การวิเคราะห์ทองคำ (Gold Analysis) หรือ XAUUSD ให้แตกฉานนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เทรดเดอร์จะต้องมีทักษะของการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานได้ เพราะการวิเคราะห์ข่าวทองคำมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหลายข่าวสารสามารถมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ข้อมูลหรือข่าวเหล่านี้รวมถึง:
- ข้อมูลเศรษฐกิจมาโคร: ข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ เช่น การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ย, การเปลี่ยนแปลงในอัตราการเงินเฟ้อ (CPI) และข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่น ๆ อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอาจส่งผลให้ราคาทองคำลดลง เนื่องจากทองคำไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนหันไปสู่สินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนที่มากกว่า เช่น พันธบัตร
- การเปลี่ยนแปลงในความเสี่ยงทางการเมือง: ข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง เช่น สงคราม, การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลหรือความไม่มั่นคง อาจส่งผลให้ราคาทองคำขึ้น เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นที่ประจำใจในเวลาที่มีความไม่แน่นอน
- ความผันผวนของสกุลเงิน: ราคาทองคำมักจะขึ้นและลงในทางตรงกันข้ามกับค่าของดอลลาร์สหรัฐ เมื่อดอลลาร์สหรัฐเพิ่มความแข็งแกร่ง, ทองคำมักจะลดลงในราคา และเมื่อดอลลาร์สหรัฐเสื่อมความแข็งแกร่ง, ราคาทองคำมักจะขึ้น
- ข้อมูลภาคจำนวน: รายงานเกี่ยวกับการผลิต, อุปสงค์ และสต็อกทองคำจะมีผลต่อราคา ส่วนที่เกินจากอุปสงค์และความสามารถในการผลิตสามารถส่งผลให้ราคาทองคำขึ้น
ดังนั้นการวิเคราะห์ข่าวทองคำจึงเป็นส่วนสำคัญของการทำนายการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และมันจะช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือขายทองคำ
1. แนวโน้มทองคำทิศทางตลาด
วิเคราะห์แนวโน้มทองคำทิศทางตลาด จันทร์ อังคาร พุธ กรกฎาคม 2566
- แนวโน้มในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ถ้ามองในมุมกว้าง ตลาดยังคงมีเทรนด์ Sideway มีสภาวะที่ Pattern ของราคากลับไปกลับมา
- แต่ก็ยังแตะชน เขตของแนวรับแนวต้าน ทำให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ เกร็งกำไรได้
- มาถึงสัปดาห์นี้ หากมีออร์ค้างอยู่ อาจจะสามารถปิดออร์เดอร์ที่ค้างอยู่ได้ เมื่อสภาวะราคา หรือกราฟที่เราเห้นนั้นชนที่แนวต้านแล้ว
- หากต้องการปล่อยกราฟต่อ ควรตั้ง TP และ SL ร่วมด้วย เพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตในระยะยาว
- จากการณ์คาดการณ์ สภาวะราคา กราฟราคานั้นนั้นวันจันทร์ที่จะถึง อาจจะสามารถชนที่แนวต้าน นั้นคือจุดที่เทรดเดอร์ ทำกำไรได้
- ข้อสังเกตเพิ่ม คือ เมื่อกราฟเปลี่ยนเทรนด์ ในแต่ละวันควรดูจุดที่เป็นแนวรับ แนวต้านเพิ่มด้วย หากเทรนด์เปลี่ยนกระทันหัน หรือเจอภาวะข่าวแรง กราฟอาจจะกลับตัวได้ง่าย และรวดเร็ว
- ควรจะตั้ง Stop จุดขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ด้วย ทั้งในสภาวะขาดทุน และ สภาวะได้กำไร
- ส่วนการตั้ง TP (Take Profit) เสมือนว่า การที่ขายของแพงก่อน เพื่อไปซื้อคืนในราคาถูก (การวิเคราะห์ว่าราคาจะลงในอนาคต แต่ต้องขายก่อนนั้นเอง)
- การหาจังหวะทำกำไรซื้อขาย ควรต้องรอให้แท่งเทียนแตะที่แนวใดแนวหนึ่ง จะเป็นแนวรับหรือแนวต้านก็ได้ ไม่ควรเข้าออร์เดอร์ช่วงกลาง และไม่ควร overtrade หากไม่มั่นใจจริงๆ
2. คาดการณ์แนวรับแนวต้าน ทองคำ
การคาดการณ์แนวรับแนวต้าน ทองคำ จันทร์ อังอาร พุธ กรกฎาคม 2566
- สำหรับการคาดการณ์แนวรับแนวต้าน ในกราฟ 4 ชั่วโมง เพื่อดูว่าสามารถเข้าเทรดจุดใดมีความได้เปรียบสามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้
- ราคาปัจจุบัน อยู่ที่ 56 เหรียญต่อ ออนซ์ ถือว่า กราฟแท่งเทียนได้ทะลุแรวรับ ของสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว
- แนวรับอยู่ที่ประมาณ ≈ 20 เหรียญต่อ ออนซ์
- แนวต้านอยู่ประมาณ ≈ 29 เหรียญ ต่อ ออนซ์
- เทรดเดอร์ควรทำการวิเคราะห์จุดกลับตัวต่อไป
3. ข่าวที่สำคัญที่กำลังจะมาถึง
(ข่าวอ้างอิงจาก www.forexfactory.com)
ระดับความรุนแรงมี 3 ระดับ
- 🟡 คือ ข่าวธรรมดา
- 🟠 คือ ข่าวส่งผลปานกลาง
- 🔴 คือ ข่าวส่งผลรุนแรง
3.1 ข่าววันจันทร์ (10/07/2023)
เหตุการณ์ |
รายงานผล |
ข่าว |
Building Permits m/m |
ระดับความรุนแรง |
🟡ข่าวส่งผลธรรมดา |
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก |
7.3% |
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า |
-18.8% |
วันที่ข่าวออก |
จันทร์ 10 กรกฎาคม 2566 |
เวลาข่าวออก |
19:30 น. เวลาประเทศไทย |
สรุปข่าววันจันทร์
“Building Permits m/m” หรือ “รายงานอนุญาตการก่อสร้างแบบเดือนต่อเดือน” เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) ของสหรัฐอเมริกา หมายถึงจำนวนครั้งในการอนุญาตให้ก่อสร้างใหม่ที่มีการขอในเดือนนั้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของภาคการก่อสร้างทั้งในอดีตและในอนาคต
- “Building Permits m/m” นั้นหมายถึงการเปรียบเทียบระหว่างจำนวนอนุญาตการก่อสร้างในเดือนปัจจุบันกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งถ้ามีการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
- จะแสดงถึงสัญญาณของการขยายตัวของภาคการก่อสร้าง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม
- สำหรับนักลงทุน การตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพความเข้มแข็งของภาคการก่อสร้างซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม และสามารถมีผลกระทบต่อราคาหุ้น สินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ และอัตราดอกเบี้ย
ทิศทางของข่าว
- จากข่าวส่งผลกระทบค่าเงิน ระดับธรรมดา
- ระดับข่าวเป็นระดับธรรมดา อาจมีผลกระทบน้อย ทำให้เทรนค่าเงินไม่เปลี่ยนแปลง
- หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน CAD
3.2 ข่าววันอังอาร (11/07/2023)
เหตุการณ์ |
รายงานผล |
ข่าว |
NFIB Small Business Index |
ระดับความรุนแรง |
🟡ข่าวส่งผลธรรมดา |
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก |
89.9 |
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า |
89.4 |
วันที่ข่าวออก |
อังคาร 10 กรกฎาคม 2566 |
เวลาข่าวออก |
17:00 น. เวลาประเทศไทย |
สรุปข่าววันอังอาร
NFIB Small Business Index หรือ National Federation of Independent Business Small Business Optimism Index คือ สำรวจความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกาที่สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) ของสหรัฐอเมริกาเผยแพร่ ค่าที่ได้จากการสำรวจนี้จะรวมถึงปัญหาที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเผชิญ เช่น สภาพเศรษฐกิจทั่วไป ความยากลำบากในการจ้างงาน และความยากลำบากในการขยายธุรกิจ
- การสำรวจ NFIB Small Business Index ถูกจัดทำขึ้นเพื่อวัดความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ค่าที่สูงของ NFIB Small Business Index หมายความว่าธุรกิจขนาดเล็กมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม
- แต่ในขณะเดียวกัน ค่าที่ต่ำของ NFIB Small Business Index จะแสดงว่าธุรกิจขนาดเล็กมีความเชื่อมั่นน้อยในเศรษฐกิจ สิ่งนี้อาจจะสะท้อนถึงความท้าทายในเศรษฐกิจที่จะมาถึง ซึ่งนักลงทุนควรจะให้ความสนใจ
ทิศทางของข่าว
- การประกาศข่าวเรื่อง NFIB Small Business Index ถือว่าเปลี่ยนแปลงไม่มาก เป็นข่าวระดับธรรมดา ส่งผลให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่มีผลกระทบมากมาย
- หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน USD
3.3 ข่าววันพุธ (12/07/2023)
เหตุการณ์ |
รายงานผล |
ข่าว |
CPI m/m |
ระดับความรุนแรง |
🔴 ข่าวส่งผลรุนแรง |
คาดการณ์ตัวเลขที่จะออก |
0.3% |
ตัวเลขของเดือนก่อนหน้า |
0.1% |
วันที่ข่าวออก |
พุธ 12 กรกฎาคม 2566 |
เวลาข่าวออก |
19:30 น. เวลาประเทศไทย |
สรุปข่าว ข่าววันพุธ
CPI m/m หรือ Consumer Price Index month on month คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับบริการและสินค้าระหว่างเดือนนี้และเดือนก่อนหน้านี้ ในเทอมของสหรัฐอเมริกา, ข้อมูลนี้จะถูกเผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics)
- CPI เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด มันช่วยให้เราสามารถวัดระดับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ หรือเราเรียกว่า “อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาผู้บริโภค” หรือ “อัตราเงินเฟ้อ”
- ถ้า CPI m/m เพิ่มขึ้น หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
- หาก CPI m/m ลดลง หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
ตัวเลข CPI m/m ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน, เช่น อัตราดอกเบี้ย, ราคาหุ้น, และค่าเงิน เนื่องจากมันช่วยให้ธนาคารกลางสามารถประเมินว่ามีแนวโน้มการเร่งด่วนของการเงินเฟ้อหรือไม่
ทิศทางของข่าว
- ตัวเลข Factory Orders m/m ถือว่าเปลี่ยนแปลงมาก และเป็นข่าวที่ถูกจับตามมองเป็นข่าวที่รุนแรงส่งผลต่อค่าเงิน
- CPI m/m ถูกคาดการณ์ไว้มากกว่าเดือนที่แล้ว 2% หากเป็นไปตามนั้นจริงๆ นั้น หมายความว่าราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิม
- หากค่า “จริง” (Actual) มากกว่า “พยากรณ์” (Forecast) นั้นดีสำหรับสกุลเงิน USD
- เป็นระดับข่าวเป็นข่าวรุนแรง มีผลกระทบมาก
4. คำแนะนำในการเทรด
- หากยังไม่ได้ออร์เดอร์ที่ถืออยู่ มีโอกาสเข้าเทรดที่แนวต้าน ราคา 29 ซึ่งคือ การส่งออร์เดอร์แบบ Sell Limit ไว้ ตรงเส้นปะสีน้ำเงิน
- เทรดเดอร์บางคน หากตามข่าวจากการวิเคราะห์ ข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจจะเข้าเทรดที่แนวรับ ราคา 20 ซึ่ง คือ การส่งออร์เดอร์แบบ Buy ไปแล้ว
- อาจจะตั้ง Pending ไว้ก่อนอยู่แล้วในจุดนั้น โดยส่งคำสั่ง Buy Limit เพื่อให้ราคามาชนและดีดกลับ ตรงลูกศรชี้สีเขียวนั้น
- หากเป็นไปตามการคาดการณ์จากสัปดาห์ที่ผ่านมา เท่ากลับ คุณได้ถือ ออาร์เดอร์ Buy อยู่ และคุณสามารถปิดออร์เดอร์ได้แล้ว สังเกตได้จากใส่แท่งเทียนที่ยาวเลย แนวต้านไปแล้ว
- แต่หากยังไม่ได้ปิด ให้รอดูวันที่กำลังจะมาถึง กราฟอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น
- สำหรับวิธีการตั้ง Pending ราคา ควรตั้งต่ำกว่าเส้น แนวรับเล็กน้อยเพราะ เส้นแนวรับคือ ราคามาชน
- แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่สามารถทะลุลงมา (Breakout) ด้านล่างได้ เราจึงต้องทำการตั้งเผื่อ
- นี่คือ วิธีการตั้งจุดเข้าที่ดี สำหรับเทรดเดอร์ เพราะจะทำให้ได้ Risk Reward สูง
ข้อสังเกต
- สำหรับการตั้ง Stoploss ต้องตั้ง Stoploss โดยราคาคาดการณ์คือ 200 Point หรือ 20 Pip จากราคาเข้าเทรด เราสามารถตั้ง Stop loss ไว้ต่ำกว่า เส้นเข้าเทรดได้ไม่ต้องมาก เพราะการเทรดนี้แม่นยำสูง
- ตั้ง Take Profit ไว้ที่แนวต้าน เดิมในกรอบ Time Frame 4H
- การตั้ง Take Profit ควรตั้งไว้ที่แนวราคาปิด (คือ แนวราคา แนวต้าน) ซึ่งไม่ควรตั้งที่ปลายไส้ (ตามเส้นสีน้ำเงินด้านบน (ในภาพ) เพื่อให้ชนราคา Take Profit แน่นอน
*หมายเหตุ ควรตั้ง Stoploss ในการเทรดทุกครั้ง