Winning Martingale คืออะไร
Winning Martingale คือ ลักษณะเป็นวิธีการที่นำเอาหลักการของ Martingale มาปรับปรุงและเน้นที่การเพิ่มกำไรในตอนที่เรากำลังทำกำไร (แนวคิดในการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันในขณะที่เรากำลังทำกำไร) ซึ่งต่างจาก Martingale ทั่วไปที่นำเอาหลักการนี้มาใช้ในการแก้ขาดทุน
การเทรดด้วยแผน “Winning Martingale” คือวิธีการประยุกต์ใช้ Strategy Martingale ในรูปแบบที่ต่างจากการใช้ในวงการพนันโดยตรง
Martingale แต่เดิมคือวิธีการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันเมื่อเสียในการพนัน ด้วยความหวังว่าในการเดิมพันครั้งถัดไปจะชนะ และคืนกำไรมาให้ แต่ถ้าเราต้องการนำเอาต้นฉบับของ Martingale มาประยุกต์ใช้ในการเทรดเพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนเมื่อกำลังได้กำไร การนี้อาจถูกเรียกว่า “Winning Martingale” หรือ “Martingale แบบได้กำไร”
ความเข้าใจเกี่ยวกับ Winning Martingale
“Winning Martingale” ไม่ได้มุ่งเน้นที่การแก้ไขออเดอร์ที่ติดลบเหมือน Martingale แต่วิธีนี้เน้นที่การเพิ่มการลงทุนเมื่อกำลังได้กำไร ด้วยเหตุผลที่ถ้าเราเชื่อว่าแนวโน้มกำลังจะดีขึ้น เราจะเพิ่มเงินลงไปเพื่อขยายกำไรที่เป็นไปได้
ตัวอย่าง
การซื้อหุ้นราคา 5 บาท 1,000 หุ้น และเมื่อราคาขึ้นเป็น 6 บาท เราก็ซื้อเพิ่ม 1,000 หุ้น หากราคาขึ้นเป็น 10 บาท กำไรจะมากกว่าการซื้อแค่ 1,000 หุ้นในราคา 5 บาทเท่านั้น
Martingale ในการเทรด คืออะไร
สูตร “Martingale” ในการเทรดหุ้นหรือตราสารการเงิน หมายถึง การใช้กลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มขนาดตำแหน่งการเทรด (position size) ทุกครั้งที่มีการทำการเทรดแล้วเกิดขาดทุน ด้วยความหวังว่า เมื่อตลาดเดินทางมาในทิศทางที่เราคาดหวัง กำไรที่ได้จากการเทรดแล้วชนะจะชดเชยสำหรับการเทรดที่ขาดทุน และยังให้กำไรเพิ่มเติม
ตัวอย่างนี้
- คุณเริ่มการเทรดด้วยการวางเดิมพัน $100 แต่คุณเสียเงินในการเทรดรอบแรก
- ในการเทรดครั้งถัดไป คุณเพิ่มเงินเทรดเป็น $200 แต่เสียเงินอีกครั้ง
- คุณตัดสินใจเพิ่มเงินเทรดเป็น $400 ในการเทรดครั้งถัดไป และครั้งนี้คุณชนะ
โดยทฤษฎี ถ้าคุณมีเงินทุนไม่จำกัด และตลาดมีการขยับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางที่คุณเคยขาดทุน เสมอ สูตร Martingale จะทำงานได้ แต่ในความเป็นจริงมีข้อเสียของการใช้สูตร Martingale ในการเทรดดังนี้
- ไม่มีเงินทุนไม่จำกัด: ซึ่งจะทำให้คุณไม่สามารถปฏิบัติตามกลยุทธ์ได้ตลอดไปหากตลาดเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับความคาดหวังของคุณเรื่อย ๆ
- จุดหยุดของตลาด: หลายตลาดมีการกำหนดจุดหยุด (stop-loss) ที่อาจทำให้คุณไม่สามารถเปิดตำแหน่งการเทรดใหม่ได้
- การเปิดตำแหน่งที่มากขึ้น: การเพิ่มขนาดตำแหน่งการเทรดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเสียเงินมากขึ้นในแต่ละการเทรด
หลักการใช้ Martingale
หลักการใช้ Martingale สามารถอธิบายได้ตามขั้นตอนดังนี้
- ตั้งค่าเริ่มต้น: กำหนดจำนวนเงินเริ่มต้นที่คุณต้องการใช้เป็นเงินเดิมพันหรือตำแหน่งเริ่มต้นในการเทรด (เรียกว่า “unit”) และตั้งค่าเป้าหมายกำไรของคุณ
- เริ่มการเดิมพัน: ใช้จำนวนเงินเริ่มต้นที่คุณตั้งค่าในข้อ 1 เพื่อเดิมพันหรือเปิดตำแหน่งเทรด
- แพ้หรือขาดทุน: หากคุณแพ้หรือเทรดแล้วขาดทุน ให้คุณเพิ่มขนาดของเงินเดิมพันหรือตำแหน่งเทรดในครั้งถัดไปให้เป็นสองเท่า (ดังนั้น หากคุณเริ่มต้นด้วย $100 ครั้งถัดไปควรเป็น $200 แล้วต่อไปเป็น $400, $800 ฯลฯ)
- ชนะหรือได้กำไร: ถ้าคุณชนะหรือได้กำไรจากการเทรด ให้คุณกลับไปเริ่มต้นเดิมพันหรือเปิดตำแหน่งเทรดด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นที่คุณกำหนดไว้ในข้อ 1
- ทำซ้ำขั้นตอน: ทำซ้ำขั้นตอนที่ 2 ถึง 4 จนกว่าคุณจะได้กำไรตามเป้าหมายหรือจนกว่าคุณจะพบว่าความเสี่ยงสูงเกินไปที่จะดำเนินการต่อ
- วิเคราะห์: หลังจากคุณเล่นเสร็จสิ้น ให้วิเคราะห์ผลการดำเนินการของคุณและตัดสินใจว่าควรที่จะเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์หรือไม่
สูตร Winning Martingale ทำกำไร เร่งกำไร ทำอย่างไร
สูตร “Winning Martingale” เป็นการปรับเทคนิค Martingale ดั้งเดิมให้เหมาะสมกับการเทรดโดยเน้นการเพิ่มขนาดการเทรดเมื่อได้กำไร ไม่เหมือนกับในเกมพนันที่เพิ่มขนาดเมื่อเสีย การเทรดแบบนี้มีวิธีดังนี้
- เริ่มต้นด้วยการเทรดขนาดเล็ก: เช่น คุณเริ่มต้นการเทรดด้วยขนาด 1 lot หรือ 1,000 หุ้น
- เมื่อได้กำไรเพิ่มขนาดการเทรด: หากคุณได้กำไรจากการเทรด lot แรก, คุณสามารถเพิ่มขนาดการเทรดในครั้งถัดไป เช่น 2 lot หรือ 2,000 หุ้น
- เมื่อได้กำไรอีกเพิ่มขนาดการเทรดต่อ: ถ้าคุณได้กำไรอีกครั้ง, คุณสามารถเพิ่มขนาดการเทรดเป็น 4 lot หรือ 4,000 หุ้น และเครื่องมือนี้จะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงขนาดที่คุณตั้งไว้หรือตามกำหนด
- หากเกิดขาดทุน: คุณควรกลับไปเริ่มต้นการเทรดด้วยขนาดเดิมที่คุณเริ่มต้น
- การจัดการความเสี่ยง: ควรมีการกำหนด Stop Loss หรือจุดที่คุณยอมรับการขาดทุน เพื่อป้องกันความเสียหายที่สูงเกินไป
วิธีการเทรดรูปแบบ Winning Martingale
การบริหารจัดการเงิน (Money Management)
- สำคัญที่สุด ต้องกำหนดจำนวนเงินหรือไม้ที่จะลงทุนได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดขนาดไม้ออเดอร์ที่เท่ากันทุกครั้ง หรือการลดขนาดไม้ออเดอร์เมื่อแต่ละครั้ง เหมือนกับ Martingale ทั่วไป คือการกำหนดจำนวนเงินที่ใช้เดิมพันแต่ละครั้ง แต่ใน Winning Martingale จะเน้นการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันเมื่อกำลังทำกำไร
กำหนดขนาดของ Order
- ต้องมีการกำหนดขนาดไม้ออเดอร์ในการเข้าให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดขนาดไม้ออเดอร์แบบเท่ากันทุกครั้งหรือการลดขนาดไม้ออเดอร์ลงเรื่อยๆ ตามสถานการณ์
กำหนดวิธีปิดออเดอร์
- ต้องมีแผนการในการออกหรือปิดออเดอร์เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพื่อป้องกันการโดนลากกลับมาเป็นขาดทุน
มีความรู้เกี่ยวกับการอ่านเทรนด์
- ต้องเข้าใจเกี่ยวกับ Swing high และ Swing low เพราะจะเน้นถือออเดอร์ระยะยาว และต้องระมัดระวังการเทรดในรูปแบบ sideway
การกำหนดระยะห่างระหว่างออเดอร์
- สามารถใช้เครื่องมือช่วยเช่น ATR ในการกำหนดระยะห่างที่เหมาะสม
เน้นถือออเดอร์ระยะยาว
- ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ การอ่าน Swing high และ swing low และการประเมินเทรนด์ เพราะการเทรดแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับการเทรดที่ราคาไม่มีเทรนด์ชัดเจน
การประยุกต์ใช้ Winning Martingale
Martingale แต่เดิมคือวิธีการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันเมื่อเสียในการพนัน ด้วยความหวังว่าในการเดิมพันครั้งถัดไปจะชนะ และคืนกำไรมาให้ แต่ถ้าเราต้องการนำเอาต้นฉบับของ Martingale มาประยุกต์ใช้ในการเทรดเพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนเมื่อกำลังได้กำไร การนี้อาจถูกเรียกว่า “Winning Martingale” หรือ “Martingale แบบได้กำไร”
ตัวอย่าง
- คุณเริ่มต้นการเทรดด้วยการซื้อหุ้น 1,000 หุ้น ด้วยราคา 5 บาทต่อหุ้น
- หากหุ้นนั้นขึ้นราคาเป็น 6 บาท คุณตัดสินใจซื้อเพิ่มอีก 1,000 หุ้น
- ถ้าหุ้นยังขึ้นต่อไป คุณก็สามารถตัดสินใจเพิ่มปริมาณการลงทุนได้ต่อเนื่อง
วิธีการนี้มีความเสี่ยงตรงที่ถ้าหุ้นเริ่มตกราคา คุณจะเสียกำไรในปริมาณที่มากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การบริหารจัดการเงินและการตั้งส่วนลดตนเป็นสิ่งสำคัญ หากดูตามวิธีการแล้วนั้น “Winning Martingale” อาจเป็นการนำ Martingale มาประยุกต์ใช้ในการเทรดด้วยการเพิ่มปริมาณการลงทุนเมื่อกำลังได้กำไร แต่ยังคงมีความเสี่ยง ดังนั้นการใช้วิธีนี้ควรเป็นสำคัญในการบริหารจัดการเงิน
ตารางเปรียบเทียบ Martingale และ Winning Martingale
คุณสมบัติ/ระบบ |
Martingale |
Winning Martingale |
หลักการ |
เพิ่มเดิมพันเมื่อแพ้ |
เพิ่มเดิมพันเมื่อชนะ |
ความเสี่ยง |
สูง (เพิ่มเดิมพัน 2 เท่าเมื่อแพ้) |
ต่ำ (แพ้แค่เสีย 1 หน่วย) |
ทุนที่ต้องการ |
สูง (อย่างน้อย 100 หน่วย) |
ต่ำ (เพียง 50 หน่วย) |
ความเสี่ยงเมื่อเสียติดๆ |
สูญเสียเงินจำนวนมากเมื่อแพ้ติดๆ |
ความเสี่ยงน้อยเมื่อเสียติดๆ |
ข้อจำกัดเดิมพันสูงสุด |
อาจชนกับเดิมพันสูงสุดของโต๊ะ |
ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเดิมพันสูงสุดของโต๊ะ |
ความซับซ้อน |
ปานกลาง |
น้อย |
จากตารางเปรียบเทียบสามารถเห็นได้ว่า Winning Martingale นั้นถูกออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงและใช้ทุนน้อยกว่า Martingale ดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้เหมาะสมกับผู้ที่ไม่ต้องการเสี่ยงเงินมาก หรือมีทุนจำกัด
ข้อดี Winning Martingale
- ความต้องการทุนน้อย: ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีเงินจำนวนมากเพื่อเริ่มต้นการเล่นตามสูตรนี้
- ความเสี่ยงต่ำ: เนื่องจากเดิมพันจะเพิ่มขึ้นเมื่อชนะเท่านั้น ทำให้มีความเสี่ยงในการเสียเงินเพิ่มขึ้นน้อยกว่าสูตร Martingale แบบดั้งเดิม
- ง่ายต่อการประยุกต์: เหมาะสำหรับเกมที่มีโอกาสชนะแพ้ประมาณ 50:50
- การจัดการเงินที่ดี: ผู้เล่นสามารถควบคุมงบประมาณของตนได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องวางเดิมพันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อแพ้
- ระบบทบทวน: เมื่อชนะ ผู้เล่นจะใช้กำไรที่ได้มาเพื่อวางเดิมพัน ช่วยในการสร้างกำไรเพิ่มเติม
- ความยืดหยุ่น: ผู้เล่นสามารถเลือกเริ่มต้นใหม่หลังจากเล่นเกมจำนวนที่กำหนด ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้
- ความสม่ำเสมอ: สูตรนี้ทำให้ผู้เล่นมีโอกาสเป็นผู้ชนะในระยะยาวมากขึ้น เนื่องจากการจัดการเงินที่ดี
- ต้องการทักษะและการตัดสินใจน้อย: ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีการตัดสินใจที่ซับซ้อนหรือการประยุกต์ใช้ทักษะพิเศษ
- ป้องกันการเสียเงินเร็ว: ในกรณีที่ผู้เล่นแพ้เกมติดต่อกัน, การวางเดิมพันไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกินกำลัง
- อารมณ์การเล่นที่ดี: ผู้เล่นสามารถรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเล่นตามสูตรนี้ ลดความรู้สึกว่าจะเสียเงินเกินไป
ข้อเสีย Winning Martingale
- ไม่รับประกันการชนะ: ไม่มีสูตรพนันใด ๆ ที่สามารถรับประกันความชนะได้ 100% Winning Martingale ก็เช่นกัน มันไม่ใช่สูตรที่สามารถทำให้คุณชนะเสมอได้
- กำไรเล็ก ๆ: เมื่อเปรียบเทียบกับสูตร Martingale แบบดั้งเดิม กำไรที่ได้รับจาก Winning Martingale อาจจะไม่มากนักในระยะสั้น
- ข้อจำกัดของเงิน: ถึงแม้จะต้องการทุนน้อยกว่าแต่ถ้าผู้เล่นแพ้ในระยะยาวหรือช่วงเวลาที่ยาวขึ้น การเสียเงินก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้น
- อารมณ์การเล่น: หากผู้เล่นต้องการความตื่นเต้นมากขึ้น สูตรนี้อาจจะไม่ให้ความรู้สึกนั้นเนื่องจากการเดิมพันเพิ่มขึ้นเมื่อชนะเท่านั้น
- เกมที่มีโอกาสชนะไม่เท่ากับ 50:50: สูตรนี้อาจไม่เหมาะสมกับเกมที่มีโอกาสชนะไม่ใกล้เคียง 50:50
- ความจำเป็นในการจัดการยาวนาน: เพื่อให้สูตรนี้ประสบความสำเร็จ ผู้เล่นอาจต้องใช้เวลาในการเล่นอย่างมีความระมัดระวังและต่อเนื่อง
- ความต้องการในการปรับเปลี่ยนสูตร: ในบางสถานการณ์ ผู้เล่นอาจต้องปรับเปลี่ยนแผนการเดิมพันเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์เกม
- สูญเสียโอกาส: การรอจนกว่าจะชนะอาจทำให้ผู้เล่นสูญเสียโอกาสในการวางเดิมพันที่มีโอกาสชนะมากขึ้น
- ความยืดหยุ่นที่น้อยกว่า: ผู้เล่นที่ใช้สูตรนี้อาจรู้สึกว่าต้องปฏิบัติตามกฎของสูตรเป็นหลัก ลดความสามารถในการตัดสินใจอิสระ
