Contents
ToggleSwissquote ดีไหม
หากคุณกำลังมองหาโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ชื่อของ Swissquote ซึ่งเป็นธนาคารออนไลน์แห่งแรกของสวิตเซอร์แลนด์ ก็คงหนีไม่พ้นการพิจารณา ด้วยการได้รับใบอนุญาตให้บริการด้านการเงินเต็มรูปแบบจาก FINMA และการเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ทำให้ Swissquote ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก ที่ต่างชื่นชมในมาตรฐานการให้บริการ ความมั่นคง และผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายของแบรนด์สัญชาติสวิสแห่งนี้
ในบทความนี้ เราจะพาไปวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของ Swissquote ในฐานะโบรกเกอร์สำหรับนักลงทุนชาวไทย ว่าจะดีต่อการเทรดของเราหรือไม่ อย่างไร พร้อมแนะนำขั้นตอนการเปิดบัญชี การฝากถอนเงิน และสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนผ่านโบรกเกอร์ระดับโลกเจ้านี้ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลรอบด้านที่สุดในการเลือกพันธมิตรทางการเงินที่ใช่
โดยสรุป Swissquote เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยระดับธนาคารสวิส และพร้อมยอมรับขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าปกติในการสมัครเปิดบัญชี แม้ต้นทุนการเทรดอาจสูงกว่าโบรกเกอร์ทั่วไป แต่ก็คุ้มค่ากับการได้ลงทุนในแพลตฟอร์มคุณภาพเยี่ยม พร้อมทางเลือกในการลงทุนครบวงจร หากคุณพร้อมจะก้าวไปอีกระดับ การเปิดบัญชีกับ Swissquote ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
Swissquote คือใคร
Swissquote ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 ในเมืองกลังด์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะผู้บุกเบิกธนาคารออนไลน์รายแรกของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินแก่ลูกค้ารายย่อยทั่วโลก
- ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ และสาขาในอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร ฮ่องกง มอลตา เป็นต้น
- มีพนักงานมากกว่า 800 คน ให้บริการลูกค้าในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก
- เป็นบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SIX Swiss Exchange ตั้งแต่ปี 2000
- นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครอบคลุม ทั้ง Forex, CFD, หุ้น, ออปชัน, ETF, กองทุน, คริปโต ฯลฯ
ในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา Swissquote ได้รับการยอมรับถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของยุโรป ที่มีฐานลูกค้าและสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพิ่มขึ้นทุกปี
ทำไม Swissquote ถึงได้รับความเชื่อถือสูง
ความโดดเด่นที่ทำให้ Swissquote ได้รับการยอมรับในระดับสากล มาจากปัจจัยสำคัญหลายด้านดังนี้
- การกำกับดูแลตามกฎหมาย โดย Swissquote ได้รับใบอนุญาต Swiss banking license จาก Swiss Financial Market Supervisory Authority (FINMA) ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลอิสระที่เข้มงวดที่สุดในโลก
- ความโปร่งใสและเสถียรภาพทางการเงิน ในฐานะบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องเปิดเผยรายงานผลประกอบการให้นักลงทุนและสาธารณชนสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
- ระบบคุ้มครองเงินฝากของลูกค้า ตามกฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์ โดยแยกบัญชีลูกค้าออกจากบัญชีของบริษัทอย่างชัดเจน พร้อมประกันเงินฝากกรณีที่บริษัทล้มละลาย สูงสุด 100,000 ฟรังก์สวิส
- การเป็นสมาชิกองค์กรชั้นนำของวงการ ไม่ว่าจะเป็น Swiss Bankers Association, Swiss Funds & Asset Management Association และ Capital Market Cooperative Research Programme (CMCRC) แสดงถึงมาตรฐานในระดับโลก
ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานในอุตสาหกรรมการเงินสวิส บวกกับกลไกการกำกับดูแลที่เข้มงวด ทำให้ลูกค้าของ Swissquote สามารถไว้วางใจในความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการได้แม้จะอยู่ห่างไกลถึงเมืองไทยก็ตาม
ประเภทบัญชีเทรดใน Swissquote มีอะไรบ้าง
Swissquote มีบัญชีเทรดให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและขนาดเงินลงทุนของลูกค้า โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้
-
บัญชี Standard
- ฝากเงินขั้นต่ำ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- สเปรดคงที่เริ่มต้น 1.7 pips (EUR/USD)
- เลเวอเรจสูงสุด 1:100
- วงเงินซื้อขายต่อออเดอร์ 0.01 lot ขึ้นไป
-
บัญชี Premium (ยอดนิยมสูงสุด)
- ฝากเงินขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- สเปรดคงที่เริ่มต้น 1.5 pips (EUR/USD)
- เลเวอเรจสูงสุด 1:100
- วงเงินซื้อขายต่อออเดอร์ 0.1 lot ขึ้นไป
-
บัญชี Prime
- ฝากเงินขั้นต่ำ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- สเปรดลอยตัวเริ่มต้น 0.8 pips (EUR/USD)
- เลเวอเรจสูงสุด 1:100
- วงเงินซื้อขายต่อออเดอร์ 0.1 lot ขึ้นไป
-
บัญชี Professional
- สำหรับองค์กรหรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด
- เงื่อนไขการซื้อขายและค่าธรรมเนียม เป็นไปตามการเจรจากับทีมงานโดยตรง
- เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการฟีเจอร์หรือบริการพิเศษ เพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์การลงทุน
เห็นได้ว่า Swissquote มีตัวเลือกบัญชีค่อนข้างหลากหลาย แม้จะมีเงินฝากขั้นต่ำที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด แต่ก็ชดเชยด้วยสภาพคล่องที่ดีและการบริการในระดับพรีเมียม ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามระดับทุนและปริมาณการเทรดของตัวเอง
ฝากถอนเงิน Swissquote ทำได้กี่วิธี
Swissquote รองรับช่องทางการฝากถอนเงินทั้งแบบดั้งเดิมและออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลกก็ตาม
วิธีการฝากเงิน
- โอนเงินผ่านธนาคาร (Bank Transfer) ด้วยรายละเอียดบัญชีธนาคารของ Swissquote ที่ให้ไว้
- ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต (Visa, Mastercard, Maestro) มีค่าธรรมเนียม 2.5%
- โอนเงินจากกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Skrill, Neteller, PerfectMoney
วิธีการถอนเงิน
- โอนเข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าโดยตรง ผ่าน Bank Transfer (แนะนำใช้ธนาคารออนไลน์)
- ถอนผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต (Visa, Mastercard, Maestro) ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ
- กดเงินสดผ่านตู้ ATM ทั่วโลก โดยใช้บัตรเดบิตของ Swissquote มีค่าธรรมเนียมตามที่ธนาคารเจ้าของตู้กำหนด
อย่างไรก็ตาม เงินที่ฝากถอนจะต้องผ่านบัญชีที่อยู่ในชื่อของลูกค้าเท่านั้น โดยชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อที่ลงทะเบียนไว้กับ Swissquote ทั้งนี้ธนาคารผู้ให้บริการอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามแต่ละกรณี
ขั้นตอนเปิดบัญชีใน Swissquote เป็นอย่างไร
การเปิดบัญชีใน Swissquote มีหลายขั้นตอน และใช้เอกสารค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการฟอกเงินที่เข้มงวดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีลำดับดังนี้
- สมัครบัญชีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Swissquote โดยใช้อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์
- กรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ สัญชาติ แหล่งที่มาของรายได้ วัตถุประสงค์ในการลงทุน เป็นต้น
- อัพโหลดเอกสารยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทาง หรือบัตรประชาชน พร้อมเซลฟี่ถือบัตรคู่กับใบหน้า
- แนบหลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งเงินเดือนที่มีที่อยู่ตรงกับในเอกสารระบุตัวตน
- ผ่านการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลเพื่อยืนยันข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่จะสุ่มโทรหาตามเวลาที่สะดวก
- เมื่อผ่านการอนุมัติบัญชีแล้ว ให้ดำเนินการฝากเงินตามช่องทางที่กำหนด ขั้นต่ำ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ดาวน์โหลดแพลตฟอร์มเทรด เช่น MetaTrader ไปยังคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน แล้วล็อกอินเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
ทั้งนี้ระยะเวลาดำเนินการอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของเอกสารและไหวพริบในการตอบคำถาม หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อความกระจ่างได้ตลอด
Swissquote มีข้อดีอะไรบ้าง
จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ Swissquote เป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก มีดังนี้
- ความปลอดภัยและน่าเชื่อถือในระดับธนาคาร ภายใต้การกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ
- มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ด้วยทุนจดทะเบียนและปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สวิส
- ให้บริการลูกค้าไทยมายาวนานกว่า 10 ปี พร้อมฝ่ายสนับสนุนที่เข้าใจความต้องการเฉพาะ
- แพลตฟอร์มซื้อขายที่ทันสมัย รวดเร็ว เสถียร รองรับทั้ง MT4, MT5 และเว็บเทรดเดอร์
- มีสินทรัพย์ให้ลงทุนที่หลากหลาย นอกเหนือจากคู่สกุลเงิน เช่น ทองคำ, น้ำมัน, ดัชนีหุ้น, คริปโต ฯลฯ
- อนุญาตให้ใช้ Expert Advisor หรือระบบเทรดอัตโนมัติได้กับทุกบัญชี
- สเปรดต่ำ เริ่มต้นที่ 0.8 pips (สำหรับบัญชี Prime) และมีสภาพคล่องในการเทรดที่ราบรื่น
หากคุณให้ความสำคัญกับความมั่นคงและคุณภาพการให้บริการ การเทรดผ่าน Swissquote จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจและโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนได้มากขึ้น
ข้อควรระวังเกี่ยวกับ Swissquote มีอะไรบ้าง
แม้ว่า Swissquote จะมีข้อดีโดดเด่นหลายประการ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องพึงระวังบางอย่าง เช่น
- ขั้นตอนยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีที่ค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานาน เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ทั่วไป
- เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งถือว่าสูง อาจไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่มีทุนน้อย
- สเปรดและค่าธรรมเนียมการเทรดก็อยู่ในระดับสูง หากเทียบกับโบรกเกอร์ประเภท STP หรือ ECN
- ไม่มีโบนัสเงินฝากหรือโปรโมชั่นพิเศษให้บ่อยเท่าเจ้าอื่นๆ อาจจูงใจลูกค้าได้น้อยกว่า
- การฝากถอนเงินมีขั้นตอนเยอะและอาจเสียเวลา โดยเฉพาะการโอนระหว่างประเทศ
- ไม่มีบริการเปิดบัญชีประเภท Cent หรือ Micro ที่ฝากขั้นต่ำเพียงไม่กี่ดอลลาร์
ถึงแม้ Swissquote จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ แต่สำหรับนักลงทุนที่มีงบประมาณและต้องการความมั่นคงสูงสุด ก็ยังถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เน้นเทรดระยะสั้นและต้องการต้นทุนที่ต่ำที่สุด อาจต้องพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ประเภทอื่นที่เหมาะกับสไตล์ตัวเองมากกว่า
Swissquote ดีกว่าโบรกเกอร์ไทย อย่างไร
จากรีวิวของเทรดเดอร์ชาวไทยในกระทู้ Pantip หลายคนมีความเห็นว่า การเทรดผ่าน Swissquote นั้นได้เปรียบโบรกเกอร์ท้องถิ่น ในแง่ต่อไปนี้
- มีความปลอดภัยและมาตรฐานในระดับสากล ทั้งระบบป้องกันการฉ้อโกง ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และระบบการเก็บรักษาเงินทุนลูกค้าที่เป็นสากล
- สามารถเทรดคู่สกุลเงินได้หลากหลายกว่า โดยเฉพาะคู่เงินรองและคู่เงินแปลกใหม่ที่มีความผันผวนมาก
- ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชันสำหรับเทรดปริมาณสูง เริ่มต้นต่ำกว่าและคงที่กว่า
- แพลตฟอร์ม MT4 มีความเสถียรและตอบสนองไวกว่า รองรับจำนวนออเดอร์และปริมาณการเทรดพร้อมกันได้ดีกว่า
- มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคให้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน ไม่มีการตัดฟีเจอร์ออก
- อนุญาตให้ใช้ EA หรือระบบเทรดอัตโนมัติได้อย่างอิสระ ไม่มีการจำกัดหรือเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม Swissquote ก็อาจด้อยกว่าคู่แข่งในไทยบางประการ เช่น การที่มีสำนักงานอยู่ต่างประเทศ ทำให้การสื่อสารหรือขอความช่วยเหลืออาจไม่สะดวกเท่า หรือไม่มีการจัดสัมมนาความรู้และกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นภาษาไทยให้บ่อยเท่าที่นี่ ซึ่งอาจขาดความรู้สึกผูกพันระหว่างโบรกเกอร์กับลูกค้า
สรุป: Swissquote โบรกเกอร์ระดับโลกที่เหมาะกับใคร
จากข้อมูลที่ได้กล่าวไปทั้งหมด หากคุณเป็นนักลงทุนชาวไทยที่มีเงินทุนจำนวนหนึ่ง (ขั้นต่ำ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) และต้องการความมั่นคงปลอดภัยสูงสุดในระดับสากล การเปิดบัญชีกับ Swissquote ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
เพราะนอกจากชื่อเสียงอันยาวนานในฐานะแบรนด์การลงทุนของสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยและระบบการกำกับดูแลที่ดีที่สุดแล้ว Swissquote ยังมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Forex CFD หุ้น ฟิวเจอร์ส คริปโต และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเครื่องมือและแพลตฟอร์มการเทรดที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ลื่นไหลและรวดเร็ว ไม่แพ้โบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่นๆ เลย
อย่างไรก็ตาม ความเข้มงวดในการเปิดบัญชีและค่าธรรมเนียมการเทรดที่ค่อนข้างสูง ก็ถือเป็นอุปสรรคที่หลายคนอาจรับไม่ได้ โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจและมีทุนไม่มากนัก การเริ่มต้นเส้นทางเทรดกับโบรกเกอร์ในไทยที่มีค่าบริการถูกกว่า แล้วค่อยย้ายมาใช้ Swissquote ในภายหลังเมื่อทักษะและความพร้อมทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ก็นับเป็นอีกหนึ่งแผนการที่ดี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระยะเวลาในการลงทุนของแต่ละคน
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้บริการ Swissquote หรือโบรกเกอร์ Forex เจ้าอื่นก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องศึกษาหาความรู้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ วางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ และมีวินัยในการจัดการความเสี่ยง เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน การมีโบรกเกอร์ที่ดีเป็นแค่จุดเริ่มต้น ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นอยู่กับฝีมือและความพยายามของนักลงทุนอย่างเราเองเป็นสำคัญ
FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง