เทรดกราฟเปล่าคืออะไร เทคนิคเทรดกราฟเปล่า forex เป็นอย่างไร

IUX Markets Bonus

Contents

เทรดกราฟเปล่าคืออะไร

1 เทรดกราฟเปล่าคืออะไร

การเทรดกราฟเปล่า Price Action ในตลาด Forex คือ การวิเคราะห์และการตัดสินใจทำการซื้อขายสกุลเงินโดยอาศัยเพียงแค่การดูและวิเคราะห์ราคาเปล่าๆ บนกราฟ โดยไม่ใช้ Indicators ตัวชี้วัดเทคนิคใดๆ เป็นส่วนประกอบ ผู้ที่ใช้วิธีนี้จะเน้นมองการเปลี่ยนแปลงในราคา รูปแบบของกราฟราคา (Price Patterns) หรือการวิเคราะห์แคนเดิล (Candlestick Analysis) โดยตรง เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคา และตรวจสอบจุดรับ-จุดขาย (Support-Resistance levels)

ซึ่งบางครั้งเทรดกราฟเปล่าก็อาจรวมถึงการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน (Candlestick Patterns) การวิเคราะห์รูปร่างทางเทคนิค (Chart Patterns) อย่างเช่น รูปร่างหัวไหล่ (Head and Shoulders) รูปร่างวี (Double Top/Bottom) และรูปร่างสามเหลี่ยม (Triangles)

จุดเด่นหลักๆของการเทรดกราฟเปล่า คือ จะทำให้กราฟดูสะอาด ๆ และไม่ซับซ้อนจาก Indicators ตัวชี้วัดเทคนิคต่าง ๆ ที่อาจทำให้การตัดสินใจซับซ้อนเกินไป ข้อด้อย คือ วิธีการนี้อาจจำกัดข้อมูลที่สามารถใช้ในการทำนายแนวโน้มราคาได้ ดังนั้น จึงอาจไม่เหมาะสมกับทุกคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายและความสบายใจของผู้ที่เทรด

 

เทคนิคเทรดกราฟเปล่า forex

การเทรดกราฟเปล่า Price Action ในตลาด Forex คือ การวิเคราะห์และตัดสินใจทำการซื้อขายสกุลเงินโดยอาศัยเพียงแค่การวิเคราะห์ราคาและกราฟราคาเท่านั้น โดยไม่มีการใช้ตัวชี้วัดเทคนิค (technical indicators) ใด ๆ เป็นส่วนประกอบในการวิเคราะห์เลย เน้นกราฟที่สะอาด ซึ่งอาจจะดูแท่งเทียนบนกราฟเปล่าเป็นหลัง โดยใช้หลักการวิเคราะห์ด้วยกลยุทธ์เฉพาะตัวเทรดเดอร์ และส่วนใหญ่แล้วเทคนิคเทรดกราฟเปล่า forex ที่นิยมมากที่สุด จะมีดังนี้

  1. การวิเคราะห์แนวรับและแนวต้าน
  2. การวิเคราะห์รูปร่างทางเทคนิค (Chart Patterns)
  3. การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick Analysis)

 

  1. เทรดกราฟเปล่า จากการวิเคราะห์แนวรับและแนวต้าน

 YWO Promotion

2 เทรดกราฟเปล่า จากการวิเคราะห์แนวรับและแนวต้าน

การวิเคราะห์แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) เป็นส่วนสำคัญในการเทรดกราฟเปล่า Forex คำว่า “แนวรับ” และ “แนวต้าน” เป็นภาษาที่ใช้เพื่ออธิบายระดับราคาที่ใช้บ่อยครั้งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในหลักการทั่วไป แนวรับ คือ ระดับราคาที่ราคาดูจะหยุดลงและเริ่มขึ้นไป และแนวต้าน คือ ระดับราคาที่ราคาดูจะหยุดขึ้นและเริ่มลงมา

การวิเคราะห์แนวรับ (Support)

  • แนวรับ คือ ระดับราคาที่ทำหน้าที่รองรับราคาในการลดลง
  • เมื่อราคาลดลงมาถึงแนวรับ
  • แนวรับนี้จะสร้างแรงดันให้ราคาสกุลเงินกลับขึ้
  • แนวรับมักจะเป็นสัญญาณให้นักเทรดจับจังหวะซื้อ เนื่องจากคาดว่าราคาจะถูก “รองรับ” และจะไม่ลดลงอี

การวิเคราะห์แนวต้าน (Resistance):

  • แนวต้าน คือ ระดับราคาที่ทำหน้าที่ต้านการสูงขึ้นของราคา
  • เมื่อราคาสูงขึ้นมาถึงแนวต้าน
  • แนวต้านนี้จะสร้างแรงดันให้ราคาสกุลเงินลดลง
  • แนวต้านมักจะเป็นสัญญาณให้นักเทรดจับจังหวะขาย เนื่องจากคาดว่าราคาจะถูก “ต้าน” และจะไม่สูงขึ้นอีก

ในการวิเคราะห์กราฟเปล่า การรู้ราคาปัจจุบันอยู่ในระหว่างแนวรับหรือแนวต้านใดจะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจที่ดีกว่า อีกทั้งต้องรู้ด้วยว่าการที่ราคาจะทะลุแนวรับหรือแนวต้านนั้น เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ความรู้และความเข้าใจในการวิเคราะห์แนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งที่สำคัญ

  1. เทรดกราฟเปล่าจากการวิเคราะห์รูปร่างทางเทคนิค (Chart Patterns)

3 เทรดกราฟเปล่าจากการวิเคราะห์รูปร่างทางเทคนิค

การวิเคราะห์รูปร่างทางเทคนิค (Chart Patterns) ต่อเนื่อง

ฟลักแก้ว (Cup and Handle)

รูปร่างฟลักแก้ว คือ รูปร่างที่แสดงให้เห็นการลดลงของราคาในระยะสั้น และต่อด้วยการขึ้นของราคาอย่างที่เริ่มต้น ต่อจากนั้น ราคาจะลดลงอีกครั้งแต่จะไม่ลดลงถึงระดับที่ต่ำสุดเดิม รูปร่างนี้ส่งสัญญาณว่าราคาจะขึ้น

รูปร่างนี้ประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ ชาม (Cup) และ หู (Handle) รูปร่างนี้จะเริ่มต้นด้วยการที่ราคาตราสารทุนหรือสกุลเงินลดลง แล้วกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างที่เริ่มต้น (ซึ่งสร้างรูปร่างคล้ายถ้วย) แล้วราคาจะลดลงอีกครั้งแต่ไม่ถึงระดับเดิม (สร้างรูปร่างคล้ายหู) จากนั้นราคาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

Zigzag

รูปร่าง Zigzag มีลักษณะที่เด่นชัดคือการเปลี่ยนแปลงทิศทางราคาอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มราคาได้อย่างชัดเจน และมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านข่าวสารหรือพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

Flags and Pennants

รูปร่าง Flags และ Pennants เป็นรูปร่างที่แสดงให้เห็นการลดลงของราคาหลังจากการขึ้นของราคาที่รวดเร็ว (เรียกว่า “flagpole” หรือ “เสาธง”) รูปร่างทั้งสองนี้มักจะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มราคาที่ขึ้นของตลาดจะยังคงดำเนินต่อไปรูปร่าง Flag มีลักษณะคล้ายรูปสี่เหลี่ยมและเกิดขึ้นในระยะสั้น ส่วนรูปร่าง Pennant มีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยมเล็กและยาวขึ้น

 

เส้นเทรนด์ (Trend Lines

เส้นเทรนด์ เป็นเครื่องมือที่มักจะใช้ร่วมกับรูปร่างทางเทคนิค เส้นเทรนด์เป็นเส้นที่วาดผ่านจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดต่างๆบนกรา เมื่อราคาขึ้นและลงตามเส้นเทรนด์นี้ นักเทรดสามารถทำนายทิศทางแนวโน้มราคาต่อไป

รูปร่างช่อง (Channels)

รูปร่างช่องคล้ายกับเส้นเทรนด์แต่มีทั้งเส้นเทรนด์ขึ้นและเส้นเทรนด์ลงที่วาดขนานกันบนกราฟ นักเทรดจะมองหาจุดที่ราคาเกิดการสั้น (rebound) หรือทะลุ (breakthrough) ออกจากรูปร่างช่องเพื่อเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มราคา

ดังนั้น ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของรูปร่างทางเทคนิคที่นักเทรด Forex ใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ราคา การทราบและเข้าใจในรูปร่างเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนและจับจังหวะทำการซื้อขายได้ดีขึ้นอย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าไม่มีวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคใด ๆ ที่จะสามารถรับประกันผลการเทรดได้ 100% จึงควรใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเทรดที่ครอบคลุม

 

  1. เทรดกราฟเปล่าการวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick Analysis)

4 เทรดกราฟเปล่าการวิเคราะห์แท่งเทียน

การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick Analysis) เป็นวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากในการเทรด Forex วิธีการนี้มาจากญี่ปุ่นและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 200 ปี แท่งเทียนมีส่วนประกอบหลัก ๆ 4 ส่วน คือ ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และราคาปิด

ด้านล่างนี้ คือ การวิเคราะห์ทางเทคนิคโดยใช้แท่งเทียน

แท่งเทียนเขียวและแท่งเทียนแดง

แท่งเทียนขาว (หรือแท่งเทียนเขียวในบางกรณี) แสดงว่าราคาเปิดน้อยกว่าราคาปิด, หมายความว่าราคาได้เพิ่มขึ้นในระยะเวลานั้น แท่งเทียนดำ (หรือแท่งเทียนแดงในบางกรณี) แสดงว่าราคาเปิดมากกว่าราคาปิด, หมายความว่าราคาได้ลดลงในระยะเวลานั้น

รูปร่างแท่งเทียน

การวิเคราะห์รูปร่างแท่งเทียนสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพรวมของตลาด เช่น แท่งเทียน “Doji” มีราคาเปิดและปิดที่เท่ากัน แสดงถึงความลังเลของตลาด ในขณะที่แท่งเทียน “Hammer” หรือ “Hanging Man” สามารถใช้วิเคราะห์แนวโน้มราคาที่จะเปลี่ยนไป

รูปแบบแท่งเทียน

การรวมรูปร่างแท่งเทียนเข้าด้วยกันสามารถสร้างรูปแบบที่มีความหมายพิเศษ เช่น “Bullish Engulfing” หรือ “Bearish Engulfing” สามารถใช้วิเคราะห์เป็นสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแนวโน้มราคาในระยะสั้น และ “Morning Star” หรือ “Evening Star” สามารถใช้วิเคราะห์เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มราคาในระยะยาว

 

ข้อควรระวัง การเทรดกราฟเปล่าใน Forex

การเทรดกราฟเปล่าใน Forex มีความท้าทายเป็นอย่างมาก แต่หากทราบวิธีการ มันก็สามารถช่วยให้ทำกำไรได้ ทว่า ควรระวังสิ่งต่อไปนี้

  1. การเรียนรู้และความเข้าใจ: การวิเคราะห์กราฟเปล่าหรือการวิเคราะห์ทางเทคนิคต้องการความเข้าใจที่ลึกซึ้กในรูปร่างและรูปแบบต่างๆ ตลอดจนสัญญาณที่เกี่ยวข้อง เมื่อคุณมีความเข้าใจเต็มที่ คุณจะสามารถทำการเทรดได้มากยิ่งขึ้น
  2. สิ่งที่เกิดขึ้นในภาวะตลาด: การวิเคราะห์ทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับการสำรวจข้อมูลในอดีต แต่มันไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภาวะตลาดเช่น ข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ หรือการประกาศทางการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อราคาสกุลเงิน
  3. ความเสี่ยง: ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง และการเทรดกราฟเปล่าสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้ เพราะฉะนั้น การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีแผนการจัดการความเสี่ยง และไม่ควรลงทุนเกินจำนวนที่สามารถสูญเสียได้
  4. การติดตามแนวโน้ม: หลายคนมักทำผิดพลาดโดยพยายามทายแนวโน้มของตลาดที่จะเปลี่ยน ซึ่งสามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ดี การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ดีควรจะติดตามแนวโน้มของตลาด ไม่ใช่พยายามทายว่ามันจะเปลี่ยนอย่างไร
  5. ความมั่นใจที่เกินไป: ถึงแม้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมีประโยชน์ แต่มันไม่ได้มั่นคง 100% ควรใช้มันเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำสิ่งที่คุณคิดว่าเหมาะสมในการเทรดและตัดสินใจ

แนะนำหนังสือกราฟเปล่า Price action

หนังสือ”Trading Price Action Trends: Technical Analysis of Price Charts Bar by Bar for the Serious Trader” โดย Al Brooks

5 หนังสือ”Trading Price Action Trends

  • หนังสือเล่มนี้จะสอนเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟเทรดและสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพด้วยการใช้ Price Action บรูกส์มีวิธีการสอนที่ละเอียดและครอบคลุมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Price Action

สรุปเนื้อหา

หนังสือเล่มนี้มีการสำรวจแนวโน้มทางการเทรดในรายละเอียด อธิบายถึงการจัดแนวโน้มและเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ทันสมัยที่สุดที่มีอยู่สำหรับนักเทรด มันตรวจสอบรูปแบบทางเทคนิคและผู้อ่านจะได้รับทัศนคติใหม่เกี่ยวกับกราฟบาร์และการเคลื่อนไหวของราคา รวมถึงวิธีการแปลความหมายของการเคลื่อนไหวต่างๆเหล่านี้เพื่อทำกำไรจากการเทรด อีกทั้งยังมีเนื้อหาที่หนา และอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดของการวิเคราะห์ Price Action จนถึงระดับเล็กน้อย ทำให้หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้ที่จริงจังในการเรียนรู้วิธีการใช้เทคนิค Price Action ในการเทรด

 

หนังสือ “A Complete Guide to Volume Price Analysis” โดย Anna Coulling

6 หนังสือ “A Complete Guide to Volume Price Analysis

  • หนังสือเล่มนี้นำเสนอเทคนิคการวิเคราะห์ราคาและปริมาณการซื้อขาย ที่มีรากฐานอยู่ที่ความคิดของนักการเงินรุ่นเก่า หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างง่ายต่อการทำความเข้าใจและเป็นไปตามความจริง

สรุปเนื้อหา

เป็นหนังสือที่นำเสนอทฤษฎีและเทคนิคเกี่ยวกับการวิเคราะห์ราคาด้วยปริมาณการซื้อขาย เป้าหมายหลักของหนังสือเล่มนี้คือการทำให้นักเทรดสามารถทำความเข้าใจและใช้การวิเคราะห์ปริมาณในการเทรดของตนเองได้ หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นที่การสอนคุณวิธีการทำความเข้าใจราคาและปริมาณการซื้อขาย และวิธีการใช้ปริมาณเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคา นักเทรดทุกคนสามารถหาข้อมูลที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือผู้มีประสบการณ์

หนังสือเล่มนี้ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปริมาณ ซึ่งเป็นประเด็นที่มักถูกละเว้นในหลายๆ หนังสือเกี่ยวกับการเทรด อีกทั้งหนังสือยังมีข้อมูลปฏิบัติการที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการใช้การวิเคราะห์ปริมาณเพื่อทำกำไรจากการเทรด

ดังนั้น “A Complete Guide to Volume Price Analysis” ถือเป็นหนังสือที่ควรอ่านสำหรับนักเทรดที่ต้องการเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการใช้การวิเคราะห์ปริมาณเพื่อสร้างความสามารถในการเทรดของตนเอง

 

หนังสือ “Japanese Candlestick Charting Techniques” โดย Steve Nison

7 หนังสือ “Japanese Candlestick Charting Techniques

  • ถ้ากำลังมองหาความรู้เกี่ยวกับกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น หนังสือเล่มนี้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนังสือมาตรฐานสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องนี้

สรุปเนื้อหา

หนังสือที่ถือว่าเป็นคลาสสิคในการเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน Nison คือ ผู้เขียนที่นำเทคนิคการวิเคราะห์แท่งเทียนของญี่ปุ่นเข้าสู่ตลาดทั่วโลก หนังสือนี้มีการอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับความหมายและการใช้งานของแท่งเทียนหลากหลายรูปแบบ มันเรียนรู้ง่ายและมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายสำหรับนักเทรดทั้งใหม่และมีประสบการณ์

หนังสือนี้เน้นการทำความเข้าใจแท่งเทียนในภาพรวมและเน้นความสำคัญของการวิเคราะห์ความยาว สี และตำแหน่งของแท่งเทียน ซึ่งทำให้ผู้อ่านสามารถใช้เทคนิคการวิเคราะห์แท่งเทียนในการเทรดของตนเอง

ข้อมูลในหนังสือนี้สามารถนำไปใช้ในการเทรดหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน หนังสือ “Japanese Candlestick Charting Techniques” เป็นหนังสือที่ควรอ่าน

 

หนังสือ “The Art and Science of Technical Analysis: Market Structure, Price Action, and Trading Strategies” โดย Adam Grimes

8 หนังสือ “The Art and Science of Technical Analysis

  • หนังสือเล่มนี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับนักเทรดทุกระดับ จากผู้เริ่มต้นถึงผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการสร้างโครงสร้างทางทฤษฎีและปฏิบัติที่ทันสมัย

หนังสือ “The PlayBook: An Inside Look at How to Think Like a Professional Trader” โดย Mike Bellafiore

  • หนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นการสร้างสมุดบันทึกการเทรดของคุณเอง ซึ่งมีประโยชน์ในการเรียนรู้จากประสบการณ์การเทรดของคุณและปรับปรุงแผนการเทรดในอนาคต

 

ข้อดีของการเทรด forex กราฟเปล่า

  • ความเรียบง่าย: กราฟเปล่าเป็นวิธีการวิเคราะห์ที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน ไม่ได้ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ซับซ้อนหรือสับสน
  • เห็นความชัดเจน: เห็นราคาตลาดที่แท้จริงโดยไม่มีอะไรปกคลุม ทำให้สามารถตีความแนวโน้มทางการซื้อขายและพฤติกรรมของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
  • ปฏิสัมพันธ์กับทุกตลาด: กราฟเปล่าสามารถใช้งานได้ในทุกๆ ตลาดที่มีข้อมูลราคา ไม่ว่าจะเป็นตลาด Forex, หุ้น, สินค้าภัณฑ์หรือเงินดิจิตอล
  • ปรับใช้กับทุกช่วงเวลา: ไม่ว่าจะเป็นนักเทรดวัน (Day Trader) หรือนักเทรดระยะยาว (Long Term Trader)สามารถใช้กราฟเปล่าในการวิเคราะห์ได้
  • เห็นภาพรวม: การวิเคราะห์ด้วยกราฟเปล่าช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาด หรือ “the big picture” ทำให้คุณสามารถทำความเข้าใจแนวโน้มของตลาดได้ดีขึ้น
  • ระบบการเทรดที่ยืดหยุ่น: สามารถปรับแต่งวิธีการเทรดให้เข้ากับลักษณะและวิธีการที่คุณต้องการได้
  • ลดสัญญาณปลอม: การเทรดแบบ Price Action ทำให้สามารถลดการรับสัญญาณปลอม หรือ False signals ที่อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด
  • สร้างความเข้าใจในพฤติกรรมตลาด: การวิเคราะห์จากกราฟเปล่าช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงแรงดันที่ขับเคลื่อนตลาด
  • ลดความเครียด: การทำการวิเคราะห์ที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนทำให้ลดความเครียดในการตัดสินใจซื้อขาย
  • ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด: ระบบการเทรดที่ใช้กราฟเปล่าสามารถปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดี

ข้อเสียของการเทรด forex กราฟเปล่า

  • ต้องการฝึกฝน: การอ่านและตีความกราฟเปล่าต้องการทักษะและประสบการณ์ เนื่องจากการวิเคราะห์บนกราฟเปล่าค่อนข้างเป็นศิลปะมากกว่าการเรียนรู้สูตรหรือตัวชี้วัดทางเทคนิค
  • ระบบการเทรดไม่ได้ระบบ: ระบบการเทรดที่เน้นการตีความกราฟเปล่ามักเป็นระบบที่ไม่ได้ระบบทำให้มีความสับสนและเป็นไปได้ว่าจะทำให้นักเทรดยากต่อการทำตาม
  • การวิเคราะห์เรื่องซับซ้อน: ในกรณีบางรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์รูปร่างของแท่งเทียน หรือ Chart Patterns อาจทำให้ผู้เริ่มต้นรู้สึกยากใจ
  • ภาพวิธีการวิเคราะห์ที่ไม่ชัดเจน: การวิเคราะห์ด้วยกราฟเปล่าอาจทำให้มีการตีความต่างกัน ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละคน
  • ต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมตลาด: แม้ว่าจะเป็นวิธีที่เรียบง่าย แต่คุณยังต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมและแนวโน้มของตลาด
  • สัญญาณปลอม: แม้ว่าการวิเคราะห์ด้วยกราฟเปล่าจะทำให้สามารถลดสัญญาณปลอมได้ แต่ยังมีโอกาสที่จะเกิดสัญญาณปลอมขึ้น
  • ความจำเป็นในการมองภาพรวม: การเทรดด้วยกราฟเปล่า ต้องมองเห็นภาพรวมของตลาด ซึ่งในบางครั้งอาจต้องดูแล้วดูอีกหลายชั้นของกราฟ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน
  • ไม่มีการยืนยันจากตัวชี้วัด: การเทรดด้วยกราฟเปล่ามักจะไม่ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค เพราะฉะนั้นอาจจะไม่มีการยืนยันจากตัวชี้วัด
  • อาจจะขาดความชัดเจนในการตั้งเป้าหมายและจุดหยุดขาดทุน: โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่มีรูปแบบชัดเจน การตั้งเป้าหมายและจุดหยุดขาดทุนอาจจะเป็นไปได้ยาก

อาจใช้เวลาในการตัดสินใจ: การเทรดด้วยกราฟเปล่าอาจใช้เวลาในการตัดสินใจ เพราะต้องดูและตีความกราฟเปล่าเพื่อการตัดสินใจ

 

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser