แท่งเทียนกลับตัว มีกี่แบบอะไรบ้างในตลาด forex

Reversal Patterns

แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับนักเทรด Forex ที่ช่วยบ่งชี้จุดที่แนวโน้มของตลาดอาจจะเปลี่ยนทิศทาง รูปแบบเหล่านี้สามารถให้สัญญาณที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในพลวัตของอุปสงค์และอุปทาน ทำให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับการเข้าหรือออกจากตำแหน่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่พบบ่อยในตลาด Forex พร้อมคำอธิบายและเคล็ดลับในการใช้งาน ประเภทของแท่งเทียนกลับตัว แท่งเทียนกลับตัวสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก: รูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Patterns): ปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและบ่งชี้ว่าราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทางขึ้น รูปแบบกลับตัวขาลง (Bearish Reversal Patterns): เกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นและแสดงว่าราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทางลง มาดูรูปแบบที่พบบ่อยในแต่ละประเภทกันครับ รูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Patterns) 1. Hammer Hammer เป็นแท่งเทียนเดี่ยวที่มีลักษณะดังนี้: มีไส้ด้านล่างยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวเทียน) มีตัวเทียนสั้น มีไส้ด้านบนสั้นหรือไม่มีเลย Hammer มักปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและบ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาควบคุมตลาด แม้ว่าราคาจะถูกกดลงต่ำในช่วงการซื้อขาย แต่ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้จุดสูงสุดได้ 2. Bullish Engulfing Bullish Engulfing เป็นรูปแบบ 2 แท่งที่มีลักษณะดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งสีดำ (หรือสีแดง) ขนาดเล็ก [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

แท่งเทียน hammer เขียว และ แดง คืออะไร หมายความว่าอย่างไร

แท่งเทียน Hammer

แท่งเทียน hammer คืออะไร แท่งเทียน hammer เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะคล้ายค้อน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดใช้บ่อยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี แท่งเทียน hammer มีลักษณะเฉพาะที่สำคัญและมีความหมายที่แตกต่างกันระหว่างแท่งสีเขียวและแดง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแท่งเทียน hammer อย่างละเอียด โดยมีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน: ตัวเทียน (Real body): เป็นส่วนที่แสดงช่วงราคาระหว่างราคาเปิดและราคาปิด มีขนาดสั้น เงา (Shadow) ด้านบน: มีขนาดสั้นมากหรือไม่มีเลย เงาด้านล่าง: มีขนาดยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของตัวเทียน ลักษณะสำคัญของ hammer คือเงาด้านล่างที่ยาว ซึ่งแสดงถึงการที่ราคาลงไปต่ำมากในช่วงการซื้อขาย แต่ในที่สุดก็ปิดใกล้กับจุดสูงสุดของวัน นี่เป็นสัญญาณว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด ความแตกต่างระหว่าง hammer เขียวและแดง แท่งเทียน hammer สามารถเป็นได้ทั้งสีเขียวและแดง โดยมีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย: Hammer เขียว (Bullish Hammer) ตัวเทียนสีเขียว ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่งมากกว่า hammer แดง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

bearish engulfing คือ อะไร มีวิธีการใช้งานอย่างไร

1.Bearish Engulfing คืออะไร

Bearish Engulfing คืออะไร Bearish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาขึ้นเป็นขาลง รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bearish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดสูงกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดต่ำกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อเป็นแรงขายอย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bearish Engulfing Bearish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขายได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ซื้อ ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาขึ้นที่ยาวนาน วิธีระบุ Bearish Engulfing การระบุ Bearish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Engulfing คือ คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร

1.Bullish Engulfing คืออะไร

Bullish Engulfing คืออะไร Bullish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาลงเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bullish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดต่ำกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดสูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงขายเป็นแรงซื้ออย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bullish Engulfing Bullish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ขาย ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาลงที่ยาวนาน วิธีระบุ Bullish Engulfing การระบุ Bullish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Dark Cloud Cover คืออะไร วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

Dark Cloud Cover

Dark Cloud Cover เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของตลาด บทความนี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Dark Cloud Cover ตั้งแต่ความหมาย ลักษณะสำคัญ ไปจนถึงวิธีการใช้งานและข้อควรระวัง Dark Cloud Cover คืออะไร? Dark Cloud Cover เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงการกลับตัวแบบขาลง (bearish reversal) ที่มักปรากฏในช่วงท้ายของแนวโน้มขาขึ้น รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งที่มีลักษณะเฉพาะ: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งสีเขียว (หรือขาว) แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของราคา แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งสีแดง (หรือดำ) ที่เปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งแรก แต่ปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก รูปแบบนี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในตลาดและอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง ลักษณะสำคัญของ Dark Cloud Cover เพื่อให้เข้าใจ Dark Cloud Cover ได้ดียิ่งขึ้น เรามาดูลักษณะสำคัญของรูปแบบนี้กัน: แนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า: Dark Cloud Cover ควรปรากฏหลังจากมีแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งขาขึ้นที่แข็งแกร่ง มักมีลำตัวยาวและมีเงาน้อยหรือไม่มีเลย แท่งเทียนที่สอง: เปิดด้วย gap [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Morning Doji Star คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

37 Morning Doji Star

Morning Doji Star คืออะไร? Morning Doji Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็น Doji (แท่งเทียนที่ราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกันมาก) ที่มี gap ลงจากแท่งแรก แท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ที่ปิดสูงเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก Morning Doji Star ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) ที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง วิธีใช้ Morning Doji Star ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Morning Doji Star ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวรับหรือจุดต่ำสุดของแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็น Doji ที่มี gap ลงจากแท่งแรก แท่งที่สามต้องเป็นแท่งสีขาวที่ปิดสูงเข้าไปในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สามอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Harami คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

29 Bullish Harami

Bullish Harami คืออะไร? Bullish Harami เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลง (downtrend) ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ขนาดเล็กกว่า โดยตัวแท่งเทียน (real body) อยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก คำว่า “Harami” มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า “การตั้งครรภ์” หรือ “ท้อง” โดยแท่งแรกถูกมองว่าเป็น “แม่” ที่มีตัวใหญ่ล้อมรอบแท่งที่สองที่เล็กกว่า ทำให้ดูเหมือนแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ Bullish Harami ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) วิธีใช้ Bullish Harami ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Bullish Harami ต้องเกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นใกล้กับระดับแนวรับหรือเส้นแนวโน้ม ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แสดงถึงการดำเนินต่อของแนวโน้มขาลง แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีขาวที่เล็กกว่า โดยราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งแรก แต่ตัวแท่งเทียนยังคงอยู่ภายในตัวแท่งเทียนของแท่งแรก สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Bullish Harami [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Hanging Man คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

16 Hanging Man

Hanging Man คืออะไร? Hanging Man เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีตัวเทียนเล็ก (สีขาวหรือดำ) อยู่ด้านบนของแท่งเทียน มีเงาล่างที่ยาวมาก โดยควรยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของตัวเทียน ไม่มีเงาบนหรือมีเงาบนที่สั้นมาก เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น Hanging Man มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น (bearish reversal) โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น วิธีใช้ Hanging Man ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Hanging Man มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Hanging Man เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Hanging Man มักมีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว โดยเฉพาะถ้าเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) วิเคราะห์ความยาวของเงาล่าง: เงาล่างที่ยาวมากบ่งบอกถึงการพยายามขายทำกำไรอย่างรุนแรง แม้ว่าราคาจะปิดใกล้จุดสูงสุดก็ตาม ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Piercing Line คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

45 Piercing Line

Piercing Line คืออะไร? Piercing Line เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ที่เปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก แท่งที่สองปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก แต่ไม่สูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก Piercing Line ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงหรือที่ระดับแนวรับสำคัญ วิธีใช้ Piercing Line ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Piercing Line มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน หรือที่ระดับแนวรับสำคัญ ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีขาวที่เปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก แท่งที่สองต้องปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก แต่ไม่สูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สองอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Piercing Line มีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ Piercing Line [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser