
ราคาทองคำกำลังทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทำสถิติสูงสุดใหม่หลายครั้งในช่วงปีนี้ ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven asset) ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น สาเหตุหลักมาจากการผสมผสานระหว่างนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ ความเสี่ยงจากนโยบายการค้า และการซื้อสะสมจากสถาบันขนาดใหญ่ ปัจจัยเหล่านี้ไม่เพียงแต่ผลักดันราคาให้สูงขึ้นกว่า 47% นับตั้งแต่ต้นปี แต่ยังทำให้ทองคำกลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง บทความนี้จะวิเคราะห์เหตุผลหลักที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นอย่างละเอียด โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมระดับโลก

นโยบายการเงินของเฟด: การลดดอกเบี้ยที่หนุนราคาทอง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันราคาทองคำคือการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) นักลงทุนคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรและดอกเบี้ยจริง (real interest rates) ลดลง เมื่อดอกเบี้ยจริงต่ำ ทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยกลายเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูด เพราะนักลงทุนไม่เสียโอกาสจากสินทรัพย์อื่น Reuters รายงานว่าราคาทองคำใกล้ระดับ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแอ เช่น รายงานการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งย้ำถึงความจำเป็นในการลดดอกเบี้ย. J.P. Morgan วิเคราะห์ว่าการลดดอกเบี้ยนี้ช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำ ทำให้ราคาเฉลี่ยอาจแตะ 3,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี และพุ่งสู่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในกลางปีหน้า.
นอกจากนี้ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายยังเชื่อมโยงกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ทองคำถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ (inflation hedge) เมื่อเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะ stagflation หรือ recession นักวิเคราะห์จาก CFI ชี้ว่าการลดดอกเบี้ยของ Fed เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรวมกับความเสี่ยงจากนโยบายการค้าที่อาจจุดประกายเงินเฟ้อสูง. หาก Fed ลดดอกเบี้ยอีก 25 basis points ตามคาด ราคาทองอาจทะยานต่อเนื่อง โดยนักลงทุนสถาบันอย่าง Goldman Sachs คาดว่าราคาอาจแตะ 4,000-5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีหน้า.
ความอ่อนแอของเงินดอลลาร์สหรัฐ: ทำให้ทองคำน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงตลอดปีเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำ เมื่อดอลลาร์อ่อน ทองคำซึ่งซื้อขายในหน่วยดอลลาร์ดู “ถูกลง” สำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น เช่น ยูโรหรือเยน ส่งผลให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น Financial Times และ CFI รายงานว่าความอ่อนแอนี้เกิดจากนโยบายการเงินผ่อนคลายของ Fed รวมถึงความเสี่ยงจาก关税และนโยบายการค้าที่อาจทำให้ดอลลาร์อ่อนลงอีก. Investopedia ระบุว่าดอลลาร์ที่อ่อนค่าช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากสกุลเงิน fiat.

ในมุมมองระดับโลก ความอ่อนแอของดอลลาร์ยังเชื่อมโยงกับการกระจายทุนสำรองของธนาคารกลางหลายแห่ง เช่น จีนและรัสเซีย ที่หันมาถือทองคำมากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์ J.P. Morgan คาดว่าการซื้อทองคำจากธนาคารกลางจะอยู่ที่ 900 ตันในปีนี้ ซึ่งช่วยรองรับราคาไม่ให้ร่วงลงแม้ตลาดผันผวน. นักลงทุนรายย่อยและสถาบันจึงมองว่าทองคำเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเมื่อดอลลาร์ไม่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นปี.
แรงซื้อจากสถาบันและธนาคารกลาง: การสะสมที่รองรับราคา
แรงซื้อจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่และธนาคารกลางเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง กองทุน ETF ทองคำพลิกจากไหลออกเป็นไหลเข้า โดยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) แตะจุดสูงสุดใหม่ World Gold Council และ J.P. Morgan รายงานว่านักลงทุนสถาบันกำลังเพิ่มสถานะยาว (long positions) เพื่อเก็งกำไรจากแนวโน้ม bullish โดยเฉพาะในสหรัฐและจีน. การถือครองทองคำรวมจากบาร์ เหรียญ และฟิวเจอร์สเพิ่มขึ้น 3% ปีต่อปี แตะ 49,400 ตัน.
ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองสุทธิสูงต่อเนื่อง โดยยอดถือครองรวมแตะ 36,000 ตัน Reuters และ J.P. Morgan ชี้ว่าการซื้อนี้ช่วยรองรับราคา โดยคาดว่าจะซื้ออีก 900 ตันในปีนี้ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากดอลลาร์และป้องกันความไม่แน่นอน. สถาบันอย่าง J.P. Morgan และ Goldman Sachs มองว่านี้เป็นธีมระยะยาวที่ทำให้ราคาทองยังคงสูง โดยบริษัทเหมืองทองอย่าง Barrick Gold และ Newmont ได้รับประโยชน์จากราคาที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเก็งกำไรผ่านหุ้นเหล่านี้.
ปัจจัยหลัก |
รายละเอียด |
ผลกระทบต่อราคา |
---|---|---|
การลดดอกเบี้ย Fed |
ลดผลตอบแทนพันธบัตร ทำให้ทองน่าดึงดูด |
เพิ่มขึ้นกว่า 2% ในสัปดาห์ล่าสุด |
ดอลลาร์อ่อนค่า |
ทองดูถูกลงสำหรับต่างชาติ |
หนุนราคาเพิ่ม 30% YTD |
ความไม่แน่นอนภูมิรัฐศาสตร์ |
สงครามการค้า ชัตดาวน์ |
ดัน safe-haven demand |
แรงซื้อสถาบัน |
ETF ไหลเข้า ธนาคารกลางซื้อ 900 ตัน |
รองรับราคาไม่ให้ร่วง |
แล้วมันจะขึ้นไปถึงไหน
จากกราฟราคาทองคำ (XAUUSD) ใน timeframe 6 เดือนที่แสดงผ่าน TradingView จะเห็นว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) อย่างชัดเจน โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,879.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงก่อนหน้า กราฟแสดงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2001 จนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2025) ถ้าหากเราฉายภาพไปข้างหน้าถึงปี 2027 ซึ่งบ่งชี้ถึงการวิเคราะห์ระยะยาว ตัว indicators หลักที่ใช้คือ Multi Timeframe Bollinger Bands และ 20 SMA Close 2 ซึ่งช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม โดยราคาได้ทะลุเส้น Bollinger Band บน (upper band) อย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แสดงถึง momentum ที่แข็งแกร่งและการ breakout ที่อาจนำไปสู่การเร่งตัวขึ้นต่อ นอกจากนี้ เส้น SMA 20 เดือนยังโค้งขึ้นอย่างชัดเจน สนับสนุนว่าราคากำลังเข้าสู่ bull market ระยะกลางถึงยาว

จากกราฟบ่งบอกถึงการเปรียบเทียบช่วงเวลาการขึ้นของราคาในอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 6 เดือนล่าสุด คล้ายกับ pattern การพุ่งขึ้นในปีก่อนๆ การฉายราคาเป้าหมายถัดไปที่ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยการ extrapolate จาก Bollinger Bands โดยพิจารณาจาก volatility ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มจะ bullish แต่ควรระวังความเสี่ยงจาก overbought (ราคาอยู่เหนือ upper band นานเกินไป) ซึ่งอาจนำไปสู่ correction หรือ pullback ในระยะสั้น หากปัจจัยพื้นฐานอย่างการลดดอกเบี้ยของ Fed หรือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงหนุน ราคาอาจทะลุเป้าหมายได้ แต่แนะนำให้ใช้ stop-loss ที่ระดับ lower band เพื่อจัดการความเสี่ยง
โบรกเกอร์เทรดทองที่ดีที่สุด
ในปี 2025 โบรกเกอร์ IUX Markets ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเทรดทองคำผ่าน CFD ด้วยจุดเด่นด้านค่าธรรมเนียมและสเปรดต่ำเริ่มต้นจาก 0.0 pips ทำให้ต้นทุนการเทรดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในตลาดทองคำที่ผันผวนสูง โบรกเกอร์นี้ก่อตั้งในปี 2016 และได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลก ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐ เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:3000 และแพลตฟอร์มที่หลากหลายอย่าง IUX Trade, เว็บเทรดดิ้ง และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งรองรับการประมวลผลคำสั่งรวดเร็ว นอกจากนี้ IUX Markets ยังมีความปลอดภัยสูงภายใต้การกำกับดูแลระดับสากล และสภาพคล่องจากพันธมิตรชั้นนำ ทำให้เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพที่ต้องการเก็งกำไรจากราคาทองคำโดยไม่ต้องถือสินค้าจริง.

IUX Markets นำเสนอเครื่องมือเทรดที่ครอบคลุมสำหรับตลาดทองคำ เช่น CFD บน XAUUSD, โลหะมีค่าอื่นๆ อย่างเงิน แพลทินัม และพาลลาเดียม รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์มากกว่า 10 รายการ โดยมีประเภทบัญชีที่ยืดหยุ่นอย่าง Standard (เหมาะมือใหม่), Raw (สเปรดต่ำสำหรับมือโปร), และ Pro (เงื่อนไขดีที่สุด) อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาจุดด้อยอย่างทรัพยากรการศึกษาที่จำกัด ความเสี่ยงจากเลเวอเรจสูงที่อาจนำไปสู่การขาดทุนรวดเร็ว และการสนับสนุนลูกค้าที่อาจไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยรวมแล้ว IUX Markets เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือสำหรับการเทรดทองคำ CFD แต่แนะนำให้ทำการวิจัยเพิ่มเติมและจัดการความเสี่ยงก่อนเริ่มต้น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ.

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง