Measured Move – Bullish คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

Measured Move – Bullish คืออะไร?

Measured Move – Bullish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ใช้ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

1. ประกอบด้วยสามส่วนหลัก: การเคลื่อนไหวขึ้นครั้งแรก (First Leg Up), การพักตัว (Correction), และการเคลื่อนไหวขึ้นครั้งที่สอง (Second Leg Up)
2. มักพบในช่วงแนวโน้มขาขึ้นหรือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้น
3. ใช้ในการคาดการณ์เป้าหมายราคาของการเคลื่อนไหวขึ้นครั้งที่สอง
4. เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวางแผนการเทรดและการจัดการความเสี่ยง

ลักษณะสำคัญของ Measured Move – Bullish

1. First Leg Up:
   • การเคลื่อนไหวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากจุดเริ่มต้น
   • มักเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
2. Correction:
   • การพักตัวหรือการปรับฐานหลังจาก First Leg Up
   • มักมีลักษณะเป็นรูปแบบการพักตัว เช่น Flag หรือ Pennant
   • ปริมาณการซื้อขายมักจะลดลงในช่วงนี้
3. Second Leg Up:
   • การเคลื่อนไหวขึ้นอีกครั้งหลังจากการพักตัว
   • มักมีระยะทางใกล้เคียงกับ First Leg Up
   • ปริมาณการซื้อขายควรเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
4. ความสัมพันธ์ของระยะทาง:
   • ระยะทางของ Second Leg Up มักจะใกล้เคียงหรือเท่ากับ First Leg Up

วิธีใช้ Measured Move – Bullish ในการวิเคราะห์

1. การระบุรูปแบบ:
   • สังเกต First Leg Up ที่ชัดเจน
   • ตามด้วยการพักตัวหรือการปรับฐาน
   • รอสัญญาณของการเริ่มต้น Second Leg Up
2. การคำนวณเป้าหมายราคา:
   • วัดระยะทางของ First Leg Up
   • นำระยะทางนี้ไปวัดต่อจากจุดสิ้นสุดของการพักตัว เพื่อประมาณเป้าหมายของ Second Leg Up
3. การยืนยันการเริ่มต้น Second Leg Up:
   • สังเกตการทะลุผ่านแนวต้านของรูปแบบการพักตัว
   • ควรมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเพื่อยืนยันการเริ่มต้น Second Leg Up
4. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
   • ปริมาณควรเพิ่มขึ้นใน First Leg Up และ Second Leg Up
   • ปริมาณควรลดลงในช่วงการพักตัว
5. การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
   • ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
   • พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์

ข้อควรระวังในการใช้ Measured Move – Bullish

1. ความไม่แน่นอนของ Second Leg Up: แม้ว่าเป้าหมายจะถูกคำนวณ แต่ราคาอาจไม่เคลื่อนที่ถึงเป้าหมายเสมอไป
2. การระบุจุดสิ้นสุดของการพักตัว: บางครั้งอาจยากที่จะระบุจุดที่แน่ชัดว่าการพักตัวสิ้นสุดและ Second Leg Up เริ่มต้น
3. ปัจจัยภายนอก: เหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือข่าวสารสำคัญอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา
4. ความเหมาะสมกับสภาวะตลาด: อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน แต่อาจไม่เหมาะกับตลาดที่ผันผวนมาก
5. การพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน: ควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์หรือตลาดประกอบด้วย

การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด

1. การเข้าซื้อ:
   • เข้าซื้อเมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้านของรูปแบบการพักตัว
   • อาจเข้าซื้อเพิ่มเมื่อราคาเคลื่อนที่ขึ้นใน Second Leg Up
2. การตั้ง Stop Loss:
   • อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้จุดต่ำสุดของการพักตัว
3. การตั้งเป้าหมายกำไร:
   • ใช้การคำนวณเป้าหมายราคาตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
   • อาจทยอยปิดสถานะเมื่อราคาเข้าใกล้เป้าหมาย
4. การจัดการความเสี่ยง:
   • ปรับ stop loss ขึ้นตามการเคลื่อนที่ของราคาใน Second Leg Up
5. การเทรดระยะกลาง:
   • Measured Move – Bullish มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะกลาง

ข้อแตกต่างระหว่าง Measured Move – Bullish และรูปแบบอื่น

1. Head and Shoulders: Measured Move – Bullish มีลักษณะการเคลื่อนที่ขึ้นสองครั้ง ในขณะที่ Head and Shoulders มีสามยอด
2. Double Top: Measured Move – Bullish มีการเคลื่อนที่ขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ Double Top มีการกลับตัวลงหลังจากยอดที่สอง
3. Ascending Triangle: Measured Move – Bullish ไม่จำเป็นต้องมีแนวต้านที่ชัดเจนเหมือน Ascending Triangle

สรุป

Measured Move – Bullish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในแนวโน้มขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยง และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น

อ้างอิง

1. Bulkowski, T. N. (2005). Encyclopedia of Chart Patterns (2nd ed.). John Wiley & Sons.
2. Murphy, J. J. (1999). Technical Analysis of the Financial Markets. New York Institute of Finance.
3. Kirkpatrick, C. D., & Dahlquist, J. R. (2010). Technical Analysis: The Complete Resource for Financial Market Technicians. FT Press.