การขุดบิทคอยน์คืออะไร
การขุดบิทคอยน์ (Bitcoin mining) เป็นบริการบันทึกข้อมูลผ่านการใช้พลังในการคำนวณ ผล (processing power) ของคอมพิวเตอร์ กระบวนการที่ใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการทำงานเพื่อ ค้นหาบล็อก (block) ใหม่ของระบบบล็อกเชนของบิทคอยน์ (Bitcoin blockchain) เพื่อทำการยืนยันและเพิ่มรายการธุรกรรมใหม่ลงในบล็อก
กระบวนการนำเหรียญ Bitcoin ใหม่เข้าสู่ระบบบล็อกเชน มีความซับซ้อนและต้องใช้พลังงานมากใช้ประสิทธิภาพการประมวลผลและพลังงานไฟฟ้ามาก จะมีผลกระทบต่อการใช้งาน และความเสี่ยงในการลงทุนการขุดบิทคอยน์ เพื่อให้จำนวนอุปทานเหรียญที่หมุนเวียนในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งครอบคลุมการยืนยันธุรกรรมของเครือข่าย ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการรักษาและพัฒนาบัญชีธุรกรรมบนบล็อกเชนให้คงอยู่
เครือข่ายของบิทคอยน์คือ Blockchain ที่เป็นการเก็บข้อมูลแบบ Decentralized โดยทุกเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย เรียกว่า Node ใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยแก้สมการคณิตศาสตร์ของแต่ละบล็อกบนเครือข่าย ต้องใช้เงินทุนพอสมควร เพราะวิธีนี้ถือเป็นการลงทุนที่ได้เหรียญ BTC หรือ บิทคอยน์ตอบแทนกลับมาในรูปของ รีวอร์ด
ผู้ขุด
ผู้ขุด (miner) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เข้ามาแข่งกันเดาตัวเลข เพื่อเติมสมการและไขรหัสให้ถูกต้องก่อนเครื่องอื่น ช่วยทำให้บล็อกเชนมีความสม่ำเสมอ สมบูรณ์ และเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นการใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์เพื่อเดาตัวเลขออกมานับล้านชุดภายในเวลาเสี้ยววินาที จำนวนของตัวเลขที่คอมพิวเตอร์สามารถเดาออกมาได้จะขึ้นอยู่กับพลังประมวลผล หรือ Hashrate ของแต่ละเครื่อง
โดยการตรวจสอบซ้ำ ๆ และเก็บบันทึกการซื้อขายใหม่ที่ถูกเผยแพร่ไปยังกลุ่มการซื้อขายใหม่ที่เรียกว่า บล็อก บล็อกประกอบไปด้วยการเข้ารหัสแบบแฮช (cryptographic hash) หรือการเข้ารหัสทางเดียว ของบล็อกก่อนหน้า โดยการใช้ขั้นตอนวิธีแฮช ซึ่งเชื่อมต่อกับบล็อกก่อนหน้า เป็นจุดกำเนิดของชื่อบล็อกเชน
การพิสูจน์งาน
บล็อกใหม่จะต้องมี การพิสูจน์งาน (Proof-of-work) ถึงจะได้รับการยอมรับจากระบบ ผู้ขุดหาตัวเลขที่เรียกว่า nonce ที่ให้ผลลัพธ์จำนวนน้อยกว่าเป้าหมายความยากของระบบเมื่อถูกเข้ารหัสแบบแฮชด้วย nounce โดยเริ่มทดสอบจากค่า 0, 1, 2, … ตามลำดับ
- บล็อกทุก ๆ 2,016 บล็อก ใช้เวลาประมาณ 14 วัน หากใช้เวลา 10 นาทีต่อบล็อก เป้าหมายความยากถูกปรับตามสมรรถนะใหม่ของระบบ
- โดยมีเป้าหมายที่จะคงเวลาเฉลี่ยระหว่างบล็อกใหม่ไว้ที่ 10 นาที วิธีนี้ทำให้ระบบปรับตัวเข้ากับพลังการขุดของเครือข่ายอย่างอัตโนมัติ
จำนวนเฉลี่ยของ nounce ที่นักขุดต้องทดลองเพื่อสร้างบล็อกใหม่เพิ่มขึ้นจาก 16.4 × 1018 เป็น 200.5 × 1018 ระบบการพิสูจน์งานคู่กับการต่อกันของบล็อกทำให้การเปลี่ยนแปลงของบล็อกเชนเป็นไปได้ยากมาก
จำนวนบิทคอยน์ทั้งหมดในระบบ
ผู้ขุดที่หาบล็อกใหม่สำเร็จได้รับรางวัลเป็นบิตคอยน์ที่ถูกสร้างขึ้นและค่าธรรมเนียมการซื้อขาย จำนวนบิทคอยน์ทั้งหมดในระบบ (Total Bitcoin Supply) จำนวนรวมของบิทคอยน์ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วในระบบ Bitcoin ตั้งแต่ครั้งแรกจะถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ อัตราการสร้างบิตคอยน์จะลดลง จนกว่าจะถึงจำนวนสุดท้ายในปี 2140
บิทคอยน์ที่ถูกสร้างใหม่ต่อบล็อกที่ถูกเพิ่มไปยังบล็อกเชน เพื่อขอรับรางวัล การซื้อขายพิเศษที่เรียกว่า คอยน์เบส กล่าวคือ นากาโมโตะ ผู้สร้างบิตคอยน์ ตั้งนโยบายการเงินบนฐานของความขาดแคลนประดิษฐ์ (artificial scarcity) และทำให้บิทคอยน์ถูกจำกัดอยู่ที่จำนวน 21 ล้านเหรียญตั้งแต่แรก จำนวนทั้งหมดจะถูกเผยทุก ๆ สิบนาทีและอัตราการสร้างจะลดลงครึ่งหนึ่งทุก ๆ สี่ปีจนบิทคอยน์ทั้งหมดอยู่ในระบบ เมื่อจำนวนทั้งหมดของบิทคอยน์จะถูกสร้างขึ้นแล้วและไม่สามารถเพิ่มเติมได้อีก ปัจจุบันบิทคอยน์ทั้งหมดอยู่ประมาณ 18.8 ล้านเหรียญ
ทำไมถึงต้องขุด Bitcoin
เทคโนโลยีบล็อกเชนได้เกิดขึ้นมากมาย Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ถูกออกแบบให้มีความปลอดภัยและเป็นที่ไว้วางใจของผู้ใช้งาน การขุด Bitcoin เป็นกระบวนการในการตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมของบิตคอยน์ในระบบ Blockchain โดย Satoshi Nakamoto บุคคลนิรนามผู้สร้างและคิดค้นวิธีนี้ขึ้นมา เกิดประโยชน์แก่ทั้งตัวสกุลเงินและนักขุด โดยนักขุดจะได้ผลตอบแทนจากการขุดยืนยันสิทธิธุรกรรมและแก้ปัญหา Double-spending ป้องกันโจรกรรมไซเบอร์แฮ็กและแก้ไขข้อมูลบนเครือข่าย เพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ซ้ำ
กระบวนการนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อทำการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการทำธุรกรรม โดยผู้ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่สามารถทำการขุด Bitcoin ได้สามารถรับรางวัล Bitcoin ที่ต้องการและมีส่วนสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Blockchain ในการยืนยันการทำธุรกรรม การขุดเป็นกระบวนการสำคัญในการบริหารจัดการระบบ Blockchain และเป็นที่มาของการทำกำไรในการ ซื้อ-ขาย
ผู้ที่มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถขุดได้รับรางวัลเป็น Bitcoin เป็นที่ตอบรับในการใช้พลังงานและเวลาในการเข้าร่วมกระบวนการขุด รางวัลในการขุด Bitcoin จะลดลงและจะเป็นภาระการใช้พลังงานในการขุดที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลา เดิมที Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งมาพร้อมภัย Cyber Attack หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแฮ็กหรือโจรกรรมข้อมูล นักขุดจึงเปรียบเหมือนผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor) ของ Bitcoin เพื่อสร้างความโปร่งใสในธุรกรรมบนเครือข่ายได้อย่างยั่งยืน
เครื่องขุดบิทคอยน์
เครื่องขุดบิทคอยน์ (Bitcoin mining machine) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการขุดบิทคอยน์ เป็นคอมพิวเตอร์ พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขุดบิทคอยน์เท่านั้น การสร้างเครื่องขุด Bitcoin ใช้อุปกรณ์คล้ายกับการประกอบคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกม
โดยองค์ประกอบหลักมี Application-Specific Integrated Circuits (ASICs) เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับขุดเหรียญโดยเฉพาะ และ Graphics Processing Units (GPUs/Graphic Cards) หรือชิปประมวลผลกราฟิก
ซึ่งเครื่องขุดบิทคอยน์จะต้องมีประสิทธิภาพสูงเพื่อให้สามารถค้นหาคำตอบที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว ต้นทุนในการสร้างเหมือง Bitcoin มีมูลค่าสูง การขุด Bitcoin ต้องทำการขุดตลอด 24 ชั่วโมง
คุณสมบัติของชุดเครื่องขุด Bitcoin
- บอร์ดขุด (Mining board)
- ส่วนที่เชื่อมต่อกับ CPU, RAM และเพลาเตอร์เพื่อใช้ในการคำนวณและค้นหาคำตอบ
- พลังงานไฟฟ้า
- ส่วนที่ใช้ในการเปิดเครื่องขุดบิทคอยน์ และใช้ในการรับประมวลผล
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
- ส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลที่ถูกขุดมา
- ระบบระบายความร้อน
- ส่วนที่ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในเครื่องขุดบิทคอยน์ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
การเลือกเครื่องขุดบิทคอยน์ที่เหมาะสมต้องพิจารณาความสามารถในการคำนวณและความสามารถในการปรับตัวเพื่อเหมาะกับเงื่อนไขในการขุดบิทคอยน์ และต้องพิจารณาพื้นที่การใช้พลังงานเพื่อเลือกเครื่องขุดบิทคอยน์ที่มีความเหมาะสม
อุปกรณ์ในการขุด Bitcoin
- CPU (ASIC) หรือเครื่องขุดบิทคอยน์
- GPU หรือ การ์ดจอขุดบิทคอยน์
- Cloud miningบริการขุดบิทคอยน์จากบริษัทเฉพาะทาง
วิธีขุดบิทคอยน์
วิธีขุดบิทคอยน์ที่ 1 ขุดด้วยตัวเอง
- อุปกรณ์ต้องพร้อมการซื้ออุปกรณ์หรือจัดสเปคคอมพิวเตอร์สำหรับขุด
- สเปคคอมพิวเตอร์ควรมี RAM ที่หน่วยความจำเกิน 4GB ขึ้นไป
- Mainboard รุ่นที่ใส่การ์ดจอได้เยอะ ตั้งแต่ 6 GPU ขึ้นไป การ์ดจอ รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ เช่น AMD รหัส RX470 RX570 RX480 RX480
- Nvidia รหัส GTX1060 GTX1070 GTX1080Ti
- เครื่อง ASIC เพื่อใช้ขุดเหรียญโดยเฉพาะได้
- คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กก็สามารถขุดได้เหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพในการขุดจะสู้เครื่องประสิทธิภาพสูงไม่ได้
- สมัครกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (Wallet)
- ตัวกลางในการเก็บเงินดิจิทัล เมื่อขุดเหรียญออกมา Wallet ก็จะทำหน้าที่เหมือนบัญชีธนาคารที่คอยเก็บเงินเอาไว้ให้
- สำหรับเว็บไซต์สมัคร Wallet ก็คือZenGo และco.th
- ข้อควรระวังก็คือต้องเก็บรักษารหัสผ่านไว้ให้ดี เพราะถ้าหายจะไม่สามารถกู้คืนได้
- ติดตั้งซอฟต์แวร์สำหรับขุด
- โดยโปรแกรมที่ใช้ในการขุดบิทคอยน์ เช่น NiceHash Miner, BFGMiner, EasyMiner, RPC Miner
- ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็มีวิธีการใช้งานและความสามารถที่แตกต่างกันไป
- รันระบบในโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ เพื่อทำการขุดบิทคอยน์
- หากแก้รหัสสำเร็จระบบจะโอนบิตคอยน์เข้า Wallet ที่ลงทะเบียนไว้ บางครั้งจะมีการกำหนดขั้นต่ำไว้
วิธีขุดบิทคอยน์ที่ 2 ขุดแบบ Cloud Mining
- ค้นหาบริษัท Cloud Mining
- ผู้ใช้งานควรเลือกบริษัท Cloud Mining ที่มีความน่าเชื่อถือและมีประวัติการทำงานที่ดี เพื่อป้องกันการโดนหลอกหรือขาดทุนในการลงทุน
- เปิดบัญชีผู้ใช้
- ผู้ใช้งานจะต้องเปิดบัญชีผู้ใช้กับบริษัท Cloud Mining เพื่อใช้บริการของบริษัท
- เลือกแพ็กเกจ
- บริษัท Cloud Mining จะมีแพ็กเกจต่างๆ ให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น แพ็กเกจที่ให้ค่าคอมมิชชั่นต่ำ แพ็กเกจที่ให้ค่าคอมมิชชั่นสูง หรือแพ็กเกจที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
- ชำระเงิน
- ผู้ใช้งานจะต้องชำระเงินตามแพ็กเกจที่เลือก เพื่อให้บริษัท Cloud Mining เริ่มต้นการขุดบิทคอยน์
- รับบิตคอยน์
- การขุดบิทคอยน์จะถูกดำเนินการโดยบริษัท Cloud Mining และผลตอบแทนจะถูกเพิ่มเข้าสู่บัญชีผู้ใช้งานในรูปแบบบิทคอยน์
การขุดบิทคอยน์ด้วยมือถือ
การขุดบิทคอยน์ด้วยมือถือมีความยาก เนื่องจากการขุดบิทคอยน์ต้องใช้ความสามารถในการคำนวณที่มีความซับซ้อนและมีการใช้พลังงานมาก มือถือไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขุดบิทคอยน์ มีแอปพลิเคชันที่เป็นโปรแกรมขุดบิทคอยน์สำหรับมือถือที่สามารถใช้งานได้ แต่มีปัญหาเรื่องการใช้พลังงานและการระบายความร้อนที่มากเกินไป ทำให้แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่แนะนำให้ใช้งานในเครื่องมือถือ
การปรับปรุงและการปรับเปลี่ยนบ่อยครั้งเพื่อเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของการขุดบิทคอยน์ ใช้เครื่องมือที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญที่เพียงพอในการปรับปรุง ซึ่งมือถือไม่สามารถทำได้ การขุดบิทคอยน์ด้วยมือถือไม่เหมาะสมในการขุดบิทคอยน์และอาจทำให้เสียเวลาและเงินไม่ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสม หากต้องการลงทุนในการขุดบิทคอยน์ ควรพิจารณาใช้เครื่องมือขุดบิทคอยน์ที่มีความเหมาะสม
เมืองบิทคอยน์ไทย
ในประเทศไทยเมืองบิทคอยน์ ไม่ใช่สถานที่จริง มีข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ประกาศลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นแพลตฟอร์มในการซื้อขายและการทำธุรกรรม
บริษัทจดทะเบียนที่เข้าขุดเหมืองเงินดิจิทัลไทย
|
ความเสี่ยงจากการขุดบิทคอยน์
- ความผันผวนของราคา
- ตลาดคริปโตเคอเรนซี่และราคาเหรียญบิทคอยน์ขึ้นลงตลอดเวลา โดยความผันผวนนั้นทำให้นักขุดคำนวณผลตอบแทนที่จะได้รับยากมากขึ้น
- คำนวณผลตอบแทนที่ได้รับ
- กำไรที่จะได้รับจากการขุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งอุปกรณ์ที่นำมาใช้งาน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ความผันผวนของตลาด การเปลี่ยนแปลงมูลค่ารีวอร์ดที่จะได้รับ ตลอดจนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า
- ไม่มีหลักประกันแน่ชัดว่านักขุดจะได้รับผลตอบแทนคุ้มทุนไปตลอด
- ข้อกฎหมายในการขุด Bitcoin
- ข้อกฎหมายควบคุมดูแลคริปโตเคอเรนซียังอยู่ระหว่างดำเนินการในหลายประเทศ
- ครอบคลุมทั้งในเรื่องภาษีคริปโตเคอเรนซี่ที่ยังไม่ระบุว่าการขุดเหรียญหรือเป็นต้นทุนในการลงทุนคริปโตฯ หรือไม่สำหรับบางประเทศ หรือบางประเทศก็ห้ามการขุดเหมืองบิทคอยน์อย่างเด็ดขาด
- ปัญหาสิ่งแวดล้อม
- กรณีขุดบิทคอยน์ทำโลกร้อนเพราะกระบวนการดังกล่าวต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงพอสมควร
- การขุดบิทคอยน์มีสัดส่วนในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาอย่างน้อย 95% อ้างอิงจากรายงานของDigiconomist
การขุดบิทคอยน์ เป็นทางเลือกหนึ่งในการได้เป็นเจ้าของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ เป้าหมายหลักของกระบวนการคือ ต้องการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งานทุกคนบนเครือข่ายเข้าถึงและตรวจสอบธุรกรรม เพื่อรักษาระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ สิ่งที่ต้องคำนึงการขุดบิทคอยน์ นอกเหนือจากการลงทุน คือ ด้านกฎหมาย เทคโนโลยี ตลอดจนสิ่งแวดล้อม