานและทดลองเทรดด้วยเงินทุนไม่มาก เน้นโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น

สำหรับเทรดเดอร์ระดับกลาง

TradingView Plus + บัญชี Standard/Pro ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงต้องการคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่น การตั้งค่าแจ้งเตือนไม่จำกัด

สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ

TradingView Premium + บัญชี Pro/VIP ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เทรดเป็นอาชีพหลัก ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงทั้งหมด การเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ

สำหรับผู้ที่ต้องการถือออเดอร์ระยะยาว

TradingView Essential + บัญชี Swap-Free ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทรดแบบถือออเดอร์ข้ามคืนหรือระยะยาว เพื่อประหยัดค่าสว็อป แม้ว่าอาจต้องยอมรับค่าสเปรดที่กว้างขึ้นเล็กน้อย

มชั่นที่พบบ่อยในปี 2025 ได้แก่

  • โบนัสเงินฝาก – รับโบนัสเพิ่มตามเปอร์เซ็นต์ของเงินฝาก (เช่น 50-100% ของเงินฝากแรก) ซึ่งมักมีเงื่อนไขการซื้อขายขั้นต่ำก่อนถอน
  • โปรแกรมคืนเงิน (Rebate) – ได้รับเงินคืนตามปริมาณการเทรด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง
  • ส่วนลดค่าคอมมิชชั่น – บางโบรกเกอร์เสนอส่วนลดค่าคอมมิชชั่นให้กับลูกค้าระดับพรีเมียมหรือลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดสูง
  • บัญชีทดลอง (Demo) – เกือบทุกโบรกเกอร์ให้เปิดบัญชีทดลองฟรีเพื่อทดสอบการเทรดผ่าน TradingView ก่อนใช้เงินจริง
  • TradingView Pro แถมฟรี – บางโบรกเกอร์มอบสมาชิก TradingView ระดับพรีเมียมฟรีให้กับลูกค้าที่มียอดฝากสูงหรือปริมาณการเทรดมาก

อย่างไรก็ตาม โปรโมชั่นเหล่านี้มักมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น เงินฝากขั้นต่ำ ปริมาณการเทรดขั้นต่ำ หรือระยะเวลาในการรับสิทธิ์

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser