แก้ไขชื่อสถานที่ ที่อยู่ แก้ไขปักหมุด Google Map ในคอม ในโทรศัพท์

การเดินทางในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายๆท่านจะต้องมีตัวช่วยในการเดินทางที่ดีอย่าง Google Map เพื่อนำทางพาคุณไปยังจุดหมายอย่างถูกต้องและปลอดภัย ทั้งเส้นทางในการเดินทางภายในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก Google Map สามารถช่วยคุณได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งเส้นทางในการเดินทางที่คุณเดินทางไปอาจจะไปไม่ถึงจุดหมายเพราะว่าการปักหมุดหรือ ที่อยู่ของสถานที่นั้นๆ ถูกลงข้อมูลไว้ผิด ในบทความนี้เราจะมา แก้ไขชื่อสถานที่ ที่อยู่ แก้ไขการปักหมุด ในคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์ ให้ถูกต้องและแม่นยำ

1 แก้ไขชื่อสถานที่ ที่อยู่

Google Map คืออะไร

การให้บริการของ Google ด้วยเทคโนโลยีด้านแผนที่ที่มีประสิทธิภาพสูง มีการใช้งานง่ายและมีข้อมูลรายละเอียดที่ตั้งต่างๆในชุมชนท้องถิ่น เช่น

  • ที่ตั้งของธุรกิจต่างๆ
  • รายละเอียดการติดต่อ
  • เส้นทางการเดินทาง

โดยบริการแผนที่บน Google Map เป็นบริการฟรีที่มีไว้ให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกโดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ

  • แผนที่
  • ภาพถ่ายดาวเทียมที่มีคุณภาพ
  • ครอบคลุมรายละเอียดบนโลก
  • มีมาตราส่วนต่างๆของผิวโลก

และทุกสิ่งเหล่านี้จึงทำให้ Google Map เป็นบริการแผนที่ที่นิยมให้กันทั่วโลก

การเริ่มต้นใช้งาน Google Maps ต้องทำอย่างไร

  • Google Maps สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีของ Google หรือ Gmail
  • การเข้าใช้งานผ่าน เว็บไซต์ google.com/maps หรือผ่านแอฟ Google Maps บนอุปกรณ์มือถือทั้งระบบ Android และ iOS
  • หากต้องการให้ระบบจัดเก็บและจดจำข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่และพิกัดต่าง ๆ ไว้

ควรสมัครบัญชี Google หรือ Gmail ไว้สำหรับการใช้งาน

วิธีการใช้งาน Google maps ทำอย่างไร

 การค้นหา

  1. คุณสามารถค้นหาสถานที่หรือประเภทสถานที่ได้ใน Google Maps
  2. นอกจากนั้น คุณยังสามารถคลิกที่ช่องค้นหาเพื่อขอเส้นทาง และดูการค้นหาเมื่อไม่นานที่ผ่านมาได้ด้วย

การจราจร ขนส่งสาธารณะ การขี่จักรยาน และภูมิประเทศ

ข้อมูลเหล่านี้และข้อมูลอื่นๆสามารถเข้าดูได้บนแผนที่ ให้คลิก >>> เมนูหลัก 

 การขอเส้นทาง

เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นเส้นทาง คุณสามารถคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ด้านล่างช่องค้นหา

ผลลัพธ์

  1. ผลการค้นหาของคุณจะปรากฏบนแผนที่ โดยมีเครื่องหมายขนาดใหญ่ที่แสดงผลการค้นหาอันดับต้นๆ
  2. คลิกที่ผลการค้นหาใดๆ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ขอเส้นทาง หรือแม้กระทั่งดูภายในอาคารของธุรกิจ รายละเอียดจะปรากฏใต้ช่องค้นหา

พิมพ์

หากต้องการพิมพ์แผนที่ >>> คลิกเมนูหลัก >>>  แล้วคลิกพิมพ์ >>> เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีพิมพ์เส้นทาง

มองโลกแบบ 3 มิติ

รับมุมมอง 3D Earth โดยการคลิกที่ >>> มุมซ้ายล่าง ถ้าคุณอยู่ในโหมด Lite คุณจะสามารถดูรูปภาพจากดาวเทียมแทน

ปักหมุดหรือสำรวจแผนที่

ให้คลิกไอคอนหนึ่งครั้งบนแผนที่เพื่อทำเครื่องหมายสถานที่ด้วยไอคอนแผนที่ คลิกที่ใดก็ได้ในแผนที่หนึ่งครั้งเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นั้นซึ่งจะแสดงใต้ช่องค้นหา เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำทาง

คลิกขวาเพื่อดูตัวเลือกอื่นๆ

คลิกขวาบนแผนที่เพื่อ

  • วัดระยะทางระหว่างจุดต่างๆ
  • สำรวจแผนที่
  • ขอเส้นทางไป/กลับจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง

รายงานปัญหา

ช่วยทำให้ Google Maps ดีขึ้นด้วยการรายงานปัญหาเกี่ยวกับแผนที่ เช่น ธุรกิจที่ปิดกิจการไปแล้ว หรือชื่อถนนที่ไม่ถูกต้อง

ดู Street View ภาพถ่าย และอื่นๆ

เมื่อคุณคลิกสถานที่บนแผนที่ ภาพต่างๆ เช่น Street View และภาพถ่ายจะปรากฏในข้อมูลใต้ช่องค้นหา สามารถดูรูปภาพมากขึ้นด้วยการคลิกปุ่มสำรวจที่มุมขวาล่างของหน้าจอ

วิธีตั้งค่าที่อยู่บ้านและที่ทำงานใน Google Maps ทำอย่างไร

การตั้งค่าที่อยู่บ้านและที่ทำงานมีขั้นตอนดังนี้

  • ไปที่ Google Map
    2 ไปที่ Google Map
  • คลิกปุ่มเมนู (ขีดสามขีด) ที่มุมซ้ายบน แล้วคลิก >>> สถานที่ของคุณ
    3 คลิกปุ่มเมนู (ขีดสามขีด)
  • ในแถบ >>> ติดป้ายกำกับ คลิกเลือก >>> บ้าน หรือ ที่ทำงาน
    4 ในแถบ
  • จากนั้นกรอกที่อยู่หรือพิกัด แล้วคลิกปุ่ม >>> บันทึก
    5 จากนั้นกรอกที่อยู่หรือพิกัด

แก้ไขชื่อสถานที่ ใน Google Map ทำอย่างไร

การแก้ไขชื่อสถานที่มีขั้นตอนต่อไปนี้

  • เข้าไปที่ Google Maps 
    6 เข้าไปที่ Google Maps
  • จากนั้นค้นหาหรือเลือกสถานที่ในแผนที่
    7 จากนั้นค้นหาหรือเลือกสถานที่ในแผนที่
  • คลิกเข้าไป จากนั้นเลือก >>> แนะนำให้แก้ไข 
    8 คลิกเข้าไป จากนั้นเลือก
  • จากนั้นเลือก >>>  เปลี่ยนชื่อหรือรายละเอียดอื่นๆ 
    9 จากนั้นเลือก
  • เข้าไปแก้ไขชื่อสถานที่ จากนั้นคลิก >>> ส่ง
    10 เข้าไปแก้ไขชื่อสถานที่
  • จากนั้นจะขึ้นหน้าต่าง ขอบคุณที่ช่วยปรับปรุง Google Map
  • คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเมื่อเราตรวจสอบคำแนะนำของคุณแล้ว
  • จากนั้นคลิก >>> เสร็จ

เมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็ถือว่าการแก้ไขข้อมูลเรียบร้อยแล้ว รอการส่งอีเมลยืนยันจากทาง Google

แก้ไขที่อยู่ใน Google Map ทำอย่างไร

การแก้ไขที่อยู่ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  • เข้าไปที่ Google Maps 
    11 เข้าไปที่ Google Maps
  • จากนั้นพิมพ์ค้นหาหรือเลือกสถานที่ในแผนที่
    12 จากนั้นพิมพ์ค้นหาหรือเลือกสถานที่ในแผนที่
  • คลิกเข้าไป จากนั้นเลือก >>> แนะนำให้แก้ไข 
    13 คลิกเข้าไป จากนั้นเลือก
  • จากนั้นเลือก >>>  เปลี่ยนชื่อหรือรายละเอียดอื่นๆ 
    14 จากนั้นเลือก
  • เข้าไปแก้ไขที่อยู่ จากนั้นคลิก >>> ส่ง
    15 เข้าไปแก้ไขที่อยู่
  • จากนั้นจะขึ้นหน้าต่าง ขอบคุณที่ช่วยปรับปรุง Google Map
  • คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเมื่อเราตรวจสอบคำแนะนำของคุณแล้ว
  • จากนั้นคลิก >>> เสร็จ

แก้ไขปักหมุด Google Map ในคอมทำอย่างไร

ขั้นตอนในการแก้ไข การปักหมุดผิด ในคอมพิวเตอร์มีดังนี้

  1. เข้าไปที่ Google Map
    16 เข้าไปที่ Google Map
  • ค้นหาสถานที่ที่ต้องการแก้ไขการปักหมุด ที่ชิองค้นหาซ้ายมือด้านบน
    20 เมื่อเราคลิกเปลี่ยนชื่อหรือรายละเอียดอื่น
  • เมื่อเข้าไปแล้วพบว่าสถานที่ ที่ปักหมุดไว้ไม่ตรงบริเวณที่ถูกต้อง ให้ไปคลิกที่ >>> แนะนำให้แก้ไข
    21 เมื่อแน่ใจแล้วปักหมุด และคลิก
  • ระบบก็จะแสดงหน้าแนะนำให้แก้ไขขึ้นมา จากนั้นให้เลือก >>> เปลี่ยนชื่อหรือรายละเอียดอื่นๆ
  • เมื่อเราคลิกเปลี่ยนชื่อหรือรายละเอียดอื่นๆแล้วจะขึ้นรายละเอียดข้อมูลต่างๆขึ้นมา ให้เลือกคลิกที่ >>> แก้ไขตำแหน่งในแผนที่
  • จากนั้นจะมีตำแหน่งขึ้นมาให้เราแก้ไขตำแหน่งที่เราปักหมุดไว้
  • ให้เลือกปักหมุดใหม่บริเวณตำแหน่งที่ถูกต้องและแม่นยำ
  • จะใช้การซูมขยายเพื่อให้เห็นตำแหน่งร้านที่ถูกต้องก็ได้
  • เมื่อแน่ใจแล้วปักหมุด และคลิก >>> บันทึก
  • เมื่อบันทึกเรียบร้อยแล้วจะมีข้อความทางด้ายซ้ายมือด้านล่างขึ้นมาว่า ที่อยู่ถูกต้องหรือไม่ เมื่อตรวจสอบว่าถูกต้องแล้ว ให้คลิก >>> ส่ง
  • จากนั้นจะขึ้นหน้าต่าง ขอบคุณที่ช่วยปรับปรุง Google Map
  • คุณจะได้รับอีเมลแจ้งเมื่อเราตรวจสอบคำแนะนำของคุณแล้ว
  • จากนั้นคลิก >>> เสร็จ
  • เมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ให้ออกมาเช็คว่าหมุดที่ปักใหม่ มีตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่

แก้ไขปักหมุด Google Map ในโทรศัพท์ทำอย่างไร

ขั้นตอนในการแก้ไข การปักหมุดผิด ในโทรศัพท์มีดังนี้

  1. ไปที่แอฟพลิเคชัน Google Map ในโทรศัพท์ของคุณ
    22 ไปที่แอฟพลิเคชัน Google Map ในโทรศัพท์ของคุณ
  • จากนั้นไปที่ตำแหน่งหมุดที่ปักไว้
    23 จากนั้นไปที่ตำแหน่งหมุดที่ปักไว้
  • กดบริเวณหมุดที่ปักไว้ จากนั้นกดที่ >>> แนะนำการแก้ไข
    24 กดบริเวณหมุดที่ปักไว้ จากนั้นกดที่
  • เมื่อเรากดเข้ามาจะเป็นข้อมูลต่างๆ ให้เรากด >>> แก้ไขตำแหน่งในแผนที่
    25 เมื่อเรากดเข้ามาจะเป็นข้อมูลต่างๆ
  • จากนั้นจะปรากฏหมุดสีแดงขึ้นมาให้เราแก้ไข ให้ลากหมุดไปบริเวณที่ถูกต้องที่สุด จากนั้นกด >>> เสร็จสิ้น
    26 จากนั้นจะปรากฏหมุดสีแดงขึ้นมาให้เราแก้ไข
  • บริเวณด้านล่างหน้าจอจะมีข้อความว่า Google จะส่งอีเมลแจ้งสถานการณ์แก้ไขให้คุณ  จากนั้นกด >>> ส่ง ก็จะเสร็จสิ้นการแก้ไขปักหมุด
    27 บริเวณด้านล่างหน้าจอจะมีข้อความว่า

วิธีดูแผนที่ดาวเทียมแบบเห็นตัวบ้านด้วย Google Maps

การดูแผนที่ดาวเทียมแบบเห็นตัวบ้าน มีขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดเข้าไปที่ Google Maps
    28 เปิดเข้าไปที่ Google Maps
  1. เลือกคลิก เลเยอร์ ที่มุมด้านล่างซ้าย
    29 เลือกคลิก เลเยอร์ ที่มุมด้านล่างซ้าย
  1. จากนั้นคลิกที่ >>>  ดาวเทียม
  2. ระบบจะเปลี่ยนเป็นแผนที่ดาวเทียม สามารถกดซูมดูหลังคาบ้านได้
    30 ระบบจะเปลี่ยนเป็นแผนที่ดาวเทียม สามารถกดซูมดูหลังคาบ้านได้
  1. ถ้าอยากดูตัวบ้าน ให้คลิก >>> Street View
    31 ถ้าอยากดูตัวบ้าน ให้คลิก Street View
  2. เมื่อซูมเข้าไปจะเห็นถนน ตึก ตัวบ้าน ชัดเจน
    32 เมื่อซูมเข้าไปจะเห็นถนน ตึก ตัวบ้าน ชัดเจน

ใน Google Maps ฟีเจอร์อะไรบ้าง?

33 google map feature

นอกจากการนำทาง ที่เป็นระบบการทำงานหลักๆ ของ Google Maps แล้ว ภายในแอปพลิเคชัน Google Maps ก็ยังมีฟีเจอร์การทำงานเด็ดๆ ที่น่าใช้งานอีกมากมาย และสามารถใช้งานร่วมกับระบบการนำทางได้ มีฟีเจอร์อะไรบ้างไปดูกันเลย

Incognito mode (โหมดไม่ระบุตัวตน)

  • ฟีเจอร์นี้มีข้อดี โดยปกติเวลาเข้าสู่ระบบเพื่อใช้งาน Google Maps นั้น ระบบจะทำการเก็บข้อมูลการเดินทางของเราเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเส้นทาง สถานที่ที่ไป ประวัติการเดินทาง ทั้งหมดนี้จะถูกเก็บเข้าไปอยู่ใน Timeline ของเราทั้งหมด
  • เมื่อเราเปิดการใช้งาน Incognito mode หรือโหมดไม่ระบุตัวตน ระบบก็จะปิดทุกอย่างหมด
  • ส่งผลให้ App จะไม่เก็บข้อมูลการค้นหา การเดินทาง หรือสถานที่ต่างๆ ที่เราได้เดินทางไป
  • รวมไปถึงการแชร์ตำแหน่งที่ไม่สามารถมีใครทราบได้
  • นอกจากนี้สถานที่ที่เราเคยบันทึกไว้ ก็จะไม่ถูกนำมาใช้งานในโหมดไม่ระบุตัวตน
  • วิธีใช้คือ เข้าไปที่ App Google Maps กดที่ >>> Account ของเรา จากนั้นเลือกเมนู >>> Turn on Incognito mode ก็สามารถใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนได้

Google Maps Timeline

  • Google Maps Timeline เป็นตัวเก็บข้อมูล ประวัติการเดินทาง สถานที่ที่ค้นหา และข้อมูลการเดินทางทั้งหมด
  • โดยการดูข้อมูลเหล่านี้ สามารถเปิดดูได้ทั้งแบบรายวัน รายเดือน และรายปีได้
  •  ข้อดีของการบันทึกการเดินทางแบบ Timeline คือ เราจะสามารถระบุตัวเองได้ว่าได้เดินทางไปไหนมาไหนบ้าง เผื่อในกรณีที่เกิดปัญหา หรือการค้นหาตำแหน่งที่อยู่จากอีกที่นึงก็ทำได้เหมือนกัน
  • การใช้งานคือ กดเข้าไปที่ชื่อบัญชีของตัวเอง >>> เลือกดูเมนู Your Timeline ได้เลย

Locations sharing

  • ฟีเจอร์ Locations sharing เป็นตัวบอกถึงสถานที่ที่เราอยู่ในตอนนั้น จะต่างกับฟีเจอร์ Timeline ที่บอกเป็น History อย่างเดียว
  • ฟีเจอร์ Locations sharing จะบอกได้ว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน และสามารถแชร์ไปยังเบอร์ใน Contact หรือว่าจะส่งผ่าน Chats ทาง Social Media ต่างๆ ก็ได้
  • ข้อดีของฟีเจอร์นี้ก็คือการระบุตัวตนได้แบบ Realtime และยังมีข้อมูลของแบตเตอรี่ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ เหมาะสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือว่าจะใช้เพื่อติดตามคนในครอบครัวก็สามารถทำได้
  • ตั้งเวลาการแชร์ได้
  •  เปิดการใช้งานโดยการกดเข้าไปที่ชื่อบัญชี เลือกเมนู >>> Locations sharing และแชร์ไปยังที่ต้องการ

Offline Maps

  • Offline Maps คือฟีเจอร์ แผนที่ที่สามารถเปิดดูแบบ Offline ได้
  •  แต่ก่อนจะใช้งาน ต้องวางแผนการเดินทางก่อน เพราะว่าการจะใช้ฟีเจอร์ Offline Maps นี้จำเป็นต้องโหลดแผนที่เข้ามาอยู่ใน Data ของ App ก่อน หลังจากนั้นจึงจะเปิดดูได้ปกติ
  •  ถ้ายิ่งเก็บแผนที่เยอะมากเท่าไหร่ ก็จะกินพื้นที่ของความจุในเครื่องไปด้วย ทางที่ดีคือเลือกเฉพาะพื้นที่ที่จำเป็นต้องเดินทางไป
  • ถ้าเปิดโหมด Offline นี้ ข้อมูลของปริมาณรถแบบ Real Time จะไม่สามารถทำได้อย่างแม่นยำเท่าไหร่ แต่ก็ยังสามารถบอกได้ว่าตรงไหนมีรถติด
  • วิธีเปิดใช้งานเข้าไปยังชื่อบัญชี และเลือกเมนู >>> Offline Maps

ดูเส้นทางการเดินทาง

  • ฟีเจอร์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราได้ดูแผนที่ จากจุดที่เราอยู่ ไปยังจุดหมายปลายทางที่เราได้กำหนดไว้
  • ซึ่งในหน้าการดูเส้นทาง จะเป็นหน้าแรกของการเข้ามายัง App เลย
  • การดูเส้นทางที่จะเดินทางไป เพียงแค่กด Search จากแถบค้นหาทางด้านบนของหน้าจอ และพิมพ์ชื่อสถานที่ที่ต้องการจะเดินทาง
  • การใช้เสียงในการค้นหา ก็สามารถทำได้เหมือนกัน
  • เมื่อเลือกสถานที่ที่ต้องการจะไปได้แล้ว ก็กดเลือก Directions เพื่อเลือกเส้นทางที่จะไปยังจุดหมาย
  • สามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากจะดินทางไปยังเส้นทางไหน แต่ส่วนใหญ่แล้วทาง Google Maps จะเลือกเส้นทางที่ไวที่สุดให้เราเองโดยอัตโนมัติ
  • กดเลือกเส้นทางที่อยากไป แล้วกด Start เพื่อเริ่มการเดินทาง
  • เราสามารถเลือกได้ว่าจะเดินทางด้วยวิธีใด เช่น รถยนต์ จักรยานยนต์ รถไฟ เดิน หรือเรียกรถรับส่ง

Map Type และ Map Details

  • ฟีเจอร์ Map Type บน Google Maps คือการเลือกหน้าบนแผนที่นั้น เป็นรูปแบบไหน โดย Google Maps จะมีให้เลือกอยู่ 3
  • แบบคือแบบทั่วไป ที่มีเพียงแค่เส้นบอกทางเหมือนแผนที่ทั่วไป
  • แบบที่สองคือแบบ Satellite หรือแบบแผนที่จริงตามภาพที่ส่งมาจากดาวเทียม
  • แบบสุดท้ายก็คือแบบ Terrain หรือแบบการแสดงแผนที่แบบ 3 มิติมีความนูนต่ำของแต่ละพื้นที่
  • ส่วนอีกฟีเจอร์ก็คือ Map Details มีให้เลือก 6 แบบ คือ
  • แบบที่บอกเส้นทางการขนส่ง
  •  บอกเส้นทางที่มีรถติด
  •  บอกเส้นทางการขี่จักรยาน
  •  บอกตำแหน่งที่เสี่ยงต่อ Covid-19
  • แบบ 3D
  • แบบ Street View
  • ขึ้นอยู่กับว่า เราจะใช้งานแบบไหน แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าจะเดินทางโดยรถยนต์ แนะนำว่าให้ใช้แบบ Traffic เพื่อดูการจราจรบนท้องถนน

Add stop เพิ่มจุดพัก

  • การใช้ Add stop ใน Google Maps คือการเพิ่มเส้นทางเข้าไป ก่อนที่จะไปยังจุดหมายที่แท้จริงที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น เราจะเดินทางจากพิษณุโลก ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ แต่ต้องการหาที่แวะเป็นที่พัก หรือร้านอาหารก่อนที่จะไปถึงยังเชียงใหม่ เราก็สามารถกด Add stop เพื่อให้แผนที่บอกจุดที่เราอยากพักก่อนได้
  • โดยการเพิ่มจุดพักนี้เราสามารถกดเพิ่มได้มากสุด 9 แห่ง และสามารถเปลี่ยนตำแหน่งการหยุดพักของแต่ละที่ได้ คือจะไปที่ไหนก่อนและจะไปที่ไหนท้ายสุด
  • การใช้ฟีเจอร์ Add stop จะทำให้เราคำนวณเวลาได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้ดูเส้นทางว่าตรงไหนใกล้ และตรงไหนควรจะหยุดพักก่อนที่จะไปถึงยังจุดหมายปลายทางได้
  • วิธีการใช้คือเพิ่มจุดพักไปทีละจุด ถ้าไม่อยากพักก็กดลบจุดพักออกไป จากนั้นจึงกด Finished เพื่อเริ่มเดินทาง

Route options เลือกขึ้นทางด่วน หรือปิดการขึ้นทางด่วน

  • ฟีเจอร์ Route options ของ Google Maps คือการเลือกเส้นทางการเดินรถ ที่มีให้เลือกอยู่ 3 แบบได้แก่
  • เลือกเปิด – ปิดการวิ่งบน Motorways
  • เลือกเปิด – ปิดการขึ้น toll roads
  • การขึ้นเรือข้ามฟาก
  • ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ จำเป็นในการดูเส้นทาง ไม่ว่าจะขับรถในเมือง หรือว่าต้องการเดินทางไปยังต่างจังหวัด ที่มีเส้นทางพิเศษ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในตัวเมืองกรุงเทพ
  • ฟีเจอร์นี้จึงเป็นตัวช่วยให้เราสามารถคำนวนเส้นทางการขับรถได้ดีมากๆ
  • นอกจากนี้ถ้าเดินทางด้วยวิธีอื่น นอกจากขับรถแล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเดินทางในแต่ละครั้งด้วย