TradingView โบรกเกอร์ไทย รีวิวข้อดีข้อเสียปี 2025

IUX Markets Bonus
TradingView
TradingView

ผู้ให้บริการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักเทรดชาวไทย TradingView โบรกเกอร์ไทย ดีไหม? ด้วยการเติบโตของตลาดฟอเร็กซ์ในประเทศไทยที่ก้าวกระโดด ทำให้แพลตฟอร์มกราฟและโบรกเกอร์จากต่างประเทศรายใหญ่ เริ่มเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยมากขึ้น

ซึ่งนั่นรวมไปถึง TradingView ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มกราฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนจาก 200+ ประเทศทั่วโลก และมีการเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำกว่า 80 แห่ง ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงตลาดการเงินโลกได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจะมาดูกันว่า โบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ในไทยมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

TradingView โบรกเกอร์ไทย คือ อะไร?

เมื่อมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ TradingView หรือโบรกเกอร์ที่รองรับในไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงมีความนิยมสูงขนาดนี้ TradingView เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคระดับโลกและคุณสมบัติโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน เปิดให้นักลงทุนแชร์ไอเดียการเทรดและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก

โบรกเกอร์ในไทยที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView มักเป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ ทำให้นักลงทุนไทยสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

สำหรับในปัจจุบันนักลงทุนไทยที่ใช้ TradingView สามารถเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ได้หลากหลาย โดยมี โบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกหลายแห่งที่ให้บริการภาษาไทย และรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทยโดยตรง

TradingView โบรกเกอร์ไทย ดีไหม

ผู้ให้บริการซื้อขาย CFD หรือ Forex ที่เชื่อมต่อกับ TradingView นั้น แต่ละโบรกเกอร์มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเราได้รวบรวมจุดเด่นและข้อเสียเปรียบที่ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจเกี่ยวกับการไว้ใจในการลงทุนได้มากขึ้น ซึ่งจะสามารถแบ่งออกเป็นข้อดี และ ข้อเสียของ TradingView โบรกเกอร์ที่ให้บริการในไทยได้ดังนี้

ข้อดี TradingView โบรกเกอร์ไทย

 YWO Promotion

ในส่วนของข้อดีของโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ในไทย มีจุดเด่นที่น่าสนใจพร้อมขอแนะนำด้วยกันหลายประการ โดยจะขอแบ่งออกเป็น 8 ข้อย่อยให้เข้าใจง่ายดังนี้

  1. ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ – โบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีใบอนุญาตถูกต้องและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำ เช่น FCA (อังกฤษ), ASIC (ออสเตรเลีย) และ CySEC (ไซปรัส)
  2. เงื่อนไขการเทรดที่เอื้อต่อเทรดเดอร์ไทย – ค่าสเปรดต่ำ, บางโบรกเกอร์ไม่มีค่าสว็อป, และบางแห่งไม่มีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ต้นทุนการเทรดลดลงอย่างมาก
  3. โดดเด่นเรื่องแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟ – TradingView ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีอินดิเคเตอร์ให้เลือกใช้มากกว่า 100 ตัว และสามารถเขียนสคริปต์อินดิเคเตอร์เองได้ผ่าน Pine Script
  4. สร้างบัญชีการเทรดง่ายไม่กี่ขั้นตอน – กระบวนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView นั้นง่ายและรวดเร็ว สามารถทำได้ออนไลน์ทั้งหมด
  5. ผลิตภัณฑ์การเทรดที่หลากหลาย – สามารถเทรดได้หลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้ง Forex, หุ้น, อนุพันธ์, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  6. ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน – โบรกเกอร์หลายแห่งรองรับการฝากเงินผ่านธนาคารไทยโดยไม่มีค่าธรรมเนียม (ผ่านเว็บไซต์โดยตรงของโบรกเกอร์ ไม่ใช่ผ่าน TradingView)
  7. ฝากเงินสะดวก – สามารถฝากเงินได้หลากหลายช่องทางผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์โดยตรง รวมถึงบัตรเครดิต, โอนเงินผ่านธนาคารไทย, และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
  8. ระบบการสนับสนุนช่วยเหลือเยี่ยม – โบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่งมีทีมงานสนับสนุนภาษาไทย พร้อมให้บริการผ่าน Live Chat, อีเมล และโทรศัพท์

ข้อเสีย TradingView โบรกเกอร์ไทย

เห็นข้อดีของโบรกเกอร์กันไปแล้ว ในหัวข้อนี้มาดูข้อเสียเปรียบหรือจุดด้อยของผู้ให้บริการรายนี้กันบ้าง ซึ่งได้แบ่งออกเป็นข้อย่อยง่ายๆ ด้วยกัน 5 ข้อดังนี้

  1. ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับแพ็คเกจพรีเมียม – TradingView มีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งาน แต่คุณสมบัติขั้นสูงและประโยชน์เต็มรูปแบบจะอยู่ในแพ็คเกจแบบเสียเงิน ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงสำหรับนักลงทุนทั่วไป
  2. โปรโมชั่นสำหรับสมาชิกใหม่อาจมีเงื่อนไขสูง – โบรกเกอร์บางแห่งกำหนดเงินฝากขั้นต่ำสูงสำหรับการรับโบนัสหรือโปรโมชั่น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่มีทุนน้อย
  3. การถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมและใช้เวลานาน – แม้การฝากเงินจะสะดวก แต่การถอนเงินอาจมีค่าธรรมเนียมและใช้เวลาในการตรวจสอบและดำเนินการ
  4. บางโบรกเกอร์ยังไม่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ – แม้จะมีฐานลูกค้าในไทยมาก แต่บางโบรกเกอร์ยังไม่มีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มภาษาไทยที่สมบูรณ์
  5. ไม่สามารถฝากถอนเงินผ่าน TradingView โดยตรง – นักลงทุนไทยต้องฝากถอนเงินผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน TradingView ได้ ทำให้ต้องสลับระหว่างแพลตฟอร์ม

ความน่าเชื่อถือของ TradingView โบรกเกอร์ไทย

ความน่าเชื่อถือของ TradingView โบรกเกอร์ไทย
ความน่าเชื่อถือของ TradingView โบรกเกอร์ไทย

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView คือความน่าเชื่อถือ โดยส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView มักมีใบอนุญาตหลายใบ จากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียง ทำให้นักลงทุนไทยมั่นใจได้ในความปลอดภัยของเงินทุน

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการ

TradingView ก่อตั้งเมื่อปี 2011 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟยอดนิยมทั่วโลก ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 14 ปี และมีฐานผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน ส่วนโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ส่วนใหญ่เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีประวัติการให้บริการยาวนานกว่า 10-20 ปี

ใบอนุญาตและการกำกับดูแล

โบรกเกอร์ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView ในไทยส่วนใหญ่ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำระดับโลก เช่น:

  • Financial Conduct Authority (FCA) – หน่วยงานกำกับดูแลจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในโลก
  • Australian Securities and Investments Commission (ASIC) – หน่วยงานกำกับดูแลจากออสเตรเลีย ซึ่งมีมาตรฐานการกำกับดูแลสูง
  • Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) – หน่วยงานกำกับดูแลจากไซปรัส ซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม Forex และ CFD
  • Financial Sector Conduct Authority (FSCA) – หน่วยงานกำกับดูแลจากแอฟริกาใต้

การที่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้า

คะแนนจาก Trustpilot

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ยังสามารถวัดได้จากคะแนนรีวิวจากผู้ใช้จริง โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView ส่วนใหญ่มีคะแนนบน Trustpilot ตั้งแต่ 3.5-4.5 ดาว ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

ข่าวด้านการโกงหรือการตุกติก

เมื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวด้านการโกงหรือการตุกติกของโบรกเกอร์ที่รองรับ TradingView พบว่าส่วนใหญ่มีประวัติดีไม่มีประเด็นปัญหาร้ายแรง อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากผู้ใช้บางรายเกี่ยวกับปัญหาในการถอนเงินหรือการสนับสนุนลูกค้า แต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีทีมงานพร้อมแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

โบรกเกอร์ไทยยอดนิยมที่รองรับ TradingView

จากข้อมูลล่าสุดปี 2025 มีโบรกเกอร์หลายแห่งที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนไทยและรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView โดยตรง ได้แก่:

  1. IG – โบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับการจัดอันดับเป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ TradingView ในปี 2025 มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดมากกว่า 19,000 รายการ
  2. Interactive Brokers – ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของตลาดที่เปิดให้เทรด รองรับการเทรดหุ้นทั่วโลก รวมถึง Forex, อนุพันธ์ และอื่นๆ
  3. Saxo – โดดเด่นด้านการวิจัยและความหลากหลายของตลาด มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกเทรดมากกว่า 40,000 รายการ
  4. FOREX.com – หนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำที่มีประสบการณ์ยาวนาน ให้บริการครอบคลุมทั้ง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตเคอเรนซี
  5. Pepperstone – เหมาะสำหรับการเทรดแบบ Copy Trading และรองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader อีกด้วย
  6. XTB – ได้รับรางวัล “Best Stock Broker” ในปี 2023 จาก TradingView มีบริการภาษาไทยและรองรับการฝาก-ถอนผ่านธนาคารไทย
  7. Capital.com – โบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
  8. IC Markets – เหมาะสำหรับการเทรดแบบอัลกอริทึม มีสภาพคล่องสูงและค่าสเปรดต่ำ

ประเภทบัญชี TradingView โบรกเกอร์

ประเภทบัญชี TradingView
ประเภทบัญชี TradingView

การใช้งาน TradingView สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ แพ็คเกจของ TradingView เอง และประเภทบัญชีของโบรกเกอร์ที่คุณเลือกใช้

แพ็คเกจของ TradingView

TradingView มีแพ็คเกจให้เลือกใช้ 4 ระดับ:

  1. Basic (ฟรี) – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีข้อจำกัดด้านจำนวนอินดิเคเตอร์ การตั้งค่าแจ้งเตือน และการบันทึกเทมเพลตกราฟ
  2. Essential – เริ่มต้นที่ $14.95 ต่อเดือน มีคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่น การตั้งค่าแจ้งเตือนไม่จำกัด และไม่มีโฆษณา
  3. Plus – เริ่มต้นที่ $29.95 ต่อเดือน ได้รับอินดิเคเตอร์เพิ่มเติมและช่วงเวลาที่กำหนดเอง
  4. Premium – เริ่มต้นที่ $59.95 ต่อเดือน รองรับทุกคุณสมบัติขั้นสูง รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์

ประเภทบัญชีของโบรกเกอร์

โบรกเกอร์แต่ละแห่งมีประเภทบัญชีที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น:

บัญชีมาตรฐาน (Standard)

  • ซื้อขายได้ทุกผลิตภัณฑ์ที่โบรกเกอร์ให้บริการ
  • เลเวอเรจขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ (บางแห่งสูงถึง 1:500)
  • ค่าสเปรดขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ (ตั้งแต่ 0.5 Pips ขึ้นไป)
  • สามารถเปิดออเดอร์ขนาดเล็กได้ (เริ่มต้นที่ 0.01 ล็อต)
  • บางโบรกเกอร์ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • อาจมีค่าสว็อปในกรณีถือออเดอร์ข้ามคืน

บัญชีพรีเมียม/โปร (Premium/Pro)

  • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพหรือผู้ที่มีปริมาณการเทรดสูง
  • ค่าสเปรดต่ำกว่าบัญชีมาตรฐาน
  • อาจมีค่าคอมมิชชั่นต่อออเดอร์
  • ได้รับบริการพิเศษ เช่น ที่ปรึกษาส่วนตัว หรือเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
  • อาจมีเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำสูงกว่า

บัญชีอิสลาม/ฟรีสว็อป (Islamic/Swap-Free)

  • ออกแบบมาเพื่อรองรับหลักการทางศาสนาอิสลาม
  • ไม่มีค่าสว็อปในการถือออเดอร์ข้ามคืน
  • ค่าสเปรดอาจสูงกว่าบัญชีมาตรฐานเล็กน้อย

ภาพรวมจากการทดสอบโบรกเกอร์

สำหรับการเทรดผ่าน TradingView จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง กราฟของ TradingView ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกราฟที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม มีความลื่นไหล ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย

ความลื่นไหลในการเทรด

การเทรดผ่าน TradingView มีความลื่นไหลสูง กราฟมีการอัพเดทแบบเรียลไทม์ และการส่งคำสั่งซื้อขายทำได้รวดเร็ว แท่งเทียนและอินดิเคเตอร์มีความแม่นยำ ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

ปัญหาการรีโควตขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณเลือกใช้มากกว่าตัว TradingView เอง โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView ส่วนใหญ่มีอัตราการรีโควตต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องปกติ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง อาจพบการรีโควตได้บ้าง

กราฟค้างบ่อยไหม

ปัญหากราฟค้างบน TradingView พบได้น้อยมาก เว้นแต่ในกรณีที่มีปัญหาจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือเซิร์ฟเวอร์ของ TradingView มีปัญหา ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง TradingView ยังคงสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Slippage บ่อยไหม

Slippage หรือการลื่นไหลของราคาจากที่ส่งคำสั่งจนถึงการเข้าซื้อขายจริง ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและนโยบายการดำเนินการของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ชั้นนำที่เชื่อมต่อกับ TradingView มักมีอัตรา Slippage ต่ำในช่วงเวลาปกติ แต่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีข่าวสำคัญหรือตลาดมีความผันผวนสูง ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในช่วงที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจสำคัญ

ระดับ Stop out

ระดับ Stop out หรือจุดที่ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อเงินในบัญชีลดลงถึงระดับหนึ่ง แตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 20-50% ของมาร์จิ้น ทั้งนี้ควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์ให้ละเอียดก่อนเริ่มเทรด

บัญชี TradingView โบรกเกอร์แบบไหนดี

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดและความต้องการของแต่ละคน เราขอแนะนำตามลักษณะการเทรดดังนี้:

สำหรับผู้เริ่มต้น:

  • TradingView Basic (ฟรี) + บัญชี Standard ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้การใช้งานและทดลองเทรดด้วยเงินทุนไม่มาก เน้นโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชั่น

สำหรับเทรดเดอร์ระดับกลาง:

  • TradingView Plus + บัญชี Standard/Pro ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์และต้องการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงต้องการคุณสมบัติเพิ่มเติมเช่น การตั้งค่าแจ้งเตือนไม่จำกัด

สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ:

  • TradingView Premium + บัญชี Pro/VIP ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่เทรดเป็นอาชีพหลัก ต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงทั้งหมด การเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ

สำหรับผู้ที่ต้องการถือออเดอร์ระยะยาว:

  • TradingView Essential + บัญชี Swap-Free ของโบรกเกอร์ – เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทรดแบบถือออเดอร์ข้ามคืนหรือระยะยาว เพื่อประหยัดค่าสว็อป แม้ว่าอาจต้องยอมรับค่าสเปรดที่กว้างขึ้นเล็กน้อย

TradingView โบรกเกอร์ไทย โบนัสและเงื่อนไข

โบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView มักมีโปรโมชั่นและโบนัสหลากหลายเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า โดยโปรโมชั่นที่พบบ่อยในปี 2025 ได้แก่:

  1. โบนัสเงินฝาก – รับโบนัสเพิ่มตามเปอร์เซ็นต์ของเงินฝาก (เช่น 50-100% ของเงินฝากแรก) ซึ่งมักมีเงื่อนไขการซื้อขายขั้นต่ำก่อนถอน
  2. โปรแกรมคืนเงิน (Rebate) – ได้รับเงินคืนตามปริมาณการเทรด เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง
  3. ส่วนลดค่าคอมมิชชั่น – บางโบรกเกอร์เสนอส่วนลดค่าคอมมิชชั่นให้กับลูกค้าระดับพรีเมียมหรือลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดสูง
  4. บัญชีทดลอง (Demo) – เกือบทุกโบรกเกอร์ให้เปิดบัญชีทดลองฟรีเพื่อทดสอบการเทรดผ่าน TradingView ก่อนใช้เงินจริง
  5. TradingView Pro แถมฟรี – บางโบรกเกอร์มอบสมาชิก TradingView ระดับพรีเมียมฟรีให้กับลูกค้าที่มียอดฝากสูงหรือปริมาณการเทรดมาก

อย่างไรก็ตาม โปรโมชั่นเหล่านี้มักมาพร้อมกับเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น เงินฝากขั้นต่ำ ปริมาณการเทรดขั้นต่ำ หรือระยะเวลาในการรับสิทธิ์

Platform ที่ใช้งาน

TradingView Platform ที่ใช้งาน
TradingView Platform ที่ใช้งาน

TradingView สามารถใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้สะดวกในการเข้าถึงและใช้งานจากทุกที่:

  1. TradingView Web – ใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม
  2. TradingView Desktop – แอปพลิเคชันสำหรับคอมพิวเตอร์ที่รองรับทั้ง Windows, macOS และ Linux ให้ประสิทธิภาพดีกว่าการใช้งานผ่านเว็บ
  3. TradingView Mobile – แอพสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งระบบ iOS และ Android ช่วยให้สามารถติดตามตลาดและเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา
  4. โบรกเกอร์แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อกับ TradingView – หลายโบรกเกอร์มีการผสานรวม TradingView เข้ากับแพลตฟอร์มเทรดของตัวเอง

นอกจากนี้ หลายโบรกเกอร์ยังรองรับแพลตฟอร์มเทรดอื่นๆ นอกเหนือจาก TradingView เช่น:

  • MetaTrader 4/5 – แพลตฟอร์มยอดนิยมที่รองรับการใช้งาน EA (Expert Advisor) และการเทรดอัลกอริทึม
  • cTrader – แพลตฟอร์มที่เน้นการเทรดแบบ Direct Market Access (DMA) และมีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ทรงพลัง
  • แพลตฟอร์มเฉพาะของโบรกเกอร์ – หลายโบรกเกอร์มีแพลตฟอร์มเทรดที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้บริการลูกค้า

การฝาก-ถอน TradingView โบรกเกอร์ไทย

การฝากและถอนเงินกับโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ต้องทำผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ไม่สามารถทำผ่าน TradingView ได้ แต่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็มีช่องทางที่สะดวกสำหรับนักลงทุนไทย

ถอนเงินไม่ได้ทำอย่างไร

หากประสบปัญหาในการถอนเงิน แนะนำให้ดำเนินการดังนี้:

  1. ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า – ควรติดต่อโบรกเกอร์โดยตรงผ่านช่องทาง Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์ พร้อมแจ้งหมายเลขบัญชีและรายละเอียดปัญหา
  2. ตรวจสอบเอกสาร KYC – บางครั้งปัญหาการถอนเงินอาจเกิดจากการยืนยันตัวตนที่ไม่สมบูรณ์ ควรตรวจสอบว่าได้ส่งเอกสารครบถ้วนหรือไม่
  3. ตรวจสอบเงื่อนไขโบนัส – หากได้รับโบนัส ต้องตรวจสอบว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการซื้อขายขั้นต่ำก่อนถอนเงินหรือไม่
  4. ติดตามผ่านระบบติดตามคำขอ – โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีระบบติดตามคำขอถอนเงินที่สามารถใช้ติดตามสถานะได้

ความเร็วในการฝาก-ถอน

  • การฝากเงิน – ส่วนใหญ่เครดิตเข้าบัญชีทันทีหรือภายใน 1 วันทำการ ขึ้นอยู่กับช่องทางการฝาก
  • การถอนเงิน – ใช้เวลาประมาณ 1-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับช่องทางการถอนและนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์

ค่าบริการ / Rate ฝาก-ถอน

ค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงินแตกต่างกันไปตามช่องทางและโบรกเกอร์:

  • โอนผ่านธนาคารไทย – โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ไม่คิดค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงิน แต่อาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนประมาณ 300-500 บาทต่อครั้ง
  • บัตรเครดิต/เดบิต – อาจมีค่าธรรมเนียมประมาณ 2-3% สำหรับการฝาก และ 1-5% สำหรับการถอน
  • E-Wallet (Skrill, Neteller, PayPal) – มีค่าธรรมเนียมประมาณ 1-2.5% ทั้งการฝากและถอน
  • คริปโตเคอเรนซี – ค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามสกุลเงินและเครือข่าย แต่มักมีอัตราต่ำกว่าช่องทางอื่นๆ

วิธีการ ฝาก — ถอน โบรกเกอร์ TradingView

การฝากเงิน: (ต้องทำผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ไม่สามารถทำผ่าน TradingView)

  1. เข้าสู่ระบบในบัญชีโบรกเกอร์ของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง
  2. ไปที่ส่วน “การเงิน” หรือ “ฝากเงิน”
  3. เลือกวิธีการฝากเงินที่ต้องการ (โอนผ่านธนาคารไทย, บัตรเครดิต, e-wallet เป็นต้น)
  4. กรอกจำนวนเงินและทำตามขั้นตอนที่ระบุ
  5. ยืนยันการทำรายการ
  6. หลังจากเงินเข้าบัญชีแล้ว จึงสามารถใช้ TradingView เพื่อการเทรดได้

การถอนเงิน: (ต้องทำผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ไม่สามารถทำผ่าน TradingView)

  1. เข้าสู่ระบบในบัญชีโบรกเกอร์ของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง
  2. ไปที่ส่วน “การเงิน” หรือ “ถอนเงิน”
  3. เลือกวิธีการถอนเงินที่ต้องการ
  4. กรอกจำนวนเงินและข้อมูลบัญชีปลายทาง
  5. ยืนยันการทำรายการและรอการอนุมัติ

TradingView โบรกเกอร์ไทย ติดต่อเจ้าหน้าที่

TradingView โบรกเกอร์ไทย ติดต่อเจ้าหน้าที่
TradingView โบรกเกอร์ไทย ติดต่อเจ้าหน้าที่

โบรกเกอร์ชั้นนำที่รองรับ TradingView ส่วนใหญ่มีช่องทางติดต่อหลากหลายและมีทีมงานที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ในช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการ:

  1. Live Chat – ติดต่อเจ้าหน้าที่แบบเรียลไทม์ผ่านหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
  2. อีเมล – ส่งคำถามหรือข้อสงสัยผ่านอีเมล
  3. โทรศัพท์ – สายด่วนสำหรับติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่
  4. Social Media – บางโบรกเกอร์ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเช่น Line, WhatsApp หรือ Facebook Messenger
  5. ศูนย์ช่วยเหลือออนไลน์ – คลังความรู้และคำถามที่พบบ่อยเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

สำหรับโบรกเกอร์ที่มีบริการในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะมีทีมงานที่พูดภาษาไทยได้ ทำให้การสื่อสารและแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว

ข้อควรระวังในการใช้ TradingView โบรกเกอร์

แม้ว่า TradingView และโบรกเกอร์ที่รองรับจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรคำนึงถึง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนไทย:

  1. ข้อจำกัดของแพ็คเกจฟรี – TradingView เวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัดมากมาย เช่น จำนวนอินดิเคเตอร์ต่อกราฟ (จำกัดเพียง 3 อินดิเคเตอร์) และการตั้งค่าแจ้งเตือนที่จำกัด (เพียง 1 แจ้งเตือน)
  2. ล็อกอินแยกกัน – ต้องล็อกอินทั้งบัญชี TradingView และบัญชีโบรกเกอร์ ซึ่งอาจไม่สะดวกในบางกรณี
  3. ความเสี่ยงจากเลเวอเรจสูง – โบรกเกอร์หลายแห่งเสนอเลเวอเรจสูงถึง 1:500 ซึ่งเพิ่มทั้งโอกาสในการทำกำไรและความเสี่ยงในการขาดทุน
  4. ข้อจำกัดด้านการเทรดอัตโนมัติ – TradingView ยังไม่รองรับการเทรดอัตโนมัติโดยตรง ต้องใช้เครื่องมือเสริมจากภายนอก
  5. ค่าบริการที่ซ่อนอยู่ – ควรศึกษาค่าธรรมเนียมและค่าบริการทั้งหมดของโบรกเกอร์อย่างละเอียด เช่น ค่าสว็อป ค่าธรรมเนียมไม่ใช้งาน เป็นต้น
  6. ไม่สามารถฝากถอนเงินผ่าน TradingView – ต้องดำเนินการฝากถอนเงินผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์โดยตรง ทำให้ต้องสลับระหว่างแพลตฟอร์ม
  7. ประวัติการเทรดไม่ครบถ้วน – TradingView อาจแสดงประวัติการเทรดเฉพาะในช่วงเวลาที่จำกัด ต้องเข้าไปดูประวัติการเทรดที่สมบูรณ์ในเว็บไซต์ของโบรกเกอร์

สรุป

TradingView เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคชั้นนำของโลกที่ผสมผสานกับคุณสมบัติโซเชียลมีเดีย ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักลงทุนไทย การเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ชั้นนำระดับโลกช่วยให้สามารถวิเคราะห์และเทรดได้ในแพลตฟอร์มเดียวอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

โบรกเกอร์ที่รองรับ TradingView มีจุดเด่นด้านความน่าเชื่อถือ การกำกับดูแลที่เข้มงวด และการให้บริการที่ครอบคลุม แม้จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับแพ็คเกจพรีเมียมและข้อจำกัดบางประการ แต่ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ที่ทรงพลัง และชุมชนนักเทรดที่แข็งแกร่ง ทำให้ TradingView เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนไทยทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

ข้อควรทราบสำหรับนักลงทุนไทย คือการไม่สามารถฝากถอนเงินผ่าน TradingView ได้โดยตรง ต้องดำเนินการผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดเรื่องประวัติการเทรดและการใช้งานฟีเจอร์บางอย่างที่อาจต้องอัปเกรดเป็นแพ็คเกจแบบเสียเงิน

ก่อนตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อมต่อกับ TradingView ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียม คุณภาพการให้บริการ การรองรับการฝากถอนผ่านธนาคารไทย และความเหมาะสมกับรูปแบบการเทรดของคุณ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเทรดที่ดีที่สุด และบรรลุเป้าหมายทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ TradingView ร่วมกับโบรกเกอร์ที่เหมาะสมสามารถช่วยยกระดับการวิเคราะห์และการเทรดของคุณได้อย่างมาก แต่ต้องเข้าใจข้อจำกัดและวิธีการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์สูงสุด

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser