1.1 เกี่ยวกับ FXdreema
1.1.1 FXdreema คืออะไร
FXdreema คือเครื่องมือในการสร้างกลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติ (Expert Advisors) สำหรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม ผู้ใช้งานสามารถสร้าง EA ได้โดยใช้การลากและวางบล็อก เพื่อสร้างตรรกะการเทรดที่ต้องการ
Source: Fxdreema.com
1.1.2 ความสามารถและคุณสมบัติของ FXdreema
- การสร้าง EA โดยไม่ต้องเขียนโค้ด: ผู้ใช้งานสามารถสร้าง EA ได้โดยการลากและวางบล็อกที่มีการกำหนดค่าไว้แล้ว
- การทดสอบกลยุทธ์: FXdreema มีเครื่องมือสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การเทรด (Backtesting) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของ EA ก่อนการใช้งานจริงในโปรแกรม MT4 และ MT5
- การเพิ่มฟังก์ชันด้วย Custom Code: สำหรับผู้ที่มีทักษะในการเขียนโปรแกรม สามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติมด้วยการเขียนโค้ดเอง
- การสร้าง Indicator แบบกำหนดเอง: FXdreema ไม่เพียงแค่สร้าง EA แต่ยังสามารถสร้าง Custom Indicators ที่ผู้ใช้งานกำหนดเองได้
- เชื่อมต่อ API ภายนอกได้ : สามารถดึงค่าที่คำนวณข้างนอก EA เข้ามาใช้เป็นสัญญาณเทรดได้ เช่น การพัฒนาจุดเข้าเทรดข้างนอกเช่น Google Sheet หรือ ส่งข้อมูลไป Line
1.1.3 การประยุกต์ใช้งาน FXdreema
- นักเทรดมือใหม่: ผู้ที่เริ่มต้นเรียนรู้การเทรดสามารถใช้ FXdreema เพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดแบบง่าย ๆ และปรับปรุงต่อเนื่องตามความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น
- นักเทรดมืออาชีพ: ผู้มีประสบการณ์สามารถใช้ FXdreema เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยใช้ฟังก์ชันขั้นสูงและการปรับแต่งต่าง ๆ
- การทดสอบและพัฒนากลยุทธ์: FXdreema ช่วยให้นักเทรดสามารถทดสอบและปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนโค้ดทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์
1.1.4 ข้อดีและข้อเสียของ FXdreema
ข้อดี
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรม
- มีฟังก์ชันที่หลากหลายและครอบคลุม
- สามารถทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย
ข้อเสีย
- อาจมีข้อจำกัดในการสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมาก
- สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการฟังก์ชันเฉพาะ อาจต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม
- ขนาดโค๊ดยาวมากเพราะมี Function อื่น ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการทำให้เป็นอัติโนมัติ ทำให้ File มีขนาดใหญ่ และ Code ซับซ้อนซึ่งเรื่องนี้ส่งผลต่อ ความเร็วในการส่งคำสั่งจาก Server และ การกินทรัพยากรของ Server ที่เปิดรัน EA
1.1.5 การสนับสนุนและชุมชนผู้ใช้งาน FXdreema
FXdreema มีชุมชนผู้ใช้งานที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถเข้าร่วมฟอรัมออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากนักเทรดท่านอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเอกสารและวิดีโอการสอนที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเรียนรู้และเข้าใจการใช้ FXdreema ได้อย่างรวดเร็ว
เทรดคนเดียวมันเหงา มาเทรดกับเราดีกว่า
เข้ากลุ่ม FOREXDUCK คลิ๊กที่รูป หรือ ที่นี่
1.2 ความแตกต่างของ Demo กับ จ่ายตังค์
1.2.1 อธิบายความต่างของ Demo จ่ายตังค์
FXdreema มีให้บริการทั้งในเวอร์ชัน Demo และเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน โดยผู้ใช้งานควรทราบถึงความสามารถและข้อจำกัดของแต่ละเวอร์ชัน เพื่อการตัดสินใจในการเลือกใช้ที่เหมาะสมกับความต้องการ เวอร์ชัน Demo ของ FXdreema ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้โปรแกรมและเรียนรู้ฟังก์ชันพื้นฐานได้ โดยมีข้อจำกัดดังนี้:
- จำนวนโปรเจคและบล็อกที่จำกัด: ผู้ใช้งานเวอร์ชัน Demo อาจมีข้อจำกัดในการสร้างโปรเจคและจำนวนบล็อกที่ใช้ในแต่ละโปรเจค ทำให้ไม่สามารถสร้างกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากได้
- การใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง: บางฟีเจอร์ขั้นสูงและการตั้งค่าที่สำคัญอาจไม่สามารถใช้งานได้ในเวอร์ชัน Demo เช่น การใช้งาน Custom Indicators หรือการตั้งค่าการเทรดแบบหลาย Timeframe
- การบันทึกและการดาวน์โหลด EA: ในเวอร์ชัน Demo ผู้ใช้งานอาจมีข้อจำกัดในการบันทึกและดาวน์โหลด EA ที่สร้างขึ้น หรืออาจไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ได้เลย
- การสนับสนุนและเอกสาร: การสนับสนุนจากทีมงานและการเข้าถึงเอกสารหรือคู่มือการใช้งานแบบละเอียดอาจมีข้อจำกัด
เวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
เวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงินของ FXdreema มาพร้อมกับฟังก์ชันที่ครบครันและไม่มีข้อจำกัดในการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น ดังนี้:
- ไม่มีข้อจำกัดในการสร้างโปรเจคและบล็อก: ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรเจคและใช้จำนวนบล็อกได้อย่างไม่จำกัด ทำให้สามารถออกแบบกลยุทธ์ที่ซับซ้อนได้ตามต้องการ
- การใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง: ผู้ใช้งานเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงินสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหมดของ FXdreema เช่น การใช้งาน Custom Indicators การตั้งค่าการเทรดแบบหลาย Timeframe และฟังก์ชันการปรับแต่งขั้นสูงอื่น ๆ
- การบันทึกและการดาวน์โหลด EA: ผู้ใช้งานสามารถบันทึกและดาวน์โหลด EA ที่สร้างขึ้นได้อย่างไม่จำกัด และนำไปใช้ในการเทรดจริงได้
- การสนับสนุนและเอกสาร: ผู้ใช้งานเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงินจะได้รับการสนับสนุนจากทีมงาน FXdreema อย่างเต็มที่ รวมถึงการเข้าถึงเอกสาร คู่มือการใช้งาน และวิดีโอการสอนที่มีรายละเอียด
ตารางเปรียบเทียบเวอร์ชัน Demo และเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน
คุณสมบัติ |
เวอร์ชัน Demo |
เวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงิน |
จำนวนโปรเจคและบล็อก |
จำกัด |
ไม่จำกัด |
ฟีเจอร์ขั้นสูง |
ไม่รองรับ |
รองรับทั้งหมด |
การบันทึกและดาวน์โหลด EA |
จำกัดหรือไม่รองรับ |
ไม่จำกัด |
การสนับสนุนและเอกสาร |
จำกัด |
ครบถ้วน |
การเลือกใช้เวอร์ชัน Demo หรือเวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงินของ FXdreema ขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับการใช้งานของผู้ใช้งาน หากคุณเพียงต้องการทดลองใช้และเรียนรู้พื้นฐาน เวอร์ชัน Demo อาจเพียงพอ แต่หากคุณต้องการสร้างกลยุทธ์การเทรดที่ซับซ้อนและใช้งานจริง การเลือกใช้เวอร์ชันที่ต้องจ่ายเงินจะทำให้คุณได้รับฟังก์ชันที่ครบครันและการสนับสนุนที่ดียิ่งขึ้น
1.2.2 การเลือก MT4 กับ MT5
MetaTrader เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดการเงิน โดยมีสองเวอร์ชันหลักคือ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ทั้งสองเวอร์ชันนี้มีฟังก์ชันและคุณสมบัติที่แตกต่างกันในบางประการ ซึ่งจะอธิบายในรายละเอียดต่อไปนี้
MetaTrader 4 (MT4)
MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักเทรด Forex และยังคงเป็นที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย แม้ว่า MT5 จะออกมาแล้วก็ตาม
ข้อดีของ MT4:
- ความนิยมและการสนับสนุนจากชุมชน: MT4 มีชุมชนผู้ใช้งานที่ใหญ่และมีทรัพยากรมากมาย เช่น Indicator, Expert Advisor (EA) และ Scripts ที่พัฒนาโดยผู้ใช้งานทั่วโลก
- ความง่ายในการใช้งาน: MT4 ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและมีอินเทอร์เฟซที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่
- รองรับการเทรด Forex: MT4 ถูกออกแบบมาเพื่อการเทรด Forex โดยเฉพาะ ซึ่งมีฟังก์ชันที่รองรับการเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้งานทรัพยากรน้อย: MT4 ใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์น้อยกว่า MT5 ซึ่งทำให้สามารถรันได้บนคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคต่ำกว่า
ข้อเสียของ MT4:
- การรองรับการเทรดสินทรัพย์อื่น ๆ: MT4 มีข้อจำกัดในการเทรดสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ Forex เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนี
- ฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่จำกัด: MT4 มีฟังก์ชันบางอย่างที่ไม่ครอบคลุมเท่ากับ MT5 เช่น การทดสอบหลายสินทรัพย์พร้อมกัน (Multi-Asset Testing) และการจัดการคำสั่งซื้อที่ซับซ้อน
MetaTrader 5 (MT5)
MT5 เป็นเวอร์ชันที่ใหม่กว่าของแพลตฟอร์ม MetaTrader และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเทรดสินทรัพย์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ข้อดีของ MT5:
- การเทรดหลายสินทรัพย์: MT5 รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น Forex หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และสกุลเงินดิจิทัล
- ฟังก์ชันการวิเคราะห์ขั้นสูง: MT5 มีเครื่องมือและฟังก์ชันการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มากกว่า MT4 เช่น Timeframes ที่หลากหลายและ Indicators ที่เพิ่มขึ้น
- การทดสอบกลยุทธ์ที่ดีขึ้น: MT5 รองรับการทดสอบกลยุทธ์หลายสินทรัพย์พร้อมกัน (Multi-Asset Testing) และมี Strategy Tester ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
- การจัดการคำสั่งซื้อที่ซับซ้อน: MT5 มีฟังก์ชันการจัดการคำสั่งซื้อที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น การเปิดคำสั่งซื้อหลายประเภทและการจัดการความเสี่ยงที่ดียิ่งขึ้น
ข้อเสียของ MT5:
- ความซับซ้อนในการใช้งาน: อินเทอร์เฟซของ MT5 อาจซับซ้อนกว่า MT4 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานใหม่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
- การสนับสนุนจากชุมชนที่น้อยกว่า: แม้ว่า MT5 จะเริ่มมีผู้ใช้งานมากขึ้น แต่ชุมชนและทรัพยากรยังคงน้อยกว่า MT4
- การใช้ทรัพยากรมากกว่า: MT5 ใช้ทรัพยากรของคอมพิวเตอร์มากกว่า MT4 ทำให้ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคสูงกว่า
ตารางเปรียบเทียบ MT4 และ MT5
คุณสมบัติ |
MetaTrader 4 (MT4) |
MetaTrader 5 (MT5) |
ประเภทสินทรัพย์ที่รองรับ |
Forex เท่านั้น |
Forex, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, สกุลเงินดิจิทัล |
ความง่ายในการใช้งาน |
ใช้งานง่าย |
ซับซ้อนกว่า |
เครื่องมือการวิเคราะห์ |
พื้นฐาน |
ขั้นสูง |
การทดสอบกลยุทธ์ |
พื้นฐาน |
หลายสินทรัพย์พร้อมกัน |
การจัดการคำสั่งซื้อ |
พื้นฐาน |
ซับซ้อนและยืดหยุ่น |
การใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ |
น้อย |
มาก |
ชุมชนและทรัพยากร |
มาก |
น้อยกว่า |
การเลือกใช้งาน MT4 หรือ MT5 ขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับความเชี่ยวชาญของนักเทรด หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่หรือเน้นการเทรด Forex เป็นหลัก MT4 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากใช้งานง่ายและมีชุมชนที่สนับสนุนมาก แต่หากคุณต้องการฟังก์ชันการวิเคราะห์ที่หลากหลายและการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท MT5 จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
1.2.3 การ Convert MT4 เป็น MT5
การแปลงโปรเจคจาก MetaTrader 4 (MT4) ไปยัง MetaTrader 5 (MT5) ใน FXdreema อาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนเล็กน้อย เนื่องจากทั้งสองแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกันในด้านโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงานบางประการ อย่างไรก็ตาม FXdreema ได้ออกแบบเครื่องมือเพื่อช่วยในการแปลงโปรเจคจาก MT4 ไปยัง MT5 ให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
ขั้นตอนการแปลงโปรเจคจาก MT4 เป็น MT5
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมโปรเจคใน MT4
- เปิดโปรแกรม FXdreema และโหลดโปรเจคที่คุณสร้างสำหรับ MT4
- ตรวจสอบและบันทึกโปรเจค MT4 ของคุณให้เรียบร้อย
ขั้นตอนที่ 2: การแปลงโปรเจคใน FXdreema
- ในโปรแกรม FXdreema ให้เปิดโปรเจค MT4 ที่คุณต้องการแปลง
- ไปที่เมนู File หรือ โปรเจคเมนู แล้วเลือก Convert to MT5 หรือ แปลงเป็น MT5
ขั้นตอนที่ 3: การตรวจสอบและปรับปรุงโปรเจค
- หลังจากแปลงโปรเจคแล้ว ให้ตรวจสอบการตั้งค่าทั้งหมดในโปรเจคของคุณอีกครั้ง
- ตรวจสอบว่า Indicators, Scripts, และ Libraries ที่ใช้ในโปรเจค MT4 ของคุณมีการรองรับใน MT5 หรือไม่ หากไม่รองรับคุณอาจต้องหาเวอร์ชันที่รองรับ MT5 หรือต้องทำการปรับปรุงโค้ดให้รองรับ
- ตรวจสอบและปรับปรุงบล็อกและเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าโปรเจคของคุณสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องใน MT5
ขั้นตอนที่ 4: การทดสอบโปรเจคใน MT5
- บันทึกโปรเจคที่แปลงเป็น MT5 ใน FXdreema
- ส่งออก EA ที่สร้างจาก FXdreema ไปยังแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ของคุณ
- ทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) และทดสอบเดินหน้า (Forward Testing) ใน MT5 เพื่อให้แน่ใจว่า EA ของคุณทำงานได้ตามที่คาดหวัง
คำแนะนำเพิ่มเติม
- การใช้ Custom Indicators และ Scripts: ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Custom Indicators และ Scripts ที่ใช้ในโปรเจค MT4 ของคุณมีเวอร์ชันที่รองรับใน MT5 หากไม่มี คุณอาจต้องทำการปรับปรุงโค้ดเองหรือหาทางเลือกอื่น
- การตั้งค่า Timeframes และ Symbols: MT5 รองรับ Timeframes และ Symbols มากกว่า MT4 ดังนั้นคุณอาจต้องทำการปรับปรุงการตั้งค่าเหล่านี้ในโปรเจคของคุณ
- การทดสอบและการแก้ไขปัญหา: ทำการทดสอบอย่างละเอียดเพื่อหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการแปลงโปรเจค และทำการแก้ไขปัญหาตามความจำเป็น
ตัวอย่างการแปลงบล็อกการเทรด
หากคุณมีบล็อกการเทรดที่ใช้ Indicator เฉพาะใน MT4 คุณอาจต้องทำการปรับปรุงโค้ดเล็กน้อยเพื่อให้รองรับ MT5 เช่น:
double ma = iMA(NULL, 0, 14, 0, MODE_SMA, PRICE_CLOSE, 0); if (ma > Close[1]) { OrderSend(Symbol(), OP_BUY, 0.1, Ask, 3, 0, 0, "Buy Order", 0, 0, Blue); }
1.3 ภาพรวมของการใช้งานและหน้าต่างโปรแกรม
การใช้งาน FXdreema เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Expert Advisor (EA) และ Scripts ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม โดยการใช้งานผ่านทางเว็บเบราเซอร์ทำให้การบันทึกข้อมูลเป็นไปโดยอัตโนมัติและสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในหัวข้อนี้ เราจะพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับหน้าหลักและคำอธิบายส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม
1.3.1 หน้าหลักมีอะไรบ้าง
หน้าหลักของ FXdreema จะแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้:
- (ส่วนที่ 1) ส่วนจัดการโปรเจค (Project Management)
- การสร้างโปรเจคใหม่ (Project): ผู้ใช้งานสามารถเริ่มสร้างโปรเจคใหม่ได้จากหน้าเมนูหลัก
- การบันทึกโปรเจคที่มีอยู่(Project): ระบบจะทำการบันทึกโปรเจคที่กำลังทำงานอยู่โดยอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้งานสามารถบันทึกโปรเจคด้วยตนเองได้
- การนำเข้าและส่งออกโปรเจค(Project): รองรับการนำเข้าโปรเจคจากไฟล์และการส่งออกโปรเจคเพื่อใช้ในเครื่องมืออื่น ๆ
- การแชร์โปรเจค(Project): ผู้ใช้งานสามารถแชร์โปรเจคกับผู้อื่นได้ง่ายดาย
- การสร้างอินดิเคเตอร์ (My Indicator): ระบบรองรับการสร้างและใช้งานอินดิเคเตอร์ที่ผู้ใช้งานกำหนดเอง
- การจัดการโปรไฟล์และแพ็คเกจ (Profile): ผู้ใช้งานสามารถจัดการแพ็คเกจการใช้งานและโปรไฟล์ของตนเองได้
- การตั้งค่าและออปชัน(Option): รองรับการกำหนดค่าและออปชันต่าง ๆ ของโปรเจคตามความต้องการของผู้ใช้งาน
- (ส่วนที่ 2) หน้าต่างเหตุการณ์ (Events)
- on Init: ประกาศตัวแปร ค่าต่าง ๆ ที่ตั้งไว้เพียง 1 รอบเมื่อเริ่มต้นการทำงาน
- on Timer: ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่ต้องการควบคุมด้วยเวลา
- on Tick: ทำงานทุก ๆ Tick ของกราฟราคาตามลำดับที่กำหนด
- on Trade: จัดการเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับออเดอร์ เช่น การเปิดออเดอร์ การปิดออเดอร์
- on Chart: เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นที่หน้ากราฟเทรด เพื่อปรับแต่งการแสดงผลต่างๆ มีบล็อกพิเศษเพิ่มเติมให้ใช้เฉพาะในหน้าต่างนี้
- on Deinit: ทำงานเมื่อจบการทำงานของ Expert Adviser (EA) และ Script (SC)
- (ส่วนที่ 3) ส่วนฟังก์ชันการใช้งานบล็อก (Block Functionality)
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่รวบรวมฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบของบล็อกสำเร็จรูป โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มของระบบ (System) และกลุ่มที่ผู้ใช้สามารถสร้างบล็อกใช้งานเองได้ (Custom)
- New– ส่วนของชื่อ project สามารถแก้ไขชื่อของโปรเจ็กต์ได้ พร้อมทั้งบอกจำนวนการใช้บล็อกและจำนวนการเชื่อมโยงบล็อก
- Constants (Inputs) – ใช้สำหรับกำหนดค่าคงที่หรือตัวแปรคงที่ ซึ่งเป็นค่าที่ใช้ในฟังก์ชันแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้ แต่สามารถกำหนดค่าใหม่ได้
- Variables – ใช้สำหรับกำหนดค่าตัวแปรผันแปรที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในฟังก์ชัน
- (ส่วนที่ 4) ส่วนชุมชนและตัวอย่าง (Community and Examples)
- เว็บบอร์ด (Forum) : ส่วนชุมชนที่มีคนมาตอบคำถาม หรือ ถามคำถาม (ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ)
- ตัวอย่างการใช้งาน (How to): มีตัวอย่างการใช้งานจากผู้พัฒนาให้ศึกษาและนำไปปรับใช้
- ประวัติการแก้ไข (History): ระบบจะบันทึกประวัติการแก้ไขของโปรเจค และสามารถย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้
- ตัวเลือกเพิ่มเติม (รูปประแจ): มีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการปรับแต่งโปรเจค
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง