วิเคราะห์ทองคำ FOREX XAUUSD วันที่ 10/07/2023

การวิเคราะห์ทองคำ (Gold Analysis) หรือ XAUUSD ให้แตกฉานนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องมีทักษะของการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานได้ เพราะการวิเคราะห์ข่าวทองคำมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหลายข่าวสารสามารถมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ข้อมูลหรือข่าวเหล่านี้รวมถึง:

  • ข้อมูลเศรษฐกิจมาโคร: ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ เช่น การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ย, การเปลี่ยนแปลงในอัตราการเงินเฟ้อ (CPI) และข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่น ๆ อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอาจส่งผลให้ราคาทองคำลดลง เนื่องจากทองคำไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนหันไปสู่สินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนที่มากกว่า เช่น พันธบัตร
  • การเปลี่ยนแปลงในความเสี่ยงทางการเมือง: ข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง เช่น สงคราม, การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลหรือความไม่มั่นคง อาจส่งผลให้ราคาทองคำขึ้น เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นที่ประจำใจในเวลาที่มีความไม่แน่นอน
  • ความผันผวนของสกุลเงิน: ราคาทองคำมักจะขึ้นและลงในทางตรงกันข้ามกับค่าของดอลลาร์สหรัฐ เมื่อดอลลาร์สหรัฐเพิ่มความแข็งแกร่ง, ทองคำมักจะลดลงในราคา และเมื่อดอลลาร์สหรัฐเสื่อมความแข็งแกร่ง, ราคาทองคำมักจะขึ้น
  • ข้อมูลภาคจำนวน: รายงานเกี่ยวกับการผลิต, อุปสงค์ และสต็อกทองคำจะมีผลต่อราคา ส่วนที่เกินจากอุปสงค์และความสามารถในการผลิตสามารถส่งผลให้ราคาทองคำขึ้น

ดังนั้นการวิเคราะห์ข่าวทองคำจึงเป็นส่วนสำคัญของการทำนายการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และมันจะช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือขายทองคำ

 

  1. แนวโน้มทองคำทิศทางตลาด

วิเคราะห์แนวโน้มทองคำทิศทางตลาด จันทร์ อังคาร พุธ กรกฎาคม 2566

  • แนวโน้มในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ถ้ามองในมุมกว้าง ตลาดยังคงมีเทรนด์ Sideway มีสภาวะที่ Pattern ของราคากลับไปกลับมา
  • แต่ก็ยังแตะชน เขตของแนวรับแนวต้าน ทำให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ เกร็งกำไรได้
  • มาถึงสัปดาห์นี้ หากมีออร์ค้างอยู่ อาจจะสามารถปิดออร์เดอร์ที่ค้างอยู่ได้ เมื่อสภาวะราคา หรือกราฟที่เราเห้นนั้นชนที่แนวต้านแล้ว
  • หากต้องการปล่อยกราฟต่อ ควรตั้ง TP และ SL ร่วมด้วย เพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตในระยะยาว
  • จากการณ์คาดการณ์ สภาวะราคา กราฟราคานั้นนั้นวันจันทร์ที่จะถึง อาจจะสามารถชนที่แนวต้าน นั้นคือจุดที่เทรดเดอร์ ทำกำไรได้
  • ข้อสังเกตเพิ่ม คือ เมื่อกราฟเปลี่ยนเทรนด์ ในแต่ละวันควรดูจุดที่เป็นแนวรับ แนวต้านเพิ่มด้วย หากเทรนด์เปลี่ยนกระทันหัน หรือเจอภาวะข่าวแรง กราฟอาจจะกลับตัวได้ง่าย และรวดเร็ว
  • ควรจะตั้ง Stop จุดขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ด้วย ทั้งในสภาวะขาดทุน และ สภาวะได้กำไร
  • ส่วนการตั้ง TP (Take Profit) เสมือนว่า การที่ขายของแพงก่อน เพื่อไปซื้อคืนในราคาถูก (การวิเคราะห์ว่าราคาจะลงในอนาคต แต่ต้องขายก่อนนั้นเอง)
  • การหาจังหวะทำกำไรซื้อขาย ควรต้องรอให้แท่งเทียนแตะที่แนวใดแนวหนึ่ง จะเป็นแนวรับหรือแนวต้านก็ได้ ไม่ควรเข้าออร์เดอร์ช่วงกลาง และไม่ควร overtrade หากไม่มั่นใจจริงๆ

 

  1. คาดการณ์แนวรับแนวต้าน ทองคำ

การคาดการณ์แนวรับแนวต้าน ทองคำ จันทร์ อังอาร พุธ กรกฎาคม 2566

  • สำหรับการคาดการณ์แนวรับแนวต้าน ในกราฟ 4 ชั่วโมง เพื่อดูว่าสามารถเข้าเทรดจุดใดมีความได้เปรียบสามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้
  • ราคาปัจจุบัน อยู่ที่ 56 เหรียญต่อ ออนซ์ ถือว่า กราฟแท่งเทียนได้ทะลุแรวรับ ของสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว
  • แนวรับอยู่ที่ประมาณ ≈ 20 เหรียญต่อ ออนซ์
  • แนวต้านอยู่ประมาณ ≈ 29 เหรียญ ต่อ ออนซ์
  • เทรดเดอร์ควรทำการวิเคราะห์จุดกลับตัวต่อไป

 

  1. ข่าวที่สำคัญที่กำลังจะมาถึง

(ข่าวอ้างอิงจาก www.forexfactory.com)

ระดับความรุนแรงมี 3 ระดับ

  • 🟡   คือ ข่าวธรรมดา
  • 🟠   คือ ข่าวส่งผลปานกลาง
  • 🔴   คือ ข่าวส่งผลรุนแรง

 

3.1 ข่าววันจันทร์ (10/07/2023)

เหตุการณ์
รายงานผล
ข่าว
Building Permits m/m
ระดับความรุนแรง
🟡ข่าวส่งผลธรรมดา
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก
7.3%
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า
-18.8%
วันที่ข่าวออก
จันทร์ 10 กรกฎาคม 2566
เวลาข่าวออก
19:30 น. เวลาประเทศไทย

สรุปข่าววันจันทร์

“Building Permits m/m” หรือ “รายงานอนุญาตการก่อสร้างแบบเดือนต่อเดือน” เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) ของสหรัฐอเมริกา หมายถึงจำนวนครั้งในการอนุญาตให้ก่อสร้างใหม่ที่มีการขอในเดือนนั้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของภาคการก่อสร้างทั้งในอดีตและในอนาคต

  • “Building Permits m/m” นั้นหมายถึงการเปรียบเทียบระหว่างจำนวนอนุญาตการก่อสร้างในเดือนปัจจุบันกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งถ้ามีการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
  • จะแสดงถึงสัญญาณของการขยายตัวของภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม
  • สำหรับนักลงทุน การตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพความเข้มแข็งของภาคการก่อสร้างซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม และสามารถมีผลกระทบต่อราคาหุ้น สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ และอัตราดอกเบี้ย

ทิศทางของข่าว

  • จากข่าวส่งผลกระทบค่าเงิน ระดับธรรมดา
  • ระดับข่าวเป็นระดับธรรมดา อาจมีผลกระทบน้อย ทำให้เทรนค่าเงินไม่เปลี่ยนแปลง
  • หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน CAD

3.2 ข่าววันอังอาร (11/07/2023)

เหตุการณ์
รายงานผล
ข่าว
NFIB Small Business Index
ระดับความรุนแรง
🟡ข่าวส่งผลธรรมดา
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก
89.9
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า
89.4
วันที่ข่าวออก
อังคาร 10 กรกฎาคม 2566
เวลาข่าวออก
17:00 น. เวลาประเทศไทย

สรุปข่าววันอังอาร

NFIB Small Business Index หรือ National Federation of Independent Business Small Business Optimism Index คือ สำรวจความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกาที่สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) ของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ ค่าที่ได้จากการสำรวจนี้จะรวมถึงปัญหาที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเผชิญ เช่น สภาพเศรษฐกิจทั่วไป ความยากลำบากในการจ้างงาน และความยากลำบากในการขยายธุรกิจ

  • การสำรวจ NFIB Small Business Index ถูกจัดทำขึ้นเพื่อวัดความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ค่าที่สูงของ NFIB Small Business Index หมายความว่าธุรกิจขนาดเล็กมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม
  • แต่ในขณะเดียวกัน ค่าที่ต่ำของ NFIB Small Business Index จะแสดงว่าธุรกิจขนาดเล็กมีความเชื่อมั่นน้อยในเศรษฐกิจ สิ่งนี้อาจจะสะท้อนถึงความท้าทายในเศรษฐกิจที่จะมาถึง ซึ่งนักลงทุนควรจะให้ความสนใจ

ทิศทางของข่าว

  • การประกาศข่าวเรื่อง NFIB Small Business Index ถือว่าเปลี่ยนแปลงไม่มาก เป็นข่าวระดับธรรมดา ส่งผลให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่มีผลกระทบมากมาย
  • หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน USD

 

3.3 ข่าววันพุธ (12/07/2023)

เหตุการณ์
รายงานผล
ข่าว
CPI m/m
ระดับความรุนแรง
🔴 ข่าวส่งผลรุนแรง
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก
0.3%
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า
0.1%
วันที่ข่าวออก
พุธ 12 กรกฎาคม 2566
เวลาข่าวออก
19:30 น. เวลาประเทศไทย

สรุปข่าว ข่าววันพุธ

CPI m/m หรือ Consumer Price Index month on month คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับบริการและสินค้าระหว่างเดือนนี้และเดือนก่อนหน้านี้ ในเทอมของสหรัฐอเมริกา, ข้อมูลนี้จะถูกเผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics)

  • CPI เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด มันช่วยให้เราสามารถวัดระดับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ หรือเราเรียกว่า “อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาผู้บริโภค” หรือ “อัตราเงินเฟ้อ”
  • ถ้า CPI m/m เพิ่มขึ้น หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
  • หาก CPI m/m ลดลง หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ตัวเลข CPI m/m ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน, เช่น อัตราดอกเบี้ย, ราคาหุ้น, และค่าเงิน เนื่องจากมันช่วยให้ธนาคารกลางสามารถประเมินว่ามีแนวโน้มการเร่งด่วนของการเงินเฟ้อหรือไม่

ทิศทางของข่าว

  • ตัวเลข Factory Orders m/m ถือว่าเปลี่ยนแปลงมาก และเป็นข่าวที่ถูกจับตามมองเป็นข่าวที่รุนแรงส่งผลต่อค่าเงิน
  • CPI m/m ถูกคาดการณ์ไว้มากกว่าเดือนที่แล้ว 2% หากเป็นไปตามนั้นจริงๆ นั้น หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิม
  • หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน USD
  • เป็นระดับข่าวเป็นข่าวรุนแรง มีผลกระทบมาก

 

  1. คำแนะนำในการเทรด
  • หากยังไม่ได้ออร์เดอร์ที่ถืออยู่ มีโอกาสเข้าเทรดที่แนวต้าน ราคา 29 ซึ่งคือ การส่งออร์เดอร์แบบ Sell Limit ไว้ ตรงเส้นปะสีน้ำเงิน
  • เทรดเดอร์บางคน หากตามข่าวจากการวิเคราะห์ ข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจจะเข้าเทรดที่แนวรับ ราคา 20 ซึ่ง คือ การส่งออร์เดอร์แบบ Buy ไปแล้ว
  • อาจจะตั้ง Pending ไว้ก่อนอยู่แล้วในจุดนั้น โดยส่งคำสั่ง Buy Limit เพื่อให้ราคามาชนและดีดกลับ ตรงลูกศรชี้สีเขียวนั้น
  • หากเป็นไปตามการคาดการณ์จากสัปดาห์ที่ผ่านมา เท่ากลับ คุณได้ถือ ออาร์เดอร์ Buy อยู่ และคุณสามารถปิดออร์เดอร์ได้แล้ว สังเกตได้จากใส่แท่งเทียนที่ยาวเลย แนวต้านไปแล้ว
  • แต่หากยังไม่ได้ปิด ให้รอดูวันที่กำลังจะมาถึง กราฟอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น
  • สำหรับวิธีการตั้ง Pending ราคา ควรตั้งต่ำกว่าเส้น แนวรับเล็กน้อยเพราะ เส้นแนวรับคือ ราคามาชน
  • แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถทะลุลงมา (Breakout) ด้านล่างได้ เราจึงต้องทำการตั้งเผื่อ
  • นี่คือ วิธีการตั้งจุดเข้าที่ดี สำหรับเทรดเดอร์ เพราะจะทำให้ได้ Risk Reward สูง

ข้อสังเกต

  • สำหรับการตั้ง Stoploss ต้องตั้ง Stoploss โดยราคาคาดการณ์คือ 200 Point หรือ 20 Pip จากราคาเข้าเทรด เราสามารถตั้ง Stop loss ไว้ต่ำกว่า เส้นเข้าเทรดได้ไม่ต้องมาก เพราะการเทรดนี้แม่นยำสูง
  • ตั้ง Take Profit ไว้ที่แนวต้าน เดิมในกรอบ Time Frame 4H
  • การตั้ง Take Profit ควรตั้งไว้ที่แนวราคาปิด (คือ แนวราคา แนวต้าน) ซึ่งไม่ควรตั้งที่ปลายไส้ (ตามเส้นสีน้ำเงินด้านบน (ในภาพ) เพื่อให้ชนราคา Take Profit แน่นอน

*หมายเหตุ ควรตั้ง Stoploss ในการเทรดทุกครั้ง