Above the Stomach คืออะไร รูปแบบกราฟแท่งเทียน วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

Above the Stomach คืออะไร

Above the Stomach คือ ลักษณะของแท่งเทียน (candlestick) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสไตล์วิเคราะห์ญี่ปุ่น ในแบบ “Above the Stomach” นั้น จะมีลักษณะเป็นแท่งเทียนลบตามด้วยแท่งเทียนบวก ซึ่งมีส่วนเปิดที่มากกว่าหรือเท่ากับแท่งเทียนที่แล้วโดยไม่เกินครึ่งกลางของแท่งนั้น และมีส่วนปิดที่สูงกว่าส่วนปิดของแท่งเทียนที่แล้ว

รูปแบบนี้เป็นสัญญาณว่าเทรนด์ลบนั้นอาจจะกำลังจะสิ้นสุดลง และเทรนด์บวกจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่เช่นเดียวกับรูปแบบอื่นๆ ของแท่งเทียน คือ ควรใช้เครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อยืนยันแนวโน้มทางที่จะเกิดขึ้นร่วมด้วย   Bullish Bearish

 

รูปแบบ Above the Stomach จะมีลักษณะดังนี้

1 รูปแบบ Above the Stomach

รูปแบบ Above the Stomach ในกราฟแท่งเทียน (Candlestick) มีลักษณะดังนี้

ลักษณะที่ 1

แท่งเทียนแรกจะเป็นแท่งเทียนลบ (แท่งเทียนสีแดงหรือสีดำ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) นั่นคือ ราคาปิดจะต่ำกว่าราคาเปิด

  • แท่งเทียนลบ: ในกรณีนี้ ราคาปิดน้อยกว่าราคาเปิด ทำให้เราได้ “Body” ของแท่งเทียนเป็นสีแดงหรือสีดำ (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) ส่วนล่างของ Body แท่งเทียน คือราคาเปิด และส่วนบนคือราคาปิด. “เงา” หรือ “wick” ทั้งสองฝั่งนั้น แสดงถึงความผันผวนราคาในช่วงระยะเวลาที่แท่งเทียนนั้นแสดง (เช่น 1 วัน, 1 ชั่วโมง, 15 นาที, ตามการตั้งค่า) ราคาสูงสุดจะเป็นจุดสุดยอดของเงาที่สูงสุด และราคาต่ำสุดจะเป็นจุดสุดท้ายของเงาที่ต่ำสุด

ลักษณะที่ 2

แท่งเทียนที่สองจะเป็นแท่งเทียนบวก (แท่งเทียนสีเขียวหรือสีขาว ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) นั่นคือ ราคาปิดจะสูงกว่าราคาเปิด และราคาเปิดของแท่งเทียนนี้จะต้องอยู่ในวันก่อนหน้าของแท่งเทียนแรก แต่ไม่ได้ต่ำกว่าราคาที่ครึ่งกลางของแท่งเทียนแรก นอกจากนี้ ราคาปิดของแท่งเทียนนี้จะต้องสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแรก

  • ราคาเปิดของแท่งเทียนบวก: ราคาเปิดของแท่งเทียนบวกนี้จะต้องอยู่ในช่วงราคาของแท่งเทียนลบที่อยู่ก่อนหน้า แต่ราคาเปิดนี้จะต้องไม่ต่ำกว่าราคาที่ครึ่งกลางของแท่งเทียนลบ นั่นคือ ไม่ต่ำกว่าจุดที่อยู่ระหว่างราคาเปิดและราคาปิดของแท่งเทียนลบ
  • ราคาปิดของแท่งเทียนบวก: ราคาปิดของแท่งเทียนบวกนี้จะต้องสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนลบที่อยู่ก่อนหน้า นั่นหมายความว่า ราคาสินค้าหรือหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาที่สิ้นสุดการซื้อขายในช่วงก่อนหน้า

ทั้งสองลักษณะนี้ร่วมกันบ่งบอกว่า แท่งเทียนบวกนี้ได้ “กินเข้าไป” ในแท่งเทียนลบที่ก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเปลี่ยนแนวโน้มจากแนวโน้มลง (bearish) เป็นแนวโน้มขึ้น (bullish) นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เป็นการเตือนภัยว่าเทรนด์อาจจะกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง และให้เตรียมตัวตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้

 

วิธีการใช้งาน Above the Stomach

Above the Stomach มักจะปรากฏในช่วงแนวโน้มลง (downtrend) และส่งสัญญาณแสดงถึงการสลับเปลี่ยนแนวโน้ม (reversal) ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในการใช้งานรูปแบบนี้ นักลงทุนอาจจะทำดังนี้

  • ยืนยันแนวโน้มลง: ควรจะสังเกตและยืนยันว่ากำลังมีแนวโน้มลงเกิดขึ้นก่อนที่จะมองหารูปแบบ Above the Stomach นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคอื่น ๆ เช่น moving averages หรือ trend lines เพื่อยืนยันแนวโน้ม
  • ค้นหารูปแบบ Above the Stomach: หากยืนยันว่ากำลังมีแนวโน้มลงเกิดขึ้น นักลงทุนจะค้นหารูปแบบของแท่งเทียน Above the Stomach ที่ประกอบด้วยแท่งเทียนลบที่ใหญ่ ตามด้วยแท่งเทียนบวกที่มีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแรก แต่ราคาปิดสูงกว่าราคาที่ครึ่งกลางของแท่งเทียนแรก
  • ยืนยันสัญญาณ: หลังจากพบรูปแบบ Above the Stomach นักลงทุนควรทำการยืนยันสัญญาณด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคอื่น ๆ หรือตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น RSI, MACD หรือ volume indicators เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจลงทุน
  • วางแผนการลงทุน: หากทุกสิ่งทุกอย่างเข้าใจว่าสอดคล้องกับสัญญาณซื้อ นักลงทุนจะวางแผนการลงทุนโดยระบุระดับเข้าซื้อ (entry point) ระดับหยุดความเสียหาย (stop loss) และระดับรับกำไร (take profit) ด้วยการใช้รูปแบบ Above the Stomach และตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่มีอยู่

 

สถิติและความแม่นยำของ Above the Stomach

(อ้างอิง : ข้อมูลสถิติจากหนังสือ Encyclopedia of candlestick charts)

Above the Stomach

ชื่อทฤษฎี : Bullish reversal.

Actual bull market: Bullish reversal 66% อันดับ (ranking 17).

Actual bear market: Bullish reversal 67% อันดับ (ranking 18).

อันดับความถี่ของการเกิด: 32nd จาก 103

อันดับความแม่นยำ: อันดับ 31st จาก 103

 

ข้อดีข้อเสีย Above the Stomach

ข้อดี Above the Stomach

  • ความถี่: รูปแบบนี้ปรากฏอยู่ที่อันดับที่ 32 จาก 103 แบบ ทำให้เป็นรูปแบบที่พบบ่อยในการวิเคราะห์
  • ประสิทธิภาพ: ทั้งในตลาดวัวและตลาดหมี ส่งสัญญาณการกลับฝั่งวัวถึง 66% – 67% ของเวลา ทำให้มันเป็นสัญญาณที่เชื่อถือได้ในสภาวะทั้งสอง
  • ความเป็นเอกลักษณ์: ความเป็นเอกลักษณ์ของรูปแบบนี้ทำให้มันง่ายต่อการระบุและแปลความหมาย
  • ความแน่นอน: เนื่องจากมีการใช้รูปแบบนี้ในสาธิตพร้อมเก็บข้อมูลตัวอย่างจำนวนมาก ทำให้สถิติเป็นที่ยอมรับและแข็งแกร่ง
  • ปรับปรุงภาพรวม: มันอยู่ในชั้นล่างของอันดับโดยรวม ที่ 31 จาก 103 ซึ่งถือว่าดีในเชิงสถิติ
  • มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม: แท่งเทียนนี้ช่วยให้นักลงทุนเห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่จะมาถึง
  • ระบบการวิเคราะห์ที่ง่าย: การวิเคราะห์แท่งเทียนนี้ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย ทำให้มันเหมาะสำหรับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
  • ปรับตัวได้ตามสภาวะตลาด: มันสามารถใช้ได้ทั้งในตลาดวัวและตลาดหมี ทำให้เป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่น
  • รูปแบบทำยอดขาย: แท่งเทียนนี้ช่วยให้นักลงทุนเห็นสภาพการขายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • ช่วยในการตัดสินใจ: สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจเพื่อซื้อหรือขาย ด้วยการส่งสัญญาณเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม

 

ข้อเสีย Above the Stomach

  • การสร้างสัญญาณที่เท็จ: เหมือนกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคทั้งหมด รูปแบบของแท่งเทียน Above the Stomach อาจสร้างสัญญาณที่เท็จได้ สัญญาณที่เท็จนี้อาจทำให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายโดยคาดหวังว่าแนวโน้มจะเปลี่ยน แต่แท้จริงแล้วแนวโน้มยังคงเดิม
  • การต้องการยืนยัน: ภายใต้สภาวะตลาดที่ซับซ้อนและกลับกัน การใช้รูปแบบแท่งเทียน Above the Stomach อาจจำเป็นต้องมีการยืนยันจากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ ทำให้มันต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการวิเคราะห์
  • ความต้องการความรู้และประสบการณ์: การตรวจจับและใช้รูปแบบแท่งเทียน Above the Stomach อย่างถูกต้องจำเป็นต้องใช้ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับนักลงทุนที่เริ่มต้น
  • ความไม่แน่นอน: รูปแบบนี้ไม่ได้ให้สัญญาณแน่นอนเสมอไป มันส่งสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มในตลาดวัวหรือตลาดหมีประมาณ 66-67% ของเวลา
  • ระยะเวลาการขึ้น: มักจะเกิดการสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ระยะเวลาการขึ้นนั้นมักจะสั้น ๆ โดยเฉพาะถ้าแนวโน้มหลักเป็นทางลง
  • การวิเคราะห์อันดับ: ถึงแม้ว่าจะมีการทำงานที่ดีและอยู่ในชั้นล่างของรูปแบบทั้งหมด 103 แบบ แต่ก็ยังอยู่ในชั้นล่างของการจัดอันดับ
  • การศึกษาเพิ่มเติม: การวิเคราะห์แท่งเทียนเพื่อระบุรูปแบบนี้อาจจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม และอาจจะยากสำหรับนักลงทุนมือใหม่
  • การตอบสนองต่อข่าวสาร: แท่งเทียนจะไม่สามารถตอบสนองต่อข่าวหรือสภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
  • จำกัดในการวิเคราะห์: รูปแบบนี้มีข้อจำกัดในการวิเคราะห์ตลาดที่มีความแปรปรวนสูง
  • ข้อจำกัดทางสถิติ: สถิติที่ใช้ในการทำนายผลลัพธ์เพิ่มขึ้นขึ้นอยู่กับการใช้รูปแบบนี้ในอดีต ทำให้เกิดข้อจำกัดทางสถิติ
  • ความยากในการระบุ: การระบุรูปแบบนี้อาจจะยากสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์
  • ความจำเป็นต้องใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เพื่อให้มีความแม่นยำสูงสุด ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น

ความล่าช้า: รูปแบบแท่งเทียนอาจจะแสดงสัญญาณกลับฝั่งเพียงชั่วขณะหลังจากที่ตลาดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว