โจ ลูกอีสาน ประวัติคุณอนุรักษ์ บุญแสวง

โจ ลูกอีสาน เป็นฉายาของนักลงทุนหุ้นชื่อดังของประเทศไทย ชื่อจริง คือ คุณอนุรักษ์ บุญแสวง สร้างพอร์ตจากเริ่มต้นหลักแสนบาท สู่พอร์ตหลักร้อยล้านบาท โดยใช้เทคนิคการเทรดหุ้นแบบ Value Investor หรือ VI อีกทั้งปี 2558 ยังเคยเป็นนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่าของประเทศไทย

โจ ลูกอีสาน

ฉายาโจ ลูกอีสาน เกิดขึ้นจากการใช้ชื่อ Login ในเว็บไซต์ Thaivi ซึ่งรวมกับชื่อเล่นชื่อ โจ จึงได้ฉายาว่า โจ ลูกอีกสาน เหตุผลที่ใช้ชื่อ ลูกอีสาน มาจากคุณโจ อ่านหนังสือเรื่อง “ลูกอีสาน” ของคุณคำพูน บุญทวี แล้วชื่นชอบเป็นอย่างมาก จึงนำมาตั้งเป็นนามแฝง

  • เคยทำกำไรสูงถึง 60% ต่อปี กำไรเฉลี่ยต่อปีของคุณโจคือ 50%ต่อปี
  • ใช้เวลา 12 ปีในการทำกำไร 400 เท่า
  • 1 ใน 10 นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศ
  • เริ่มลงทุนในตลาดหุ้นปี 2543 ด้วยเงินเริ่มต้น 50,000 บาท
  • คุณโจเติบโตมากับมีแนวคิดว่า คนจนก็เล่นหุ้นได้
  • ปัจจุบันมูลค่าพอร์ตลงทุนรวมประมาณ 150 ล้านบาท
  • เป้าหมายในการลงทุนคือ บริหารจัดการพอร์ตให้ได้กำไร 20% ต่อปี ติดต่อกันทุก ๆ ปี

คุณอนุรักษ์ บุญแสวง

  • ความเชี่ยวชาญ: การลงทุนหุ้น
  • เทคนิคลงทุน: VI
  • บทสัมภาษณ์:

โจ ลูกอีสาน ประวัติ

คุณอนุรักษ์ บุญแสวง หรือฉายา โจ ลูกอีสาน พื้นเพเป็นคนจังหวัดพังงา ด้วยความที่ทางบ้านฐานะไม่ดี คุณโจจึงต้องทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อช่วยแม่และพี่ชายหาเงินมาจุนเจือครอบครัว น้องเป็ดได้แบ่งรายละเอียดประวัติของคุณโจ ดังต่อไปนี้

ประวัติครอบครัว

คุณโจเติบโตมาในครอบครัวฐานะค่อนข้างยากจน สูญเสียบิดาขณะที่คุณโจอยู่ในวัยประมาณ 12 ปี เติบโตมากับมารดา คุณโจมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยคุณโจเป็นลูกคนที่ 2

  • บิดา : เสียชีวิต
  • มารดา : อาชีพขายของชำ

ปัจจุบันคุณโจ อาศัยอยู่บ้านพักข้าราชการของภรรยา ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในปี 2022 คุณโจ มีอายุ 48 ปี แต่งงานแล้ว มีลูกกับภรรยา 3 คน ลูกชาย 2 คนและลูกสาวคนสุดท้อง 1 คน

ประวัติการศึกษา

คุณโจ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลา คณะวิทยาศาสตร์ สาขาอุตสาหกรรมอาหาร จากนั้นเรียนจบปริญญาโท สาขาการเงินและการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

  • ปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยสงขลา (Food Science)
  • ปริญญาโท : มหาวิทยาลัยรามคำแหง (บริหารธุรกิจ)

คุณโจ อยากเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงการณ์ ในระดับปริญญาตรี แต่สอบไม่ติด จึงต้องเรียนที่มหาวิยาลัยสงขลา คณะวิทยาศาสตร์แทน

ประวัติการทำงาน

คุณโจ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ขณะที่เรียนระดับปริญญาตรีคุณโจทำงานให้กับบริษัทขายเครื่องใช้สำนักงานและกล้องถ่ายรูป มีประวัติการทำงานดังนี้

  • ปี 2541 : ร้านอาหารเกาหลีในสหรัฐอเมริกา ตำแหน่ง ผู้ช่วยพ่อครัว
  • นักเทรดหุ้น

ประวัติการลงทุน

จุดเริ่มต้นการลงทุนของคุณโจ เกิดมาจากช่วงมัธยมปลายได้ย้ายไปอยู่บ้านญาติที่กรุงเทพฯ แถวลาดพร้าว ได้ยินพี่ชายคุยกับคุณปู่ เกี่ยวกับการขอลาออกจากงานประจำมาเทรดหุ้น ซึ่งขณะนั้นคุณโจสะดุดใจจากการได้ยินประโยคที่พี่ชายพูดว่า “ไม่ต้องทำอะไรเลยก็มีเงินใช้”

หลังจากวันนั้นคุณโจได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นมากมายควบคู่ไปกับการอ่านหนังสือเรียน ซึ่งนอกเหนือจากหนังสือหุ้นและหนังสือเรียนแล้ว คุณโจไม่อ่านหนังสืออย่างอื่นเลย ช่วงที่เรียนอยู่ระดับปริญญาตรี 4 ปี คุณโจอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจทั่วโลกในช่วงเย็นของทุก ๆ วัน

คุณโจเริ่มลงทุนในหุ้นครั้งแรกหลังจบการมหาวิทยาลัยสงขลาประมาณ 3 ปี เงินเก็บระหว่างเรียนปริญาตรี จำนวน 50,000 บาท นำเงินของทั้งหมดของแม่ประมาณ 100,000 บาท และเพื่อนสนิทร่วมลงทุน 150,000 บาท รวมเงินทั้งหมด 300,000 บาท มาลงทุนในหุ้น

ช่วงที่คุณโจเปิดพอร์ตลงทุนหุ้นครั้งแรก เป็นช่วงหลังจากวิกฤษตเศราฐกิจต้มยำกุ้ง โดยเปิดบัญชีหุ้นครั้งแรกกับบล.เกียรตินาคิน หุ้นตัวแรกที่ซื้อ คือ S-One ราคาเข้าซื้อ 11.30 บาท ถือหุ้นไว้ประมาณ 1 ปี ขายหุ้นไปในราคา 5.80 บาท ขาดทุนประมาณ 51%

หลังจากขาดทุนและแบกรับความผิดหวัง คุณโจเหลือเงินในพอร์ตจำนวน 120,000 บาท จึงแบ่งกับเพื่อนคนละครึ่ง นับเป็นการลงทุนครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจ หลังจากขาดทุนยับเยินคุณโจ ยังไม่ยอมแพ้ ได้ศึกษาเกี่ยวกับหุ้นเพิ่มเติม

คุณโจใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติมขณะที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ 3 ปี โดยศึกษาเกี่ยวกับเส้นเทคนิคเป็นเวลาครึ่งปี ก่อนจะมาอ่านเจอบทความของคุณ Peter Eric Dennis จดจำประโยค “คนไทยต่อคิวซื้อธนบัตร ดอกเบี้ยปีละ 6% ในขณะที่หุ้นดีของไทยจ่ายปันผล 10% ทุกปี ทำไมไม่ซื้อ” ได้ขึ้นใจ

หลังจากนั้นคุณโจก็เรียนรู้จากคุณ Paul A. Renaud ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยและแถบเอเชีย อีกทั้งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ thaistock ซึ่งคุณพอลจะสอนให้ซื้อหุ้นขนาดเล็ก และพิจารณาพื้นฐานของกิจการ ซึ่งก็คือการเลือกหุ้นแบบ VI นั่นเอง

ต่อมาฝากเงินเข้าพอร์ตหุ้นทุกเดือน เดือนละ 1,000 USD เพื่อซื้อหุ้นเข้าพอร์ต เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ หุ้นในช่วงนั้นจึงมีราคาที่ ถูกมาก พอร์ตลงทุนขณะนั้นเป็นเงินทุนเป็นของคุณโจและภรรยาคนละครึ่ง มูลค่าพอร์ตประมาณ 800,000 บาท

โดยนำเงินอย่างละครึ่งซื้อหุ้น 2 ตัว ได้แก่ VNG ซึ่งมี P/E อยู่ที่ 1.5 และ RCL ซึ่งมี P/E 2.5 ขณะนั้นคุณโจถือหุ้น 2 ตัวนี้อยู่ประมาณปีครึ่ง ราคาไม่ขยับเลย หลังจากนั้น Paul A. Renaud ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น VGN ทำให้ราคาพุ่งจาก 15 บาทไป 30 บาท

คุณโจตัดสินใจขายหุ้น VGN ทั้งหมด ทำกำไรครั้งแรกจำนวน 400,000 บาท แต่นั่นเป็นการตัดสินใจขายที่ผิด เนื่องจาก 1 ปีให้หลัง ราคา VGN พุ่งไปอีก 10 เท่า การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้คุณโจพลาดโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น ทำให้คุณโจได้บทเรียน จับหลักการ ยิ่งนานยิ่งดี

คุณโจยึดถือคำกล่างของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ว่า ดอกเบี้ย คือ สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก คุณโจใช้เวลา 7 ปี ทำผลตอบแทน 9 เท่า หลังจากนั้นอีก 5 ปี คุณโจทำผลตอบแทนได้ 400 เท่า จากมหัศจรรย์ดอกเบี้ยทบต้น คือ การเก็บกำไรไว้เป็นเงินต้น ไม่นำออกมาใช้

โจ ลูกอีสาน หุ้น

ในแต่ละปีพอร์ตของคุณโจมีการปรับเปลี่ยนไป ขณะนี้หุ้นที่คุณโจถือไว้มูลค่าสูงสุด 5 อันดับ ดังนี้

  • TPOLY : 39 ล้านบาท
  • SQ : 20 ล้านบาท
  • TCMC : 19 ล้านบาท
  • TEAMG : 10 ล้านบาท
  • SVOA : 7 ล้านบาท

แนวคิดการลงทุน

คุณโจ ใช้หลักการเลือกหุ้น คือ ซื้อกิจการที่ราคาต่ำกว่ามูลค่า คุณโจเน้นเลือกหุ้นราคาถูกคุณภาพดี และลงทุนแบบ กำไรทบต้น โดยการไม่นำเงินออกมาใช้ การนำเงินออกมาใช้เพียง 5-10% ทำให้สามารถสร้างผลกำไรที่มากขึ้นได้

ปกติแล้วคุณโจจะถือหุ้นนาน 1-3 ปี ระยะสั้นที่สุดที่ถือคือ 3 เดือนเนื่องจากกำไรถึงจุดที่คาดการณ์ไว้แล้วจึงปล่อยขาย หุ้นในพอร์ตจะอยู่ที่ 10-15 ตัว มากที่สุดคือ 19 ตัว โดยมีหุ้นหลักประมาณ 6-7 ตัว คุณโจมีความคิดว่า ถ้าหุ้นดี ราคาต้องขยับ

เราซื้อธุรกิจ ไม่ได้ซื้อหุ้น

โจ ลูกอีสาน

คุณโจยึดหลักการ กำจัดความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยการซื้อหุ้นแบบกระจายตัว ด้วยหลักคิด นั่งเก้าอี้หลายขาดีกว่าสองขา หากเกิดความผิดพลาดก็จะได้ไม่เสียหายหนักมาก หากซื้อหุ้นเพียง 1-2 ตัว หากเสียหายจะเสียหายหนัก

วิธีดูหุ้นแบบคุณโจ

คุณโจได้แบ่งกลุ่มนักลงทุน VI ในประเทศไทยออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ดังนี้

  • VI ที่เลือก หุ้นราคาถูกไว้ก่อน ไม่สนใจคุณภาพ
  • VI ที่เลือก หุ้นราคาถูก คุณภาพใช้ได้ : คุณโจ
  • VI ที่เลือก หุ้นราคาเท่าไหร่ก็ได้ คุณภาพต้องดี : ดร.นิเวศน์

คุณโจมีวิธีดูหุ้นเพื่อคัดเลือกเทรด ดังนี้

  • ราคาต่ำ ยังไม่ค่อยเป็นที่ต้องการของตลาด
  • ผลกำไรบริษัท : คุณโจบอกว่ากำไรคือ เจ้ามือตัวจริงที่สามารถดันราคาหุ้น แนวโน้มกำไรสุทธิต้องมี 20-30% ต่อปี มีสตอรี่มารองรับ
  • P/E อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ยิ่งต่ำยิ่งดี
  • อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ROE สูง คือ อยู่ในระดับมากกว่า 15%
  • กระแสเงินสดของบริษัท
  • งบดุลดี มีเงินปันผล

ทุกวันนี้คุณโจดูหุ้นและดูบทวิเคราะห์ด้วยตนเองทุก ๆ วัน เนื่องจากคุณโจเชื่อว่า การลงทุนที่ฟังคนอื่นหรือลอกคนอื่นนั้นจะทำให้ไปไม่รอด

คำแนะนำถึงมือใหม่

คุณโจแนะนำมือใหม่ คนที่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนให้ไปอ่านหนังสือ การลงทุนเหมือนการปลูกไม้ผล ปลูกแค่ปีเดียวก็ยังไม่ได้กิน เมื่อความรู้จากการอ่านหนังสือตกผลึกดีแล้วก็จะสามารถตัดสินใจเลือกหุ้นได้ภายในเวลาไม่นาน

หากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ต้องยอมปล่อยมือ อย่าฝืน ไม่มีใครชนะในการลงทุนได้ทุกครั้ง ถ้าบริษัทพื้นฐานไม่ดีจริงแล้วราคาหุ้นลง ให้ Cut loss ก่อนที่จะเสียหายหนัก

ตลาดหุ้นมีความมหัศจรรย์ สามารถพลิกชีวิตคนได้ ขอเพียงมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีวินัย ลงทุนด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง

โจ ลูกอีสาน

มือใหม่ต้องควบคุมจิตใจ ไม่ซื้อขายตามอารมณ์ของตัวเอง เช่น อารมณ์กลัว มองโลกในแง่ร้ายก็จะขายหุ้นในราคาต่ำ อารมณ์โลภ มองโลกในแง่ดีก็จะซื้อหุ้นมาในราคาสูง ถ้าเลือกหุ้นดีแล้ว มั่นใจในหุ้น ไม่หวั่นไหวไปตามตลาด รู้จักอดทน สักวันจะสำเร็จอย่างแน่นอน

โจ ลูกอีสาน pantip

ผลการค้นหาชื่อ โจ ลูกอีสาน ในเว็บบอร์ดพันทิป พบว่า คุณโจ ถูกกล่าวถึงอยู่บน Pantip เยอะมาก บ่งบอกถึงความนิยม การได้รับความสนใจ และมุมมองของผู้คนในประเทศไทยที่มีต่อคุณโจ น้องเป็ดได้รวบรวมบางส่วนมาไว้ดังนี้

เปิดคัมภีร์เซียนวีไอ ‘โจ..ลูกอีสาน' กว่าจะมีพอร์ตหุ้น ‘เลข 9 หลัก'

กระทู้พันทิป

แอบดูพอร์ตหุ้น กูรู VI ดร.นิเวศน์ อาจารย์ไพบูลย์ คุณโจลูกอีสาน

คุณโจลูกอีสานก็ยังเปลี่ยนตัวหุ้นไปเรื่อยๆเหมือนเดิมครับ นอกจาก SORKON แล้ว ตัวอื่นเปลี่ยนหมด แกมาคุยว่าเดี๋ยวนี้มีหุ้น P/E ไม่ถึง 5 เท่าด้วยนะ(ในตอนที่ซื้อ) แสดงว่า คุณโจก็เริ่มคิดไม่ออกเหมือนกันสำหรับภาวะตลาดแบบนี้ – -“ หรือไม่ก็อาจจะลุ้นว่า หุ้นที่ซื้อขายด้วยราคาถูกว่ามูลค่าทางบัญชี 50% นี่อาจจะถูก Takeover ได้เหมือนกัน (แต่เขาก็อยู่แบบนี้มานานแล้วนะ) ในปัจจุบันตามที่ผมเคยได้ยินเขาถือหุ้นอยู่ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70 ตัว

กระทู้พันทิป

พอร์ต เฮียโจ ลูกอีสาน มีถึง 500 ล้านรึยังครับ

กระทู้พันทิป

หุ้นที่คุณโจ..ลูกอีสาน ถือมันดีเหรอครับ

กระทู้พันทิป

เพิ่งรู้ว่า โจ ลูกอีสาน ลงทุนเริ่มแรกแค่ 8 แสน ..

กระทู้พันทิป