แท่งเทียนกลับตัว มีกี่แบบอะไรบ้างในตลาด forex

Reversal Patterns

แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns) เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับนักเทรด Forex ที่ช่วยบ่งชี้จุดที่แนวโน้มของตลาดอาจจะเปลี่ยนทิศทาง รูปแบบเหล่านี้สามารถให้สัญญาณที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในพลวัตของอุปสงค์และอุปทาน ทำให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับการเข้าหรือออกจากตำแหน่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่พบบ่อยในตลาด Forex พร้อมคำอธิบายและเคล็ดลับในการใช้งาน ประเภทของแท่งเทียนกลับตัว แท่งเทียนกลับตัวสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก: รูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Patterns): ปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและบ่งชี้ว่าราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทางขึ้น รูปแบบกลับตัวขาลง (Bearish Reversal Patterns): เกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นและแสดงว่าราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทางลง มาดูรูปแบบที่พบบ่อยในแต่ละประเภทกันครับ รูปแบบกลับตัวขาขึ้น (Bullish Reversal Patterns) 1. Hammer Hammer เป็นแท่งเทียนเดี่ยวที่มีลักษณะดังนี้: มีไส้ด้านล่างยาว (อย่างน้อย 2 เท่าของตัวเทียน) มีตัวเทียนสั้น มีไส้ด้านบนสั้นหรือไม่มีเลย Hammer มักปรากฏที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงและบ่งชี้ว่าผู้ซื้อกำลังเข้ามาควบคุมตลาด แม้ว่าราคาจะถูกกดลงต่ำในช่วงการซื้อขาย แต่ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคากลับขึ้นมาปิดใกล้จุดสูงสุดได้ 2. Bullish Engulfing Bullish Engulfing เป็นรูปแบบ 2 แท่งที่มีลักษณะดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งสีดำ (หรือสีแดง) ขนาดเล็ก [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

price action (PA) คือ อะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง

Price Action

Price Action หรือ PA เป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มุ่งเน้นการศึกษาพฤติกรรมราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงิน โดยไม่พึ่งพาอินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ นักเทรดที่ใช้ Price Action จะวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาโดยตรงจากกราฟ เพื่อคาดการณ์ทิศทางราคาในอนาคตและหาจุดเข้า-ออกที่เหมาะสม วิธีการนี้เชื่อว่าราคาสะท้อนทุกสิ่งทุกอย่างในตลาด รวมถึงอารมณ์และจิตวิทยาของนักลงทุน ประวัติและพัฒนาการของ Price Action Price Action มีรากฐานมาจากทฤษฎี Dow ที่พัฒนาโดย Charles Dow ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคสมัยใหม่ ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 Richard Wyckoff ได้พัฒนาวิธีการวิเคราะห์ที่เน้นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณการซื้อขาย ซึ่งเป็นแนวคิดสำคัญของ Price Action ในยุคปัจจุบัน นักเทรดและนักวิเคราะห์หลายท่าน เช่น Al Brooks และ Bob Volman ได้พัฒนาและเผยแพร่แนวคิด Price Action อย่างกว้างขวาง ทำให้วิธีการนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักเทรดรายย่อยและมืออาชีพ องค์ประกอบสำคัญของ Price Action 1. แท่งเทียน (Candlesticks) แท่งเทียนเป็นวิธีการแสดงข้อมูลราคาที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ Price [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

piercing pattern คือ อะไร มีวิธีการใช้อย่างไร

Piercing Pattern

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค รูปแบบแท่งเทียนเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน หนึ่งในรูปแบบที่น่าสนใจและมีประโยชน์คือ Piercing Pattern ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Piercing Pattern อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย ลักษณะเฉพาะ วิธีการใช้งาน ข้อควรระวัง ตลอดจนการประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน Piercing Pattern คืออะไร Piercing Pattern เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่งต่อเนื่องกัน แท่งแรกเป็นแท่งสีแดง (ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) แท่งที่สองเป็นแท่งสีเขียว (ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) ราคาเปิดของแท่งที่สองต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งแรก (มี gap ลง) ราคาปิดของแท่งที่สองสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก Piercing Pattern มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวขาขึ้น (bullish reversal) ในตลาด แม้ว่าจะเป็นเพียงการกลับตัวในระยะสั้น วิธีใช้ Piercing Pattern ในการวิเคราะห์ วิธีการใช้ Piercing Pattern ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Piercing Pattern มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากช่วงขาลงที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้แนวรับสำคัญ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Kicker คือ อะไร มีวิธีใช้อย่างไร

Bullish Kicker

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับการเทรดในตลาดการเงิน รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Pattern) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาและอารมณ์ของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่น่าสนใจและมีพลังในการบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงของทิศทางตลาดคือ Bullish Kicker บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Bullish Kicker อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย วิธีการเกิดขึ้น ไปจนถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจเทรด Bullish Kicker คืออะไร Bullish Kicker เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดกัน ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในทิศทางของราคาจากขาลงเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ลักษณะสำคัญของ Bullish Kicker มีดังนี้: แท่งแรก: เป็นแท่งเทียนสีแดง (หรือสีดำในบางกราฟ) ที่แสดงถึงแนวโน้มขาลง แท่งที่สอง: เป็นแท่งเทียนสีเขียว (หรือสีขาว) ที่เปิดด้วยช่องว่าง (gap) เหนือจุดปิดของแท่งแรก การเปิดของแท่งที่สอง: ต้องอยู่สูงกว่าจุดสูงสุดของแท่งแรก ลำตัวของแท่งที่สอง: มักจะยาวและแสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ความสำคัญของ Bullish Kicker Bullish Kicker มีความสำคัญต่อนักเทรดและนักลงทุนหลายประการ: สัญญาณการกลับตัวที่แข็งแกร่ง: Bullish Kicker เป็นหนึ่งในสัญญาณการกลับตัวที่น่าเชื่อถือที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดอย่างฉับพลัน: รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากความเป็นขาลงเป็นขาขึ้น มักเกิดหลังจากการประกาศข่าวสำคัญ: [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Continuation Pattern คือ อะไร มีรูปแบบอะไรบ้าง

รูปแบบแท่งเทียน Bullish Continuation และ Bearish Continuation

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับการเทรดในตลาดการเงิน Continuation Pattern หรือรูปแบบการต่อเนื่องเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักเทรดและนักลงทุนใช้เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาในอนาคต รูปแบบเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถระบุจุดที่แนวโน้มปัจจุบันอาจจะดำเนินต่อไปหลังจากช่วงของการพักตัวหรือการรวมตัว บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Continuation Pattern อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมาย ประเภทต่างๆ ไปจนถึงวิธีการนำไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจเทรด Continuation Pattern คืออะไร Continuation Pattern หรือรูปแบบการต่อเนื่อง เป็นรูปแบบทางเทคนิคที่เกิดขึ้นในระหว่างแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่ และมักจะบ่งชี้ว่าแนวโน้มนั้นจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิมหลังจากที่รูปแบบนี้สิ้นสุดลง รูปแบบเหล่านี้มักจะแสดงถึงช่วงของการพักตัวหรือการรวมตัวชั่วคราวในระหว่างแนวโน้มหลัก ลักษณะสำคัญของ Continuation Pattern มีดังนี้: เกิดขึ้นในระหว่างแนวโน้มที่ชัดเจน (ขาขึ้นหรือขาลง) แสดงถึงการพักตัวชั่วคราวของแนวโน้ม มักจะมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในระหว่างการก่อตัวของรูปแบบ เมื่อราคาหลุดออกจากรูปแบบ (breakout) มักจะมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากเกิด breakout ราคามักจะเคลื่อนที่ต่อในทิศทางเดิมของแนวโน้มหลัก ความสำคัญของ Continuation Pattern Continuation Pattern มีความสำคัญต่อนักเทรดและนักลงทุนหลายประการ: ช่วยในการยืนยันแนวโน้ม: รูปแบบเหล่านี้ช่วยยืนยันว่าแนวโน้มปัจจุบันยังคงแข็งแกร่งและมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไป ระบุจุดเข้าเทรด: สามารถใช้เป็นสัญญาณในการเข้าเทรดตามทิศทางของแนวโน้มหลัก การจัดการความเสี่ยง: ช่วยในการกำหนดจุด stop loss และ take profit ที่เหมาะสม ประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม: ลักษณะและระยะเวลาของการก่อตัวรูปแบบสามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Hollow candle คือ มีวิธีดูอย่างไร

Hollow candle

Hollow candle คืออะไร Hollow candle หรือแท่งเทียนกลวง เป็นรูปแบบหนึ่งของแท่งเทียนในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่มีลักษณะเฉพาะคือส่วนของลำตัวแท่งเทียน (body) จะเป็นช่องว่างหรือ “กลวง” แทนที่จะเป็นสีทึบเหมือนแท่งเทียนทั่วไป โดยทั่วไป Hollow candle จะมีลักษณะดังนี้: ลำตัวเป็นช่องว่างหรือกลวง มีเส้นขอบด้านบนและด้านล่างของลำตัว อาจมีเงา (wick) ด้านบนหรือด้านล่าง หรือทั้งสองด้าน ความหมายหลักของ Hollow candle คือการแสดงถึงการปิดตลาดที่ราคาสูงกว่าราคาเปิด ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นสัญญาณของแรงซื้อหรือความเป็นขาขึ้น (Bullish) ความแตกต่างระหว่าง Hollow candle และแท่งเทียนปกติ เพื่อเข้าใจ Hollow candle ได้ดียิ่งขึ้น เราควรเปรียบเทียบกับแท่งเทียนปกติ: แท่งเทียนปกติ: ลำตัวทึบ สีเขียวหรือขาว: ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (Bullish) สีแดงหรือดำ: ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (Bearish) Hollow candle: ลำตัวกลวง มักใช้สีขาวหรือสีอ่อน แสดงถึงราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดเสมอ (Bullish) ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ Hollow candle จะแสดงเฉพาะกรณีที่ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดเท่านั้น [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

bearish engulfing คือ อะไร มีวิธีการใช้งานอย่างไร

1.Bearish Engulfing คืออะไร

Bearish Engulfing คืออะไร Bearish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาขึ้นเป็นขาลง รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bearish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดสูงกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดต่ำกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อเป็นแรงขายอย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bearish Engulfing Bearish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ขายได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ซื้อ ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาขึ้นที่ยาวนาน วิธีระบุ Bearish Engulfing การระบุ Bearish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Bullish Engulfing คือ คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไร

1.Bullish Engulfing คืออะไร

Bullish Engulfing คืออะไร Bullish Engulfing คือ รูปแบบแท่งเทียนที่ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน หนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่สำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการระบุจุดกลับตัวของตลาดจากขาลงเป็นขาขึ้น รูปแบบนี้ให้สัญญาณที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มราคา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับ Bullish Engulfing ความหมาย วิธีการระบุ และวิธีการนำไปใช้ในกลยุทธ์การเทรด โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้: แท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาลง (สีแดงหรือดำ) มีขนาดค่อนข้างเล็ก แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียวหรือขาว) มีขนาดใหญ่กว่าแท่งแรก แท่งที่สองเปิดต่ำกว่าจุดปิดของแท่งแรก และปิดสูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก ทำให้ “ครอบคลุม” หรือ “กลืน” แท่งแรกทั้งหมด รูปแบบนี้มักเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง และบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงขายเป็นแรงซื้ออย่างฉับพลัน ความสำคัญของ Bullish Engulfing Bullish Engulfing มีความสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนื่องจาก: สัญญาณการกลับตัว: บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงในตลาด: สะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อได้เข้ามามีอำนาจเหนือผู้ขาย ความชัดเจนของสัญญาณ: รูปแบบที่เห็นได้ชัดเจนบนกราฟ ทำให้ง่ายต่อการระบุ ประสิทธิภาพในการคาดการณ์: มีความแม่นยำสูงในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวขาลงที่ยาวนาน วิธีระบุ Bullish Engulfing การระบุ Bullish Engulfing [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

เทรดกราฟ เปล่า คือ อะไร จิตวิทยาแท่งเทียนกราฟเปล่า วิธีวิเคราะห์

เทรดกราฟเปล่า

เทรดกราฟ เปล่า คือ อะไร การเทรดกราฟเปล่า หรือ Naked Chart Trading เป็นวิธีการวิเคราะห์และเทรดที่อาศัยเพียงกราฟราคาล้วนๆ โดยไม่ใช้อินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ วิธีนี้เน้นการอ่านพฤติกรรมราคาและจิตวิทยาตลาดโดยตรง ซึ่งหลายคนเชื่อว่าสามารถให้มุมมองที่ชัดเจนและแม่นยำกว่าการใช้อินดิเคเตอร์จำนวนมาก ความหมายของการเทรดกราฟเปล่า การเทรดกราฟเปล่า หมายถึง การวิเคราะห์และตัดสินใจเทรดโดยอาศัยเพียงกราฟราคาเท่านั้น โดยไม่มีการเพิ่มอินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ ลงบนกราฟ ผู้เทรดจะต้องอาศัยทักษะในการอ่านพฤติกรรมราคา รูปแบบแท่งเทียน และโครงสร้างตลาดเพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทางราคา องค์ประกอบของกราฟเปล่า แท่งเทียน (Candlesticks): แสดงข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง เส้นแนวโน้ม (Trend lines): เส้นที่ลากเชื่อมจุดสูงสุดหรือต่ำสุดของราคา แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance): ระดับราคาที่มักมีแรงซื้อหรือขายเข้ามา โครงสร้างตลาด (Market Structure): รูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในภาพรวม ข้อดีของการเทรดกราฟเปล่า ลดความซับซ้อน: ไม่ต้องกังวลกับการตั้งค่าหรือการตีความอินดิเคเตอร์จำนวนมาก เพิ่มความชัดเจน: มุ่งเน้นที่พฤติกรรมราคาโดยตรง ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา พัฒนาทักษะการอ่านตลาด: ฝึกให้เข้าใจจิตวิทยาตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน ลดการพึ่งพาเครื่องมือ: เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจด้วยตนเอง ยืดหยุ่นกว่า: สามารถปรับตัวกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่า ข้อเสียของการเทรดกราฟเปล่า [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน (Candlestick) คืออะไร ทำความรู้จักกับกราฟแท่งเทียน

1.กราฟท่งเทียนคือ

กราฟแท่งเทียน คือ กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ ชนิดหนึ่งของกราฟที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคภายในตลาดการเงินและตลาดหุ้น เพื่อแสดงราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, และราคาต่ำสุดของระยะเวลาที่กำหนด ส่วนประกอบหลักๆของแท่งเทียนมี 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ตัวแท่ง (Body) ตัวแท่ง (Body): ซึ่งแสดงราคาเปิดและปิด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียว (หรือสีอื่นๆที่ถูกกำหนดไว้) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง ตัวแท่ง (Body) ของกราฟแท่งเทียนเป็นส่วนหลักที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงเวลาที่ต้องการวิเคราะห์มันสามารถเข้าใจได้ง่ายและให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกระแสตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้ แท่งเทียนขาว หรือ เขียว: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีขาวหรือเขียว มันแสดงว่า ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด หมายความว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้เพิ่มขึ้น แท่งเทียนดำ หรือ แดง: หากตัวแท่ง (Body) เป็นสีดำหรือแดง มันแสดงว่า ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดในช่วงเวลานั้น. ตัวแท่งเริ่มที่ราคาเปิดและสิ้นสุดที่ราคาปิด แสดงว่าในช่วงเวลานั้น ๆ ราคาได้ลดลง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser