Copy Trade คืออะไร
Copy Trade forex เป็นรูปแบบการซื้อขายที่เทรดเดอร์มือใหม่คัดลอกการเทรดของเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ บัญชีของผู้เริ่มต้นจะดำเนินการซื้อขายโดยอัตโนมัติโดยผู้ซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจทำให้ผู้เริ่มต้นได้รับผลกำไรจากประสบการณ์และกลยุทธ์ของผู้ซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ การปล่อยสัญญาณจะมี คนสองกลุ่มก็คือ Master หรือ Leader และ Follower คน ก็อปปี้สัญญาณ
ค่าใช้จ่ายในการทำ Copy Trade
คนที่ปล่อยสัญญาณให้คนอื่นก็อปปี้ ไม่ต้องทำอะไร แค่สมัครเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ โดยเลือกบัญชีที่สามารถ Copy Trade ได้ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ คนที่เป็น Master จะได้ผลตอบแทนเมื่อทำกำไรได้ โดยจะคิดเป็นสัดส่วนของเงินลงทุน ตัวอย่างอาจจะมีตั้งแต่ 10 % – 30 % ของกำไรที่ Master ทำได้
สำหรับคนที่ตามสัญญาณ Copy Trade คนอื่น ก็จะไม่เสียเงินอะไรเช่นกัน เสียแค่กำไรที่ต้องแบ่งให้ Master ตามที่ Master เป็นคนกำหนด โดยที่ master แต่ละคน ก็จะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน
Master คนปล่อยสัญญาณ Signal
เทรดเดอร์ที่ชำนาญการเทรด หมายถึงนักเทรดที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จซึ่งอนุญาตให้นักเทรดรายอื่นคัดลอกการเทรดของตนผ่านแพลตฟอร์มการคัดลอกการเทรด การซื้อขายของ คนปล่อยสัญญาณจะดำเนินการโดยอัตโนมัติในบัญชีของผู้ติดตาม ทำให้ผู้ติดตามมีโอกาสทำกำไรจากความเชี่ยวชาญของผู้เชี่ยวชาญในตลาดฟอเร็กซ์โดยไม่ต้องไปเทรดเอง
คนปล่อยสัญญาณเรียกว่า “Master” คนให้สัญญาณเทรด หรืออาจจะเรียกว่า Leader ก็ได้
คนให้ Copy Trade ที่น่าสนใจ
Forexduck ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับคนที่น่าสนใจแต่เราให้ข้อมูลเพื่อเป็นการศึกษาเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ เพราะว่า เทรดเดอร์ต้องยอมรับความเสี่ยงเอง และคนที่ให้บริการสัญญาณก็ไม่ได้มีความมั่นใจว่าจะไม่เจ๊ง ถ้าหากเขามั่นใจ เขาก็อาจจะไม่ปล่อยสัญญาณให้เช่าแบบนี้เช่นกัน เขาควรลงทุนเงินเยอะ ๆ ไปแล้ว
คน Copy สัญญาณ
คนก็อปปี้สัญญาณเทรด จะสามารถก็อปปี้ได้จาก คนปล่อยสัญญาณเทรด โดยการเทรดแบบนี้ คนที่ทำการก็อปปี้ จะต้องสมัครผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการด้านการก็อปปี้เทรดเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ทุกโบรกที่ให้บริการด้านการ Copy Trade
และที่สำคัญ สำหรับคนที่ Copy Trade จะต้องรู้ด้วยว่า เทรดเดอร์คนไหนที่ให้บริการดี และมีสัญญาณที่ดี
การ Copy Trade แม้ว่าจะไม่ได้เทรดเอง แต่ก็ต้องอาศัยสายตาที่แหลมคนในการเลือกคนที่จะบริหารพอร์ตให้ การ Copy Trade เหมือนกับการเลือกลงทุนเลือกผู้บริหาร เหมือนกับเราเป็น 1 ใน Shark Tank รายการที่เอาเงินของเราไปลงทุน และคาดหวังว่าจะมีผลตอบแทนกลับมา
Copy Trade เจ้าไหนดี
ตอนนี้โบรกเกอร์เร่งมาทำ Copy Trade กันจำนวนไม่มากค่ะ โดยโบรกเกอร์ที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
-
GMI Social Trading
สำหรับ GMI ให้เป็นอันดับ 1 ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- ค่าธรรมเนียมถูกแค่ ค่าคอม 4 USD ต่อ Lot เรียกว่า ถูกกว่า Exness กว่าครึ่ง
- ระบบมีคนให้สัญญาณพอสมควร คือ เรียกว่า “หลักพัน” ขึ้นไป
- คนเทรดเก่งก็มี และพอน่าเชื่อถือได้
- วิธีการสมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และเรทฝากถอนดี ถอนเร็ว ฝากเร็ว
- เปิดบัญชีขั้นต่ำแค่ 100 USD Leverage 1:500
โดยรวมแล้ว GMI Social Trading น่าสนใจที่สุด
-
HF Copy
HFM โบรกเกอร์เจ้าแรก ๆ ในประเทศไทยที่ทำตลาด Copy Trade มีผู้นำเทรดหรือมาสเตอร์หลากหลายสัญชาติให้เลือกติดตาม ใช้งานง่าย โดยมีจุดเด่นหลัก ดังต่อไปนี้
- ระบบ Copy Trade ที่โบรกเกอร์พัฒนาขึ้นเอง จึงได้ราคาที่แม่นยำตรงกัน
- สามารถควบคุมการขาดทุนได้ด้วยตัวเองโดยการตั้งเปอร์เซ็นต์ป้องกันความเสี่ยง
- การเปิดบัญชี Followers เริ่มต้นเพียง $25 เท่านั้น คิดเป็นเงินบาทประมาณ 900 บาท
- อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างฝากและถอนเงินห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
*ระบบ Cent Copy Trade กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
-
Exness Social Trading
Exness ตัวเลือกไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เราก็ยังให้เป็นอันดับ 3 ด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้
- คนใช้งานค่อนข้างเยอะ แต่รูปแบบระบบทำให้ใช้งานยาก
- ข้อดีคือ ถอนไวที่สุดในไทย
- แต่อาจจะมีปัญหาเรื่อง Server ยังไม่เสถียร
- ขั้นต่ำการเปิดบัญชีสูง Leverage ต่ำ (1:20)
- วิธีสมัครง่าย
-
CXM Direct Copy Trade
ต้องบอกว่า CXM Direct เป็นโบรกเกอร์ที่กำลังเติบโต แต่ก็ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะ Copy Trade ทำได้ไม่แพ้โบรกที่มาก่อน ซึ่งเอาจริง ๆ เราถือว่าดีกว่า Exness ด้วยซ้ำ หน้า platform ใช้ง่ายกว่ามาก และมีนักลงทุนหลากสัญญาติ
- ข้อดีหลักเลยคือ หน้าตาโปรแกรมใช้ง่าย และ ตอบโจทย์
- นักลงทุนเยอะพอสมควร แต่ยังไม่มาก เริ่มมีมาเรื่อย ๆ แน่นอน
- ข้อเสียน่าจะเป็นแค่ยังใหม่ ฝากถอนยังไม่ได้ไวมาก แต่ก็ทำได้ดี
- สำหรับมือใหม่ น่าสนใจดีค่ะ
-
VT Market Copy Trade
นี่ก็เป็นอีกโบรกน้องใหม่ที่มาแรงในไทย กำลังทำตลาดบ้านเราเช่นกัน
- ที่ให้อันดับ 4 เพราะว่า แค่ยังใหม่
- ส่วนตัวสูสีกับ CXM Direct แต่ว่าการใช้งานค่อนข้างยากกว่า
- Commission เท่ากันกับอันดับ 2 และ 3
- ฝากถอนก็โอเค แต่คนใช้งานยังน้อย ส่วนใหญ่คนไทยใช้เยอะและเวียดนาม
-
Forex4you Copy Trade
อันนี้เป็นโปรแกรม Copy Trade ที่มีมานาน ทำให้มีคนเป็น Master เยอะพอสมควร แต่ก็แม้จะอยู่มานานถ้าไม่ได้รับความนิยมก็ยากอยู่คะ่ ชื่อของโปแกรมเรียกว่า Share4you ค่ะ
- อันนี้ค่าธรรมเนียมก็เท่ากันหมด แต่ที่แพงคือ ค่า Swap Spread ของโบรกเกอร์
- ฝากถอนก็โอเคพอ ๆ กันกับเจ้าอื่น
- มีความหลากหลายด้านนักลงทุน มีให้เลือกเยอะ (ก็มีมานานค่ะ)
- โดยรวมก็พอได้แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในคนไทยค่ะ
การเลือก Copy Trade วิธีดู Master
สำหรับวิธีการดู master หลายคนอาจจะเลือกใช้สัญญาณแตกต่างกันไป แต่ว่าสิ่งที่ต้องดูในการคัดเลือก master ให้ดูต่อไปนี้
- อัตราผลตอบแทน
- ความเสี่ยงที่ใช้ หรือ Drawdown (DD)
- ระยะเวลาที่เทรดมาแล้ว
- จำนวนเงินทุนของตัวเอง
- วิธีการที่เทรด
1.อัตราผลตอบแทน
อัตราผลตอบแทนเป็นเรื่องอันดับแรกในการเลือกอยู่แล้ว หลายคนเลือกอัตราผลตอบแทนสูง ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง การมีอัตราผลตอบแทนสูง ก็เป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องดูด้วยว่า ผลการเทรดของเขามีมานานหรือยัง ถ้ายังไม่นาน นั่นอาจจะเป็นการหวือหวาช่วงแรก แต่ตามมาด้วยล้างพอร์ตก็ได้ แต่ก็กรองด้วยผลตอบแทนอันดับแแรก
2.ความเสี่ยงที่ใช้ หรือ DD
เมื่อดูอัตราผลตอบแทนแล้วก็ต้องดู ความเสี่ยง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะสูง แต่ถ้าความเสี่ยงสูงด้วยก็ไม่น่าสนใจ การดูอัตราผลตอบแทน ต่อความเสี่ยงจึงสำคัญ วิธีการก็คือ เอาตัวเลขมาเปรียบเทียบ ตัวอย่างเช่น
- นาย A ผลตอบแทน 100 % ความเสี่ยง 50 %
- นาย B ผลตอบแทน 30 % ความเสี่ยง 3 %
- นาย C ผลตอบแทน 20 % ความเสี่ยง 1 %
จะเห็นว่า นาย A ใครก็ให้ความสำคัญ แต่วิธีการเปรียบเทียบ คือ เปรียบเทียบเป็นเท่าตัว ดังตัวอย่าง
- นาย A ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงเท่ากับ 2:1
- นาย B ผลตอบแทนต่อความเสี่ยง 10:1
- นาย C ผลตอบแทน 20:1
นั่นคือ ถ้าเสี่ยงด้วยจำนวนเงินเท่ากันแล้ว นาย C ให้ผลตอบแทนเยอะที่สุด การเปรียบเทียบก็เลยต้องดู 2 เรื่องนี้รวมเข้าด้วยกัน
3.ระยะเวลาที่เปิดเทรดมาแล้ว
พอเราดูผลตอบแทนต่อความเสี่ยงแล้ว เราจะบอกว่า ดีก็ยังไม่ใช่ หลายคนเทรดมาแค่ อาทิตย์เดียว ระยะยาว ๆ ยังไม่ผ่านด้วยซ้ำ มันต้องอย่างน้อย 5 – 6 เดือนเพื่อพิสูจน์ผลงาน ความสม่ำเสมอของระบบ ไม่ใช่ อาทิตย์นี้กำไร อาทิตย์หน้าพอร์ตแตก ล้างพอร์ต ก็ไม่น่าสนใจ ฉะนั้น การที่พอร์ตผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ แสดงว่า ระบบได้ผ่านการทดสอบโดยตลาดมาพอสมควร
ระยะเวลาที่เจ้าตัวหรือ master เปิดเทรดจึงสำคัญ
4.จำนวนเงินทุนของตัวเอง
นอกจากดูระยะเวลาแล้ว ก็ต้องดูว่า เค้าลงทุนเท่าไหร่ จำนวนเงินลงทุน ถ้าลงน้อยก็แสดงได้ 2 อย่างคือ เขาหวังมาหาเงินจาก Copy Trade ซึ่ง ไม่โอเคเลยเพราะเขาอาจจะปล่อยให้พอร์ตแตกได้ เพราะเงินมันน้อยเกินไปจน เขาเสียได้ เขาจะได้ผลตอบแทนจากกำไรมากกว่าส่วนแบ่งมากกว่า
บางคนใช้เงินน้อยกำไรหนัก ๆ เป็นตัวล่อนักลงทุนเข้ามา พอเข้ามาก็ทำกำไรหนัก ดูดคนจำนวนมาก แต่จำนวนเงินน้อยก็จะทำให้เขาปล่อยแตก ได้ ถ้าเขามีเงินใส่เงินตัวเองลงไปเยอะ มันก็เหมือนกับว่า เขาก็เสียดายเงินจำนวนนี้
การคิดแบบนี้มันก็ทำให้พอร์ตปลอดภัยพอสมควร ตัวนี้บางครั้งต้องดูดีดี ว่า เป็นพอร์ตบัญชี Cent หรือ ECN เพราะว่า บางครั้ง อาจจะเป็นพอร์ต Cent 10,000 Cent งี้ มันก็แค่ 100 USD เอง
5.วิธีการที่เลือกใช้
บ่อยครั้งที่เราเห็นว่าพอร์ตกำไร แต่บางครั้ง คือ กำไร 100 % คือ การเทรดนั้นไม่ได้ตั้ง Stop loss ลองไล่ดูว่า มันมีออเดอร์ Stop loss หรือเปล่า บางคนใช้การไม่ตั้ง Stop loss ในการจูงใจลูกค้าแล้วปล่อยล้างพอร์ต ซึ่งเรื่องนี้อันตรายมาก ลองไล่ดูการเปิดออเดอร์ของเขาว่ามีออร์เดอร์ขาดทุนหรือไม่ ตัดขาดทุนแบบ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะพอช่วยได้ประมาณหนึ่ง
ทั้ง 5 ข้อนี้ก็จะทำให้เราสามารถ มั่นใจกับการเลือก Copy Trade ก็จะได้เลือกนักลงทุนที่ใช้สำหรับ Copy Trade สิ่งที่เราต้องรู้หน่อยก็คือ เราสามารถ Copy ได้หลายคน ซึ่งเรื่องนี้ก็สำคัญ มันก็จะเป็นการกระจายพอร์ตลงทุน
สิ่งสำคัญสำหรับการทำ Copy Trade
การ Copy Trade เหมือนกับเราเลือกลงทุนในนักลงทุน มันเหมือนกับเราเป็นนักเล่นหุ้นที่อยากจะเอาเงินของเราไปลงทุนกับบริษัทแห่งไหน ซึ่งนั่นสำคัญมากเพราะว่า ถ้าเราลงทุนผิดคนโอกาสขาดทุนก็สูง แต่ถ้าเราลงทุนถูกที่ เราจะทำให้เงินเติบโตโดยไม่ต้องทำงานหนัก
ก็ถ้าหากว่า มันเหมือนกับการลงทุนในหุ้น หรือการลงทุนในบริษัท เราจะมีหลักการกระจายความเสี่ยงอย่างไร มาดูกันทีละข้อ ซึ่งเป็นการจัดพอร์ต Copy Trade
ในการเลือกพอร์ต ก็ไม่ควรเลือกก็อปปี้เพียงคนเดียว แต่ถ้า Copy เยอะเกินไปก็จะทำให้พอร์ตไม่เติบโต ฉะนั้น ก็ไม่ควรกระจายความเสี่ยงเกินไป ประมาณ สัก 3 – 4 คนก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วค่ะ
-
การกระจายเงินทุน อย่าใส่ไข่ของคุณไว้ในตะกร้าใบเดียว
ในการเทรด Copy Trade เราสามารถเลือกคนให้สัญญาณได้มากกว่า 1 คน ซึ่งการเลือกเพียง 1 คน จะทำให้พอร์ตของเราจะเหมือนคนนั้นทุกประการ แต่มันก็เหมือนกับ การที่คุณใส่ไข่ของคุณไว้ตระกร้าเดียว ถ้าหากไข่นั้นหาย หรือตะกร้านั้นตก ไข่ของคุณก็จะเสียหายทั้งหมด
แต่ถ้าคุณกระจายความเสี่ยง ก็เหมือนกับ คุณใส่ไข่ไว้ในตะกร้าหลายใบ แม้ว่าใบหนึ่งจะเสียหาย แต่อีกหลายใบก็ยังอยู่
ดังนั้น ไม่ควรที่จะลงทุนในคน ๆ เดียว คนที่ให้สัญญาณคนเดียว
-
การไม่กระจายมากเกินไป อย่าใส่ไข่ของคุณไว้ในตระกร้าหลายใบเกินไป
ต่อมา แม้ว่าเราจะไม่เลือกที่จะใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว แต่สิ่งที่สำคัญ ก็คือ เราก็ไม่ควรที่จะใส่ไข่ไว้ในตะกร้าหลายใบเกินไป การใส่ไข่ไว้ในตะกร้าหลายใบเกินไป ก็จะทำให้ผลตอบแทนของเราต่ำเกินไป เพราะว่า การกระจายไว้สัก 10 พอร์ต พอนักลงทุน คนแรกกำไร แต่นักลงทุนอื่นไม่ได้กำไร ก็จะทำให้กำไรที่ได้จากคนแรก มันน้อยเกินไปที่จะดึงพอร์ตรวมได้
วิธีการนี้ ก็ได้รับการแนะนำจาก Markowitz Model ซึ่งแนะนำให้มีการกระจายไว้ที่ 2 – 3 ตัวเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขว่า
- แต่ละพอร์ตต้องไม่ใช้วิธีการเทรดเดียวกัน
- แต่ละพอร์ตที่เรา Copy ต้องไม่ลงทุนในผลิตภัณฑ์เดียวกัน
- แต่ละพอร์ตต้องไม่เทรดด้วยระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน
หมายความว่า อาจจะมีพอร์ตหนึ่งที่เราลงทุน และเป็นสไตล์เก็งกำไร ความเสี่ยงสูง ขณะที่ อีกสไตล์หนึ่งเป็นสไตล์ปลอดภัย และสไตล์หนึ่งเป็นสไตล์กลาง ๆ ซึ่งส่วนผสมของ 3 พอร์ตจะทำให้การเติบโตของพอร์ตนั้นพอดี
-
การวิเคราะห์ความเสี่ยงและ Re-balance จำนวนเงินในพอร์ตตามความเสี่ยง
หลังจากที่เราะทำการได้วิเคราะห์ความเสี่ยงแล้ว สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องทำ คือ การวิเคราะห์ควาามเสี่ยงเสมอ และต้องทำ Rebalance
การทำ Re-balance คือ การที่เราเห็นเงินกระจุกอยู่ใน คนที่เป็น master คนใดคนหนึ่งมากเกินไป เพื่อให้ความเสี่ยงมันคงที่ เมื่อนักลงทุนได้กำไร และสัดส่วนเยอะเกินไป เราต้องถอนเงินออก หรือว่า เราต้องกระจายไปในสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน แล้วแต่สไตล์นักลงทุน
ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราอยากจะให้ปลอดภัยหน่อย เราก็กระจายเงินลงทุนไปนักลงทุนที่ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้าหากเราอยากให้พอร์ตเราเติบโตหวือหวา เรากระจายให้พอร์ตที่ผลตอบแทนเยอะหวือหวา
4.ถอนออกสม่ำเสมอเมื่อมีกำไร
ข้อสุดท้าย เมื่อมีกำไร และสร้างพอร์ตหรือขนาดพอร์ตจนถึงเป้าหมาย เราก็ควรจะถอนออกเป็นระยะ ๆ เพื่อที่จะป้องกันการขาดทุน เราไม่รู้หรอกว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เราต้องทำ คือ การสร้างพอร์ต สมมุติว่า เราตั้งใจว่า พอร์ตเราจะเท่ากับ 10,000 USD เราก็ปั้นพอร์ตไปเรื่อย ๆ ฝากเข้าเรื่อย ๆ เสร็จแล้วพอครบ 10,000 เราก็เลิกฝาก และถอนออกอย่างเดียวอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
ระบบ Copy Trade อื่น ๆ
นอกจากระบบ Copy Trade ผ่านระบบของ โบรกเกอร์แล้ว ยังมีระบบอื่น ๆ ซึ่งให้บริการมานานแล้วค่ะ และที่สำคัญระบบค่อนข้างเสถียร์ แต่อาจจะเผชิญกับค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า การเปิดที่โบรกเกอร์ เพราะว่า การให้บริการเหล่านี้ ไม่ได้เก็บค่าธรรมเนีย Spread Commission ทำให้เราต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายทอดได้ค่ะ
Copy Trade ของ Etoro
Copy Trade ของ Etoro ได้รับความนิยมในต่างประเทศช่วงแรก อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ค่อยมีคนไทยมาใช้เท่าไหร่ เพราะว่า Etoro เป็นตัวกลาง ที่ส่งคำสั่งผ่านโบรกเกอร์อีกที การเทรดที่ Etoro ใช้ leverage ต่ำค่อนข้างมาก ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย
Copy Trade ของ Myfxbook Autotrade
Copy Trade ของ Myfxbook มีความน่าสนใจคือ มีการคัดกรองระบบให้ คือ ไม่มีการเบิ้ล lot พวก Grid martinagle เพราะเค้าจะตรวจออเดอร์เราละเอียด ฉะนั้น ระบบเทรดที่นี่ใช้ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ที่ Autorade ของ myfxbook ไม่ได้เป็นตัวกลาง ซึ่งหมายความว่า คนที่ Copy Trade ก็จะต้อง เสียค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ซึ่งทำให้อัตราส่วนกำไรเราก็จะน้อยลงไปหน่อย และต้องเผชิญกับความหน่วงของ Server อีกด้วย
การเทรดของ Copy myfxbook ถ้าหากเป็น Scalping จะทำให้การส่งคำสั่งช้า
Copy Trade ของ MQL5
ซึ่ง Copy Trade ของ MQL5 เป็นระบบที่รวมระบบเทรดไว้จำนวนมาก แต่ที่นี่ก็เสียอย่างคือ ไม่มีคนกรองให้ว่า ระบบนี้เป็นระบบ martingale หรือเปล่า เป็นหน้าที่เทรดเดอร์ล้วน ๆ แต่ว่า ระบบไหนดีหรือไม่ แต่ว่า การส่งคำนสั่งจาก Signal ของ mql5 หรือ mql4 ทำได้รวดเร็ว แต่เทรดเดอร์ต้องใช้ความรู้หน่อยค่ะ
ข้อดีคือ มีคนปล่อยสัญญาณเยอะ มีทั่วโลก มีให้เลือกมาก คนไทยก็มี สัญญาณเร็วมีเปรียบเทียบสัญญาณให้ด้วย
Zulu Trade
Zulutrade เป็นคนให้สัญญาณ ไม่ได้เป็นโบรกเกอร์โดยตรง ทำให้การส่งสัญญาณอาจจะช้า และมีต้นทุนสูง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นโบรกเกอร์ที่ทำ Copy Trade เจ้าแรกเลย ก่อนทุกโบรกที่เคยมีมาและยังมีจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็ฯต่างชาติ
เป็นอย่างไรบ้างค๊ะ นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับ Copy Trade ซึ่งเรารวบรวมมาให้คุณ ถือว่า คุณจะไม่สามารถอ่านจากที่อื่นได้ ที่จะให้ละเอียดแบบนี้
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง