Hedge Fund คือ กองทุนเก็งกำไรโดยใช้ผลิตภัณฑ์การเงินที่ซับซ้อนในทุกตลาดการเงิน มีชื่อภาษาไทยเรียกอีกอย่างว่า “เฮดจ์ฟันด์” ทำหน้าที่นำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในตราสารทางการเงิน ที่หลากหลาย โดยชื่อคำว่า Hedge Fund มาจากกลยุทธ์ที่ใช้คือ คำว่า Hedging
Hedging เป็นกลยุทธ์การลงทุนประเภทหนึ่งที่สามารถส่งคำสั่ง Buy หรือเรียกว่า Long และ Sell หรือเรียกว่า Short ได้ในพร้อมกัน สำหรับคนที่เทรดตลาด Forex ก็จะเห็นการ Hedge เป็นเรื่องที่ปกติอยู่แล้ว แต่คนที่เทรดมาจากตลาดหุ้น นั้นมีความแตกต่างกัน เพราะตลาดหุ้นบางตลาดจะไม่อนุญาติให้คุณ “ขายหุ้นที่คุณไม่มี” เรียกว่า Short ได้
Hedge Fund ได้รับความนิยมอย่างมากในการเป็นแหล่งการลงทุนในอเมริกา Hedge Fund ก็คือ กองทุนที่รวบรวมเงินจากนักลงทุน แล้วนำมาลงทุนอีกทอดหนึ่ง
ซึ่งมีรูปแบบกลยุทธ์แตกต่างจากกองทุนอื่น ๆ ทั่วไป ตรงที่มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจมากกว่ากองทุนรูปแบบอื่น นักลงทุนต้องมีความเข้าใจ และต้องมีใบอนุญาตที่จะสามารถลงทุนใน Hedge Fund ได้
Hedge Fund: quantum Fund
Hedge Fund กองแรกนั้นตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาชื่อ Alfred Winslow Jone ตั้งกองทุนของเขาขึ้นในปี 1949 กองทุนของเขาเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการ Hedging ในตลาดหุ้น โดยที่เขาจะ Buy หุ้นที่เขาคิดว่าจะขึ้นพร้อมกับตลาด ขณะที่เขาจะทำการ Sell หุ้นที่เขาคิดว่าจะลงในคราวเดียวกัน นี่จึงกลายเป็นที่มาของแนวคิด Hedge Fund
ผู้จัดการกองทุนที่เป็นที่รู้จักดี
เมื่อเราพูดถึงผู้จัดการกองทุนชื่อดัง คงไม่มีใครไม่รู้จัก จอร์จ โซรอส (George Soros) ผู้มีฉายาว่า “พ่อมดการเงิน” ที่ถูกขนานนามว่า โจมตีค่าเงินบาทของประเทศไทย ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยเขามีทฤษฎีการลงทุนที่ชื่อว่า Reflexivity ที่เชื่อในเรื่องของปรากฏการณ์สะท้อนกลับของทุกอย่าง โดยที่เขาจะเป็นตัวกลางให้การเกิดการโอนถ่ายของพลังงาน (เงิน) จากอีกที่หนึ่ง ไปยังอีกที่หนึ่ง
Top Hedge Fund Manager by Earning,
Design by visualcapitalist.com
เขาได้นำเอาแนวคิดของเขาไปใช้ในโลกการลงทุน แต่ไม่ได้รับการยอมรับทางวิชาการมากนักในแง่ของทฤษฎีการลงทุน อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงนักลงทุนคนเดียวเท่านั้น ยังมีนักลงทุนที่เป็นผู้จัดการกองทุนที่เป็นที่รู้จักระดับโลกอีกมาก ดังนี้
- Jim Harris Simons : Renaissance Technologies
- Chris Hohn : TCI Fund Management
- Steven Cohen: Point72
- Raymond (Ray) Dalio: Bridgewater Associates
- George Soros: Quantum Fund
กลยุทธ์ของ Hedge Fund
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นแล้วว่า การลงทุนของ Hedge Fund นั้นมีความหลากหลายมาก และสามารถกระจายการลงทุนไปในทุกตลาดที่มีความผันผวน ตั้งแต่ หุ้น อนุพันธ์ (ฟิวเจอร์ และ ออฟชั่น) ตลาด Spot ตลาด Forward ตลาดโภคภัณฑ์ ทุกตลาด และตลาดเกิดใหม่อย่าง Cryptocurrency โดยวิธีการลงทุนของ Hedge Fund อาจจะแตกต่างกันไป ตามความชำนาญของผู้จัดการ
ตัวอย่างของ James Harris Simmon เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์เขาใช้คณิตศาสตร์และมีการใช้ AI ในการประมวลผลการลงทุน หรือบางกองทุนยังใช้การตัดสินใจผ่านข้อมูลและความรู้สึกของกองทุนเป็นหลัก โดยอ้างอิงกลยุทธ์ที่ใช้ใน Hedge Fund มีดังต่อไปนี้
- Global Macro – หรือการดูทิศทางเศรษฐกิจโลก การเคลื่อนไหวและเทรนด์ของโลกที่จะเคลื่อนไปทางไหน ไม่แตกต่างจากการดูภาวะการดำเนินงานของบริษัทของการลงทุนในตลาดหุ้น เพียงแต่ดูในภาพรวมที่กว้างและลึกกว่าในระดับทุกประเทศ
- Directional – ใช้การเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นเทรนด์ในการลงทุน เลือหุ้น หรือกลุ่มอุตสาหกรรมลงทุน โดยจะเป็นการลงทุนที่มีทิศทางชัดเจน เช่น การ Long Equity only หรือ Long only ซึ่งคล้ายคลึงการการเทรดแบบ Close System ที่มีการเทรดแบบ Long only หรือกลยุทธ์แบบ Long Equity แต่ไป Short Index เพื่อคานกันลดความเสี่ยง
- Event-Driven – คือกองทุนที่คาดการเหตุการณ์และปรากฏการณ์ต่าง ๆ เพื่อเข้าเก็งกำไร เช่น การที่ภาวะดอกเบี้ยของประเทศไทย แตกต่างจากดอกเบี้ยของประเทศอื่น ๆ มาก จนทำให้ George Soros มาโจมตีค่าเงินบาท ก็อาจจะจัดเป็นประเภทหนึ่งได้ รวมถึงการลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ทั้ง ควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ หรืออื่น ๆ
- Relative Value – คือกลยุทธ์การทำ Arbitrage ในสินทรัพย์ 2 ชนิดที่เป็นประเภทเดียวกัน หรือสินทรัพย์ชนิดเดียวกันที่อยู่คนละที่กัน ซึ่งสามารถทำ Arbitrage (เก็งกำไรโดยความเสี่ยงต่ำ) ได้หลายรูปแบบ
- อื่น ๆ – Fund of Funds กองทุนที่ลงทุนในกองทุนอื่น กลยุทธ์ multi-Strategy กลยุทธ์ Multi- account fund หรือกลยุทธ์ AI-Driven โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเช่น Bigdata และ AI ในการประมวลผล เช่น Quantitative Funds เหมือนการใช้นักคณิตศาสตร์แบบ James Simmons
ประเภทของกองทุน Hedge Fund
กองทุน Hedge Fund สามารถจัดกลุ่มเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ กองทุนเปิด (Open-ended) กองทุนปิด (Closed-ended Fund)
- กองทุนเปิด (Open-ended Fund) คือ Hedge Fund ที่เปิดขายหน่วยลงทุนอยู่ตลอด โดยไม่มีการปิดรับเงินลงทุนเข้ามาในกอง ไม่ว่าเวลาไหน โดยใช้ Net Asset Value (NAV) ของกองทุนเป็นราคาซื้อเข้า
- กองทุนปิด (Closed – ended Fund) คือ Hedge Fund ที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนตามกำหนดเวลาและเงื่อนไขที่ตั้งไว้เท่านั้น เมื่อสิ้นสุดเงื่อนไขก็จะไม่รับเงินลงทุนอีก
- กองทุนที่มีหุ้นอยู่ในตลาดหุ้น เช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดหุ้นไทย จะขายหน่วยลงทุนตามราคาซื้อขายของตลาดหุ้นเป็นหลัก
ประเภทของกองทุนดังกล่าว จะส่งผลต่อกลยุทธ์ที่ใช้ในการดำเนินงาน เพราะว่า กองทุนเปิด จะเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายกองได้ตลอดเวลา ทำให้กองทุน ต้องบริหารจัดการปริมาณเงินไหลเข้า ไหลออกกอง อย่างสม่ำเสมอ และมีการบริหารจัดการที่ทำได้ยาก
นักลงทุนที่ลงทุนในกองทุน
การลงทุนในกองทุน ไม่ใช่ใครก็จะนำเงินไปลงทุนได้ บางกองจะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน โดยมากแล้วจะรับเงินขั้นต่ำประมาณ 60,000 USD หรือ 2 ล้านบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสัญชาตของ Hedge Fund ด้วย อย่างในอเมริกา นักลงทุนที่ลงทุนใน Hedge Fund คือคนที่ทำหน้าที่บริหารเงิน อย่างเงิน กองทุนบำเน็จบำนาญของอเมริกัน นำเงินไปให้ Hedge Fund บริหาร
ไม่แตกต่างจาก กองทุนประกันสังคมบ้านเราซื้อหุ้น กองทุนข้าราชการ หรือกระทรวงการคลังที่ซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทย ซึ่งไม่มีคนบริหารจัดการแต่บริหารผ่านระบบราชการ แต่ที่ Hedge Fund เป็นระบบเอกชน
นอกจากการจะเป็นนักลงทุนสถาบันแล้ว เงื่อนไขสำหรับ นักลงทุนส่วนบุคคลแล้วต้องมีรายได้ 2 แสนเหรียญขึ้นไป ต้องมีใบประกาศนียบัตรการเป็นนักลงทุน ถึงจะลงทุนใน hedge fund ได้
