กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น คืออะไร เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้นมีกี่แบบ

IUX Markets Bonus

Contents

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น คืออะไร

1 กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น คืออะไร

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น (Short-term trading strategies) คือกลยุทธ์ทางการเงินที่เน้นการซื้อขายสินทรัพย์ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งอาจเป็นหุ้น สกุลเงิน สินค้า หรือสินทรัพย์อื่นๆ ภายในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที หรือไม่เกินวันเท่านั้น โดยจุดประสงค์หลักของกลยุทธ์นี้คือการกำไรจากความผันผวนราคาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น และมักใช้เครื่องมือการวิเคราะห์กราฟ ตัวชี้วัดทางเทคนิค หรือระบบเทรดอัลกอริทึมเพื่อค้นหาโอกาสในการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้นมีหลายรูปแบบและวิธีการที่นักลงทุนใช้กัน บางครั้งอาจใช้เทคนิคการเทรดแบบแทรกซ้อน (Scalping) เพื่อซื้อขายสินทรัพย์ในระยะเวลาสั้นๆ โดยมุ่งหวังในการกำไรจากการซื้อขายที่บางมากแต่รวดเร็ว ในขณะที่อีกกลยุทธ์หนึ่งอาจเน้นการซื้อขายตามแนวโน้มราคา (Trend following) เพื่อนำเสนอผลกำไรจากการติดตามแนวโน้มที่มั่นคงและใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงในการเทรดในระยะสั้นๆ

การเลือกใช้กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ตลาด รวมถึงประสบการณ์และวัตถุสงค์ทางการเงินของนักลงทุนเอง เพราะการเทรดระยะสั้นอาจมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากการเข้า-ออกตลาดที่รวดเร็ว และความผันผวนราคาที่สูง จึงควรให้ความสำคัญกับการวางแผนการจัดการความเสี่ยงและการควบคุมเอาท์พุต (Risk management) เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขายระยะสั้น

เทคนิคการเทรด forex ระยะสั้น

เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดใช้ในการซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำกำไรจากความแตกต่างในอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในช่วงระยะเวลาสั้น กลยุทธ์นี้มุ่งเน้นการวิเคราะห์ตลาดและการใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพื่อเปิดและปิดตำแหน่งการซื้อขายในช่วงระยะเวลาสั้น เพื่อทำกำไรที่มากที่สุดในเวลาที่สั้นที่สุดที่เป็นไปได้

การเทรด Forex ระยะสั้นเสี่ยงสูงและต้องการความรอบคอบในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจเร็ว นักเทรดต้องมีความรู้ทางทฤษฎีและประสบการณ์ในการวิเคราะห์กราฟราคา รวมถึงความเข้าใจในการใช้เครื่องมือทางเทคนิค และการฝึกฝนและทดลองใช้เทคนิคต่างๆ ในบัญชีซื้อขายดำเนินการในระยะสั้นจะช่วยให้นักเทรดพัฒนาทักษะและความชำนาญในการเทรด Forex ระยะสั้นได้เร็วขึ้น เทคนิคการเทรด Forex ระยะสั้นมีหลายองค์ประกอบที่สำคัญในการประสบความสำเร็จ และเทคนิคที่คุณสามารถใช้เพื่อการเทรด Forex ระยะสั้นอย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

เลือกบริษัทโบรกเกอร์ที่ดีและเหมาะสม

 YWO Promotion

การเลือกบริษัทโบรกเกอร์ที่ดีและเหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นเทรด Forex ระยะสั้น ควรพิจารณาเมื่อเลือกโบรกเกอร์ดังนี้

  1. ความน่าเชื่อถือและการรับรอง: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีการรับรองจากองค์กรทางการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น การรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลการเงิน ในประเทศที่โบรกเกอร์ดำเนินธุรกิจ
  2. ความเหมาะสมของประเภทบัญชี: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับความต้องการและการซื้อขายของคุณ ควรพิจารณาตัวเลือกที่มีการเสนอบัญชีที่เหมาะสมในเรื่องของขนาดการซื้อขาย การกระจาย Spread และค่าธรรมเนียมอื่นๆ
  3. การสนับสนุนและบริการลูกค้า: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีการสนับสนุนและบริการลูกค้าที่ดี มีช่องทางการติดต่อที่สะดวกสบาย เช่น การสนับสนุนทางโทรศัพท์ อีเมล หรือแชทสด
  4. ความสะดวกในการเทรด: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว การวางออเดอร์ และเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด
  5. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการซื้อขาย การกระจาย Spread และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างโบรกเกอร์เพื่อค้นหาค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

บทวิจารณ์และความเห็นจากผู้ใช้จริง รีวิวบนเว็บไซต์เกี่ยวกับโบรกเกอร์และการเทรด Forex อาจช่วยในการตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมและคุณภาพและนี่คือตัวอย่างของโบรกเกอร์ที่เป็นที่นิยมและมีความน่าเชื่อถือในการเทรด Forex ระยะสั้น

  • Exness: เป็นโบรกเกอร์ที่มีความนิยมสูงโดยเฉพาะในการเทรด Forex ระยะสั้น พวกเขามีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีคุณสมบัติที่ครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีการเสนอบัญชีที่หลากหลายและค่า Spread ที่แข่งขันได้
  • Pepperstone: เป็นโบรกเกอร์ที่รู้จักในวงกว้างสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้น พวกเขามีแพลตฟอร์มการเทรดที่ยอดเยี่ยมและมีความเร็วในการประมวลผลที่ดี นอกจากนี้ยังมีการให้บริการแบบ ECN ที่มี Spread แค่เล็กน้อย
  • XM: เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลก พวกเขามีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีการวางออเดอร์ที่รวดเร็ว และมีการให้บริการลูกค้าที่ดี
  • FXTM: เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในวงกว้าง พวกเขามีแพลตฟอร์มการเทรดที่หลากหลายและเครื่องมือการวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือลูกค้าที่ดี

การเลือกตัวชี้วัดทางเทคนิค

เลือกตัวชี้วัด Forex เป็นกระบวนการที่สำคัญในการเทรดระยะสั้น เนื่องจากอินดิเคเตอร์เหล่านี้ช่วยในการวิเคราะห์ตลาดและสร้างสัญญาณซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ควรใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ ดังนี้คือขั้นตอนในการเลือกตัวชี้วัด Forex ดังนี้

  1. ประเภทของอินดิเคเตอร์: อินดิเคเตอร์ Forex มีหลายประเภท เช่น อินดิเคเตอร์แนวโน้ม (Trend Indicators) เช่น Moving Average, MACD หรืออินดิเคเตอร์ผู้ช่วยในการตัดสินใจ (Decision Support Indicators) เช่น RSI, Stochastic Oscillator คุณควรเลือกอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมกับการวิเคราะห์และรูปแบบการเทรดของคุณ.
  2. ความสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรด: แต่ละอินดิเคเตอร์มีวิธีการใช้งานและสัญญาณที่แตกต่างกัน คุณควรเลือกอินดิเคเตอร์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ เช่น ถ้าคุณใช้กลยุทธ์เทรนด์ฟอลโลว์ตาม (Trend Following) คุณอาจใช้ Moving Average เป็นอินดิเคเตอร์หลัก.
  3. ความคิดเห็นและการทดลอง: คุณควรศึกษาและอ่านความคิดเห็นของนักเทรดอื่นๆ เกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ที่คุณสนใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถทดลองใช้งานอินดิเคเตอร์ในบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อดูว่าอินดิเคเตอร์ดังกล่าวทำงานอย่างไรในสภาพตลาดจริงๆ
  4. ความเข้าใจและการใช้งาน: คุณควรทราบถึงวิธีการใช้งานและการตั้งค่าของอินดิเคเตอร์ Forex ที่คุณสนใจ ควรศึกษาคู่มือหรือแหล่งข้อมูลที่มีอยู่เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง
  5. การผสมใช้งาน: อินดิเคเตอร์ Forex สามารถใช้ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการวิเคราะห์ คุณสามารถผสมใช้งานอินดิเคเตอร์หลายตัวเพื่อให้ได้ข้อมูลและสัญญาณที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างของอินดิเคเตอร์ Forex ที่นิยมใช้ในการเทรดระยะสั้น

  • Moving Average (MA): อินดิเคเตอร์ MA เป็นที่นิยมในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา โดยคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด สามารถใช้ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาและสัญญาณซื้อขาย
  • Bollinger Bands: อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands ใช้สร้างกรอบราคาโดยใช้เส้นเฉลี่ยเลื่อนและสเต็ปสองเท่าของค่าเบาะแสราคา สามารถใช้ในการระบุช่วงราคาที่เป็นไปได้และสัญญาณซื้อขายเมื่อราคาเกินขอบเขต
  • Relative Strength Index (RSI): อินดิเคเตอร์ RSI ใช้วัดความเร็วและมูลค่าของการเปลี่ยนแปลงราคา สามารถใช้ในการระบุช่วงการซื้อขายที่เกินขายหรือการซื้อขายที่ถูกขายเกิน
  • Stochastic Oscillator: อินดิเคเตอร์ Stochastic Oscillator ใช้วัดความเร็วของการเปลี่ยนแปลงราคาโดยเปรียบเทียบราคาปัจจุบันกับช่วงราคาก่อนหน้า สามารถใช้ในการระบุการซื้อขายเมื่อมีการสัมผัสกับเส้นสัญญาณ
  • MACD (Moving Average Convergence Divergence): อินดิเคเตอร์ MACD ใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและสัญญาณซื้อขาย ประกอบด้วยเส้นสัญญาณ (Signal Line) และเส้น MACD ที่จุดต่างสุดระหว่างเส้นเฉลี่ยเลื่อนสำหรับระยะเวลาที่กำหนด

เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม

เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการเทรด Forex ระยะสั้น เนื่องจาก Time Frame จะมีผลต่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจในการเปิด-ปิดตำแหน่งการซื้อขาย ดังนั้นควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้

  1. ความสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรด: ต้องพิจารณาว่า Time Frame ที่เลือกสอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรดของคุณหรือไม่ เช่น หากคุณใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Day Trading (การซื้อขายในวันเดียวกัน) คุณอาจเลือก Time Frame 15 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง
  2. ระยะเวลาที่สามารถตรวจสอบได้: ควรพิจารณาเวลาที่คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เช่น หากคุณมีเวลาว่างในช่วงเช้าและเย็น คุณอาจเลือก Time Frame 4 ชั่วโมงหรือ 1 วัน
  3. การคล่องตัวของตลาด: ควรพิจารณาว่าตลาดใน Time Frame ที่เลือกมีความคล่องตัวหรือไม่ หากตลาดใน Time Frame มีความคล่องตัวมากเกินไป อาจทำให้สร้างความสับสนและสัญญาณซื้อขายที่ไม่ชัดเจน
  4. การจัดการเวลา: ควรพิจารณาเวลาที่คุณสามารถใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ หากคุณมีเวลามากน้อยแตกต่างกัน คุณอาจต้องปรับ Time Frame เพื่อให้สอดคล้องกับเวลาที่มีอยู่

การเทรด Forex คุณอาจต้องทดลองใช้งานช่วงเวลาต่างๆ เพื่อดูว่าช่วงเวลาใดเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณและช่วยให้คุณตัดสินใจเพื่อเข้า-ออกตลาดในเวลาที่เหมาะสมตัวอย่างของเลือก Time Frame ที่เหมาะสมสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้น

  • Scalping (สเกลปิง): สำหรับการเทรดระยะสั้นแบบ Scalping ที่มุ่งเน้นกำไรที่เล็กน้อยแต่ถี่มักใช้ Time Frame ต่ำ เช่น 1 นาที (1-minute) หรือ 5 นาที (5-minute) เพื่อตรวจสอบและเข้า-ออกตลาดในช่วงเวลาสั้นๆ
  • Day Trading (การซื้อขายในวันเดียวกัน): สำหรับการซื้อขายในวันเดียวกัน Day Trading ที่มุ่งหวังในกำไรในช่วงระยะเวลาสั้นๆ อาจใช้ Time Frame เช่น 15 นาที (15-minute) หรือ 1 ชั่วโมง (1-hour) เพื่อดูแนวโน้มและสัญญาณซื้อขายในช่วงระยะเวลานี้
  • Swing Trading (การซื้อขายแนวโน้มต่อเนื่อง): สำหรับการซื้อขายแนวโน้มต่อเนื่อง Swing Trading ที่มุ่งหวังในกำไรในช่วงระยะเวลายาวขึ้น อาจใช้ Time Frame เช่น 4 ชั่วโมง (4-hour) หรือ 1 วัน (1-day) เพื่อรับทราบแนวโน้มและสัญญาณซื้อขายในช่วงระยะเวลาเหล่านี้

การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม

เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการเทรดระยะสั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เนื่องจากกลยุทธ์ที่เลือกจะมีผลต่อผลลัพธ์และกำไรที่คุณจะได้รับในการเทรด Forex ระยะสั้น โดยมีขั้นตอนที่คุณสามารถใช้ในการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมดังนี้

  1. วิเคราะห์และทราบตัวเอง: สำรวจและทราบความถนัดของคุณในการเทรด คุณชอบทำงานในช่วงเวลาสั้นหรือยาวเท่าใด คุณมีสติปัญญาที่ดีในการรับมือกับความเร็วของตลาดหรือไม่ คำนึงถึงความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่เพื่อทำความเข้าใจในรูปแบบการเทรดที่เหมาะสมกับคุณเอง
  2. เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม: พิจารณากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมสำหรับการเทรดระยะสั้น เช่น Scalping, Day Trading, Breakout Trading, หรือ Momentum Trading เลือกกลยุทธ์ที่มีความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ตรงกับสไตล์การเทรดและความสามารถของคุณ
  3. ศึกษาและทดลอง: ศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่คุณสนใจ อ่านเกี่ยวกับกลยุทธ์นักเทรดมืออาชีพและทดลองใช้กลยุทธ์ในบัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อประเมินผลลัพธ์และความเหมาะสมกับคุณ
  4. บริหารจัดการความเสี่ยง: ทำการวางแผนและบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบในการเลือกและใช้กลยุทธ์ มีการกำหนดเป้าหมายกำไรและขาดทุนอย่างชัดเจน เคร่งครัดในการตัดสินใจเข้า-ออกตลาด

ตัวอย่างของกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น

  • Scalping: เน้นการเปิด-ปิดตำแหน่งการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ โดยมุ่งหวังในกำไรที่เล็กน้อยแต่ถี่ ใช้ข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์และอินดิเคเตอร์ที่ช่วยในการตัดสินใจเข้า-ออกตลาดในเวลาทันที
  • Breakout Trading: ใช้ในการติดตามการขาดทุนหรือการบังคับขาย โดยใช้การสังเกตแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อราคาขึ้นหรือลงจากช่วงความต้านทานหรือรับสนับสนุน เทรดเข้าในทิศทางของการพุ่งขึ้นหรือตกลงของราคา
  • Momentum Trading: ใช้การติดตามและปรับสถานการณ์ของการเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง ในกรณีที่มีแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเด่นของราคา เทรดเข้าในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวแรงนั้นๆ
  • Pullback Trading: เน้นการเข้า-ออกตลาดในเวลาที่มีการถอดราคาย้อนกลับ (pullback) ในแนวโน้มหลัก โดยมุ่งหวังในการเข้าสู่ตลาดในเวลาที่ราคาย้อนกลับและกำลังกลับไปในทิศทางแรงกลับเช่นเดียวกัน

การบริหารเงินลงทุน Money Management

การบริหารเงินลงทุน (Money Management) เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเทรด Forex ระยะสั้น เนื่องจากมีผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนในการเทรดดังนั้นควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้

  1. กำหนดแผนการเทรด: ก่อนที่จะเริ่มเทรด คุณควรกำหนดแผนการเทรดที่ชัดเจน รวมถึงขนาดการเทรดที่เหมาะสมต่อบัญชีและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จุดเข้า-ออกตลาด และกฎการบริหารเงินที่คุณจะปฏิบัติตาม
  2. การตั้งค่าขนาดการเทรด: กำหนดขนาดการเทรดให้เหมาะสมกับบัญชีและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ใช้สูตรหรือกฎการบริหารเงินที่เหมาะสม เช่น การกำหนดขนาดการเทรดเพียงร้อยละหนึ่งหรือสองของบัญชี หรือการกำหนดจำนวนสัญญาณสูงสุดที่จะเข้ารับ
  3. การควบคุมความเสี่ยง: ควรจำกัดความเสี่ยงในการเทรดในแต่ละตลาด ไม่ควรลงทุนจำนวนเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้ ควรใช้การสังเกตและวิเคราะห์ตลาดเพื่อกำหนดระดับหยุดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อความปลอดภัย
  4. การควบคุมการกำไร: กำหนดระดับการจับกำไร (Take Profit) เพื่อบริหารกำไรที่คุณต้องการที่จะเก็บ ควรตัดสินใจเมื่อราคามาถึงระดับนี้และไม่ควรโล่งให้กำไรเปลี่ยนเป็นขาดทุน
  5. การแบ่งแยกการลงทุน: ไม่ควรลงทุนทั้งหมดในตลาดเดียว แบ่งการลงทุนให้แตกต่างกันเพื่อลดความเสี่ยง สามารถแบ่งการลงทุนเป็นหลายคู่สกุลเงินหรือกลุ่มเทคนิคการเทรดต่างๆ

แนะนำหนังสือกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น

2 หนังสือเทรดสั้น

กลยุทธ์การเทรดระยะสั้น (Long-Term Secrets to Short-Term Trading)

  • หนังสือที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นของแลร์รี่ วิลเลียมส์ (Larry Williams) คือ “Long-Term Secrets to Short-Term Trading” เป็นหนังสือที่ผู้เขียนเล่าถึงประสบการณ์และกลยุทธ์ในการซื้อขายในระยะสั้นที่เขาใช้เพื่อกำไรในตลาดการเงิน
  • หนังสือนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่มีความรู้และกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดย แลร์รี่ วิลเลียมส์เป็นนักเทรดมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเทรดระยะสั้น
  • หนังสือนี้อธิบายถึงกลยุทธ์และวิธีการทำกำไรในระยะสั้นที่แลร์รี่ วิลเลียมส์ใช้ในการเทรด เขาแสดงให้เห็นถึงแนวคิดและการแบ่งปันเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดและทำกำไรในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หนังสือเล่มนี้ แลร์รี่ วิลเลี่ยมส์แบ่งปันเคล็ดลับและกลยุทธ์ที่เขาใช้ในการเทรดระยะสั้น ทั้งการวิเคราะห์ตลาด การตั้งค่าตัวชี้วัดทางเทคนิค การจัดการเงิน และเคล็ดลับอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรในระยะสั้นได้

คู่มือเทรดหุ้นรายวัน (A Beginner’s Guide to Day Trading Online)

  • คู่มือเทรดหุ้นรายวัน: A Beginner’s Guide to Day Trading Online” โดย Toni Turner เป็นหนังสือที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการศึกษาและเข้าใจกลยุทธ์การเทรดหุ้นรายวันในรูปแบบออนไลน์
  • หนังสือนี้อธิบายเกี่ยวกับแนวคิดพื้นฐานของการเทรดหุ้นรายวัน พร้อมกับแนะนำเครื่องมือและเทคนิคที่เกี่ยวข้องที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและการตัดสินใจซื้อขายในระยะเวลาสั้น ๆ
  • หนังสือนี้เป็นคู่มือที่รวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการเทรดหุ้นรายวัน โดยเน้นไปที่กระบวนการเทรดออนไลน์ที่สามารถนำไปใช้ในการซื้อขายหุ้นในระยะเวลาเดียวกัน มันประกอบไปด้วยเนื้อหาที่อธิบายถึงสิ่งต่างๆ เช่น ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหุ้นและตลาดทางการเงิน การวิเคราะห์และการเลือกหุ้นที่เหมาะสม แนวทางในการตั้งแผนและการจัดการเทรด การบริหารเงินและการควบคุมความเสี่ยง และอื่นๆ
  • หนังสือนี้เขียนอย่างเป็นระเบียบเรียบเรียงและให้ข้อมูลอย่างชัดเจน และมีตัวอย่างและเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจและปฏิบัติตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีการแสดงตัวอย่างการเทรดจริงๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและประสบการณ์ในการเทรด

กลยุทธ์เก็งกำไรเทรดระยะสั้น

กลยุทธ์เก็งกำไรในการเทรดระยะสั้นเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดใช้เพื่อรับประกันกำไรจากการเคลื่อนไหวราคาที่เล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้เทคนิคการซื้อขายที่รวดเร็วและมีการเข้าออกตลาดบ่อยครั้ง เพื่อนำไปสู่กำไรทันทีในระยะเวลาสั้นๆ

หลักการของกลยุทธ์เก็งกำไรเทรดระยะสั้นอยู่ที่การล่องลอยในระหว่างการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อย โดยใช้ความผันผวนราคาในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อทำกำไรจากการเข้าออกตลาดในระยะเวลาที่สั้นและรวดเร็ว นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้มักมีระยะเวลาที่คล่องตัวและความพร้อมในการตัดสินใจที่รวดเร็ว เนื่องจากตลาดในระยะสั้นมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความผันผวนของราคาอาจเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ

การวิเคราะห์กราฟราคาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการเทรดระยะสั้น ซึ่งคุณควรศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน เทรนด์ของตลาด ระดับการสนับสนุนและความต้านทาน และเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบและระบุแนวโน้มราคาที่สำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่ตลาด

การจัดการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึงในการเทรดระยะสั้น เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการเข้าสู่ตลาด คุณควรกำหนดขนาดการเทรดที่เหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง เพื่อให้คุณสามารถรักษาความสมดุลในการเทรดระยะสั้น นอกจากนี้คุณยังควรตั้งค่าระดับการหยุดขาดทุน (stop-loss) และระดับการผันผวนกำไร (take-profit) เพื่อปกป้องการสูญเสียเงินจากการเทรดและบำรุงรักษากำไรที่ได้รับ

การติดตามและจัดการระยะเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการเก็งกำไรในระยะสั้น คุณควรเลือก Time Frame ที่เหมาะสมสำหรับการเทรดระยะสั้น เช่น กราฟชั่วโมง 15 นาทีหรือ 5 นาที เพื่อให้คุณสามารถติดตามการเคลื่อนไหวราคาในระยะเวลาสั้นๆ และจัดการตัดสินใจในการซื้อขายให้เหมาะสมตามแผนการเทรดของคุณดังนั้นควรทำความเข้าใจและพิจารณาความเสี่ยงให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในตลาดทุน

กลยุทธ์เก็งกำไรเทรดระยะสั้น มีอะไรบ้าง

การเลือกใช้กลยุทธ์เก็งกำไรในการเทรดระยะสั้นต้องพิจารณาตามสภาพตลาดและสิ่งที่เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญและสไตล์การซื้อขาย โดยนี่คือกลยุทธ์เก็งกำไรที่ใช้ในการเทรดระยะสั้นที่อาจมีประโยชน์สำหรับคุณ

Scalping: กลยุทธ์ Scalping เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในการทำกำไรจากการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ โดยใช้การเปิดและปิดตำแหน่งในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น คุณจะมีการคลุมเครือและตัดสินใจเร็วเพื่อนำกำไรมาใช้ เครื่องมือที่ใช้สำหรับ Scalping อาจเป็นแท่งเทียนแบบสามเสาหรือช่วงระยะเวลาต่ำ เช่น 1 นาทีหรือ 5 นาที

Breakout Trading: กลยุทธ์ Breakout Trading เน้นในการกำไรจากการระเบิดของราคาที่แนวสนับสนุนหรือแนวความต้านทาน คุณจะรอให้ราคาขายข้างล่างแนวสนับสนุนหรือขึ้นเหนือแนวความต้านทานก่อนที่จะทำการซื้อหรือขาย การตั้งค่าระดับการหยุดขาดทุนและระดับการผันผวนกำไรเป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์นี้

Range Trading: กลยุทธ์ Range Trading หรือการซื้อขายในช่วงราคามีการเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแน่นอยู่ คุณจะทำกำไรจากการซื้อที่ต่ำและขายที่สูงในช่วงราคาที่สั้น โดยการติดตามแนวความต้านทานและแนวสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญในกลยุทธ์นี้ เครื่องมือทางเทคนิคเช่น แท่งเทียนแบบสามเสาและตัวบ่งชี้ความเป็นเทรนด์อาจมีประโยชน์

News Trading: กลยุทธ์ News Trading เน้นในการซื้อขายตามข่าวสารที่มีผลกระทบต่อตลาด คุณจะต้องติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ และทำการซื้อหรือขายตามทิศทางที่คุณคาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหว

Momentum Trading: กลยุทธ์ Momentum Trading ใช้แนวโน้มของราคาเพื่อทำกำไร คุณจะซื้อหรือขายเมื่อราคากำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในทิศทางเดียวกัน ตัวบ่งชี้เทคนิคเช่น การสร้างมาตรฐานเคลื่อนที่เชิงบวกหรือลบ เช่น หลักฐานการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ อาจช่วยในการระบุโอกาสที่เหมาะสมในกลยุทธ์นี้

การเลือกเครื่องมือสำหรับเทรด Forex ระยะสั้น

การเลือกเครื่องมือสำหรับเทรด Forex ระยะสั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดมีความสะดวกสบายและประสบความสำเร็จในการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างถูกต้องและตระหนักถึงโอกาสในการทำกำไรที่มีประสิทธิภาพ โดยการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้นอาจช่วยให้คุณมีประสบการณ์การซื้อขายที่เสถียรและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นี่คือเครื่องมือที่คุณอาจพิจารณาดังนี้

  1. เว็บเพลตฟอร์มการซื้อขาย (Trading Platform): เลือกเว็บเพลตฟอร์มที่มีการใช้งานง่ายและทันสมัย เครื่องมือเช่น MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับการเทรด Forex ระยะสั้น เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครอบคลุมและตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่มีมาให้ใช้งาน
  2. ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Technical Indicators): ตัวบ่งชี้เทคนิคช่วยให้คุณวิเคราะห์และทำนายเคลื่อนไหวของราคา ตัวบ่งชี้ที่นิยมสำหรับการซื้อขาย Forex ระยะสั้นรวมถึงเครื่องมือเช่น Moving Average, Relative Strength Index (RSI), Stochastic Oscillator, และ Bollinger Bands อย่างไรก็ตาม การใช้งานตัวบ่งชี้ทางเทคนิคต้องอิงกับวิเคราะห์และกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
  3. แท่งเทียนและกราฟสำหรับวิเคราะห์ (Candlestick Charts and Analysis): แท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์ราคา รูปแบบและรูปร่างของแท่งเทียนสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา และระดับการสนับสนุนและความต้านทาน นอกจากนี้ กราฟที่เป็นมาตรฐานเช่น Line Chart, Bar Chart, และ Candlestick Chart ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ราคา
  4. การปรับแต่งและการพัฒนาสคริปต์ (Customization and Scripting): บางเว็บเพลตฟอร์มอนุญาตให้คุณปรับแต่งและพัฒนาสคริปต์ (scripts) เพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงและปรับแต่งเครื่องมือให้ตรงตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ภาษาโปรแกรมเชิงสคริปต์เพื่อสร้างระบบการซื้อขายอัตโนมัติ (automated trading system) ที่มีความยืดหยุ่นสูง
  5. ข่าวและปฏิทินเศรษฐกิจ (News and Economic Calendar): การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและปฏิทินเศรษฐกิจสามารถช่วยให้คุณติดตามเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญในการตัดสินใจซื้อขายในระยะสั้น

ความสำคัญของการจัดการเวลาในการเทรดระยะสั้น

การจัดการเวลาในการเทรดระยะสั้นช่วยให้คุณมีความเตรียมตัวและสามารถใช้โอกาสที่เกิดขึ้นในตลาดในระยะเวลาสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของกลยุทธ์การเทรดดังนั้นเราจะอธิบายความสำคัญของการจัดการเวลาในการเทรดระยะสั้นให้เข้าใจได้ดีขึ้น

ประสบการณ์และความเร็ว

การเทรดระยะสั้นในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ในระยะเวลาสั้น ต้องการความเร็วในการตัดสินใจและประสบการณ์ในการอ่านและวิเคราะห์กราฟหุ้น คุณต้องสามารถรับรู้และปรับตัวตามสภาพตลาดอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสหรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงได้.

การตัดสินใจทันเวลา

ในการเทรดระยะสั้นความสามารถในการตัดสินใจทันเวลามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว คุณต้องสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่และตัดสินใจเพื่อเข้าหรือออกจากตลาดในเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร.

การวางแผนเทรดและการบริหารความเสี่ยง

การจัดการเวลาในการเทรดระยะสั้นเกี่ยวข้องกับการวางแผนการเทรดและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีเหตุผล คุณต้องกำหนดเป้าหมายการกำไรและการขาดทุนที่เหมาะสม รวมถึงการใช้เครื่องมือการบริหารความเสี่ยง เช่น การใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อรักษาความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้.

การติดตามและประเมินผล

การจัดการเวลาในการเทรดระยะสั้นต้องเน้นการติดตามและประเมินผลเพื่อวิเคราะห์ผลประกอบการของกลยุทธ์การเทรด คุณควรตรวจสอบว่ากลยุทธ์ของคุณสามารถให้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าหรือไม่ โดยการดูผลกำไร-ขาดทุน ความเสี่ยง-ผลตอบแทน และการปรับแก้ไขกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ดีขึ้น

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser