วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประวัติ warrent Buffet แนวคิด ความสำเร็จหุ้น ปรัชญาการลงทุน PDF

1 วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประวัติ

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นนักลงทุนชาวอเมริกัน ชื่อเต็ม Warren Edward Buffett ผู้ซึ่งเคยเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในปี 2008 ปัจจุบันร่ำรวยเป็นอันดับที่ 5 ของโลก มีทรัพย์สินมูลค่า 121.7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ปัจจุบันเป็นนักลงทุนมีชื่อเสียงโด่งดังมาก

มหาเศรษฐีผู้ใจบุญคนนี้ ได้บริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา โดยบริจาคเงินให้กับองค์กร Bill and Melinda Gates Foundation ของบิลล์ เกตส์ จำนวน 28,300 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ

Warren Buffett คือ หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ทรัพย์สินที่มีอยู่มาจากการลงทุนทั้งหมด จึงไม่แปลกใจเลยที่ท่านจะเป็นที่นับถือของนักลงทุนทั่วโลก แม้แต่คนนอกวงการลงทุนก็ยังรู้จัก นักลงทุนในประเทศไทยมักจะเรียกท่านว่า “คุณปู่บัฟเฟตต์”

  • คุณปู่เป็นที่รู้จักในฉายา เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา (โอมาฮาเป็นเมืองบ้านเกิดของคุณปู่)
  • เริ่มลงทุนครั้งแรก ด้วยการซื้อหุ้น Cities Service Preferred ตั้งแต่อายุ 11 ปี ได้กำไรจากการขายหุ้นเป็นเงิน 5 USD
  • เสียภาษีครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 13 ปี เงินได้มาจากการทำงานรับจ้างต่าง ๆ
  • ผู้ก่อตั้ง Give Pledge ร่วมกับ บิลล์ เกตส์ ซึ่งเป็นสัญญาที่ขอให้มหาเศรษฐีร่วมบริจาคทรัพย์สินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อการกุศล
  • ผู้ตั้งปณิธานว่าจะบริจาคทรัพย์สิน 99% ให้กับการกุศล ปัจจุบันยอดเงินที่บริจาคแล้ว 45,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
  • คุณปู่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลและการเก็บภาษีที่เอื้ออาทรต่อคนรวยมากกว่าชนชั้นกลางหรือชั้นล่าง
  • ปัจจะบันเป็น CEO ของบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทมากกว่า 60 แห่ง

วอร์เรน บัฟเฟตต์

ประวัติเบื้องต้น

คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดวันที่ 30 สิงหาคม 1930 ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสก้า สหรัฐอเมริกา ประวัติส่วนตัวของผู้สร้างกลยุทธ์การลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับตำนาน สามารถใช้เป็นกรณีศึกษาของนักลงทุนหน้าใหม่ ๆ ได้

เพื่อให้ง่ายต่อการมองภาพรวมของชีวิตและประวัติต่าง ๆ ที่ชัดเจน น้องเป็ดได้แบ่งรายละเอียดประวัติ ดังต่อไปนี้

ประวัติครอบครัว

ครอบครัวฐานะค่อนข้างดี มีพี่น้อง 3 คน เป็นลูกคนที่ 2 ประวัติครอบครัวของคุณปู่ มีดังนี้

  • บิดา : Howard Buffett สมาชิกรัฐสภา
  • มารดา : Leila Stahl Buffett อาชีพแม่บ้าน
  • พี่สาว : Doris Eleanor Buffett ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Letters Foundation และ Learning By Giving Foundation
  • น้องสาว : Roberta Buffett Elliott ประธานและบอร์ดบริหารหลายแห่ง รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนของกลุ่มการกุศลต่าง ๆ

ปัจจุบันสมรสแล้ว กับคุณ Susan Thompson Buffett ปัจจุบันเสียชีวิตในปี 2004 มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน ได้แก่

  • Susan Alice Buffett : ทำงานการกุศลที่ Sherwood Foundation และ Susan Thompson Buffett Foundation
  • Howard Graham Buffett : ประธานบริษัทและที่ปรึกษาหลายบริษัท เคยเป็นผู้อำนวยการบริษัท Coca-Cola Enterprises อนาคตอาจเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานบริษัท Berkshire Hathaway
  • Peter Andrew Buffett : นักดนตรี นักแต่งเพลง นักเขียน เคยได้รับรางวัลนักเขียนหนังสือขายดี Emmy Award จาก New York Time และเป็นประธานร่วมมูลนิธิ NoVo Foundation

ขณะนี้คุณปู่บัฟเฟตต์ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่โอมาฮา รัฐเนบราสก้า ที่เขาซื้อในปี 1958 ด้วยเงินจำนวน 31,500 USD

2 บ้านของคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์

ประวัติการศึกษา

ครั้งนึงหลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย คุณปู่เคยคิดที่จะไม่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเพราะอยากเริ่มต้นทำธุรกิจเลย แต่คุณพ่อของคุณปู่ได้ห้ามเอาไว้

  • ประถมศึกษา : Rose Hill
  • มัธยมศึกษาตอนต้น : Alice Deal
  • มัธยมศึกษาตอนปลาย : Woodrow Wilson
  • ปริญญาตรี : University of Pennsylvania (ก่อนจะย้ายมหาลัย)
  • ปริญญาตรี : University of Nebraska–Lincoln ปี 1950
  • ปริญญาโท : Columbia University สาขาเศรษฐศาสตร์

คุณปู่เคยถูกปฏิเสธการเข้าศึกษาจาก Harvard Business School จึงเข้าศึกษาต่อที่ Columbia University แทน

ที่ Columbia University คุณปู่ได้เรียนกับ Benjamin Graham นักลงทุนเน้นคุณค่า ที่เน้นมองหาหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำ ผู้ที่คุณปู่ยกย่องว่าเป็นไอดอลคนที่ 2 รองจากพ่อของคุณปู่

ประวัติการทำงาน

คุณปู่ทำงานหลายอย่างตั้งแต่เด็ก เช่น ขายหมากฝรั่ง ขายขวดโค้ก ส่งหนังสือพิมพ์ ขายสแตมป์ แคดดี้และทำงานร้านขายของชำ ร้าน Buffet & Son (ปู่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์เป็นเจ้าของ) นำเงินจากการทำงาน หุ้นกับเพื่อน ซื้อโต๊ะพินบอลมือสองราคา 25 USD ตั้งไว้ที่ร้านตัดผมในโอมาฮา

โดยแบ่งกำไร 50/50 ให้กับเจ้าของร้านตัดผมที่อนุญาตให้วางโต๊ะพินบอล กิจการโต๊ะพินบอลไปได้ดี จากวางไว้เพียง 1 ร้าน ก็ขยายกิจการไปที่ร้านตัดผม 3 ร้าน กิจการโต๊ะพินบอลถูกซื้อต่อไปในราคา 1,200 USD ในปีเดียวกัน โดยทหารผ่านศึกคนนึง

นอกจากนั้นในวัย 15 ปี คุณปู่รับจ้างส่งหนังสือพิมพ์ Washington Post มีรายได้ต่อเดือน 175 USD หรือประมาณ 5,700 บาท

คุณปู่ทำงานด้านการลงทุนหลังจบการศึกษาตั้งแต่แรก ประวัติการทำงาน ดังนี้

  • ปี 1951 : บริษัท Buffett-Falk & Co. (บริษัทของพ่อ) ตำแหน่ง พนักงานขายด้านการลงทุน
  • ปี 1954 : บริษัท Graham-Newman Corp. (บริษัทของเบนจมิน) ตำแหน่ง นักวิเคราะห์หุ้น
  • ปี 1956 : ก่อตั้งบริษัท Buffett Partnership Ltd. บริหารกองทุนจำนวนเงินประมาณ 100,00 USD
  • ปี 1962 : บริษัท Buffett Partnership Ltd. มีมูลค่ามากกว่า 7,000,000 USD
  • ปี 1970 : ซื้อหุ้นบริษัท Berkshire Hathaway จนเป็นประธานและ CEO ด้วยราคาหุ้นละ 7.60 USD
  • ปี 1990 : คุณปู่กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน จากการขายหุ้นที่บริษัท Berkshire Hathaway ถือไว้
  • ปี 2008 : คุณปู่ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และยังคงติด 1 ใน 5 มหาเศรษฐีของโลก
  • ปี 2018 : ราคาหุ้น Berkshire Hathaway อยู่ที่หุ้นละประมาณ 300,000 USD

ปัจจุบันคุณปู่ยังคงดำรงตำแหน่ง ประธานและ CEO ของ Berkshire Hathaway และได้วางตัวลูกชาย Howard Graham Buffett ให้เข้ารับตำแหน่งประธาน โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการบริหารบริษัทต่อจากตนเอง

ประวัติการลงทุน

คุณปู่สนใจในการลงทุนตั้งแต่อายุน้อย คุณปู่ในวัย 5 ขวบ เริ่มขายหมากฝรั่งและน้ำมะนาว เลือกทำเลเดินขายในที่ ๆ มีคนพลุกพล่าน

ในวัย 6 ขวบ ขายโค้กที่ซื้อมาจากร้านขายของชำ (ปู่ของคุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นเจ้าของร้านขายของชำ) และเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอล ก็เดินขายถั่วและป๊อบคอร์นให้กับคนที่เข้าชมการแข่งขัน

คุณปู่ในวัย 7 ขวบได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือชื่อ “1000 วิธีในการทำเงิน $1000” ซึ่งยืมมาจากห้องสมุดสาธารณะในโอมาฮา

เนื่องจากสำนักงานของพ่ออยู่ใกล้กับสำนักงานโบรกเกอร์หุ้นระดับภูมิภาค คุณปู่ในวัย 10 ขวบได้เข้าไปนั่งเล่นในห้องรับรองลูกค้าของโบรกเกอร์หุ้นระดับภูมิภาคนี้

เมื่อคุณปู่ได้เดินทางไปนิวยอร์กตอนอายุ 10 ขวบ ได้ชี้ไปที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก หลังจากนั้นคุณปู่ก็เริ่มลงทุนในปีต่อมา

  • อายุ 11 ปี ซื้อหุ้นครั้งแรกด้วยเงินออม 120 USD จำนวน 3 หุ้น ราคาหุ้นละ 38 USD และขายไปในราคาหุ้นละ 40 USD
  • อายุ 14 ปี ซื้อที่ดินครั้งแรกร่วมกับพ่อ ขนาดที่ดินประมาณ 100 ไร่ ด้วยเงินออม 1,200 USD จากนั้นให้เกษตรกรทำไร่ ชื่อ Nebraska farmland
  • จบการศึกษาระดับวิทยาลัย มีเงินออม 9,800 USD
  • อายุ 35 ซื้อหุ้นเยอะจนเป็นเจ้าของกิจการของบริษัท Berkshire Hathaway Inc. และใช้บริษัทนี้เป็นเครื่องมือลงทุนหลัก ต่อยอดไปลงทุนอย่างอื่น
  • จากปี 1960 ถึงปี 1990 ค่าเฉลี่ยราคาหุ้นหลักเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ต่อปี แต่หุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของ Berkshire Hathaway เพิ่มขึ้นประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ในช่วงวิกฤตสินเชื่อซับไพมร์ ปี 2007-2008 คุณปู่ได้ใช้ บริษัท Berkshire Hathaway Inc. ลงทุนในกิจการมากมาย

  • บริษัท Goldman Sachs Group, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งของธนาคารในสหรัฐอเมริกา ลงทุนด้วยเงิน 5,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
  • บริษัท General Electric Company (GE) ลงทุนด้วยเงิน 3,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
  • บริษัท Burlington Northern Santa Fe Corporation เจ้าของทางรถไฟ ลงทุนด้วยเงิน 26,000 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ
  • รวมถึงลงทุนหุ้นในบริษัท Coca Cola และ Apple
  • ปัจจุบัน Berkshire Hathaway มีบริษัทลูกมากกว่า 60 บริษัท ครอบคลุมกิจการหลากหลายสาขา

แนวทางการลงทุน

คุณปู่พิจารณาบริษัทต่าง ๆ แบบองค์รวม และเลือกหุ้นด้วยการพิจารณาจากศักยภาพโดยรวมของบริษัทเพียงอย่างเดียว การถือครองหุ้นเหล่านี้คุณปู่มองว่าเป็นการเล่นระยะยาว ไม่ได้มองหาผลกำไรจากการลงทุน แต่มองหาผลกำไรจากการเป็นเจ้าของในบริษัทที่มีคุณภาพ

การลงทุนกับบริษัทที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล

Warren Buffett

ถึงแม้คุณปู่จะบริหารจัดการบริษัทมากมาย แต่คุณปู่ก็ยังมีเวลาจดจ่ออยู่กับการลงทุนอย่างเต็มที่ เนื่องจากคุณปู่จะคัดเลือกผู้จัดการที่เก่งและไว้ใจได้ในบริษัทต่าง ๆ แล้วให้ผู้จัดการมีสิทธิ์ตัดสินใจและบริหารจัดการได้อย่างอิสระ

ผู้จัดการแต่ละคน ต้องบริหารในธุรกิจที่พวกเขารู้จักเป็นอย่างดีนั้น ภายใต้การบริหารจัดการได้อย่างอิสระมีข้อเสนอ คือ บริษัท Berkshire Hathaway ต้องสามารถถอนเงินสดออกได้

รางวัล

ปี 2011 คุณปู่ได้รับรางวัล Presidential Medal of Freedom จากประธานาธิบดี Barack Obama ที่ทำเนียบขาว

4 คุณปู่ได้รับรางวัลจากประธานาธิบดี Barack Obama

แนวคิดที่เผยแพร่

คำพูดของคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มักถูกนำมาแปลและทำเป็นเป็นข้อคิด คำคมต่าง ๆ ในโลกออนไลน์จำนวนมาก น้องเป็ดขอยกตัวอย่าง 20 Quote สำคัญของคุณปู่ มาดังนี้

ข้อที่ 1

“กฏข้อที่หนึ่งของการลงทุน คือ อย่าขาดทุน กฏข้อที่ 2 คือ อย่าลืมกฏข้อแรก”

ข้อที่ 2

“ใครสักคนที่ได้นั่งอยู่ในร่มทุกวันนี้เพราะว่าใครสักคนได้ปลูกต้นไม้ไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว”

ข้อที่ 3

“ถ้าคุณไม่อยากเป็นถือหุ้นซัก 10 ปี อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะเป็นเจ้าของมันเพียงแค่ 10 นาที”

ข้อที่ 4

“ระยะเวลาที่เราชอบถือหุ้นคือ ตลอดไป”

ข้อที่ 5

“ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย แต่มูลค่าของมันคือสิ่งที่คุณได้รับ”

ข้อที่ 6

“การซื้อบริษัทที่ดีในราคายุติธรรม ดีกว่า การซื้อบริษัทธรรมดาในราคาที่ถูกแสนถูก”

ข้อที่ 7

“คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของนักลงทุน คือ การรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง ไม่ใช่ ความฉลาด”

ข้อที่ 8

“ความเสี่ยงมาจากการที่คุณไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่”

ข้อที่ 9

“อย่าลงทุนในธุรกิจที่คุณไม่เข้าใจ”

ข้อที่ 10

“สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุน คือ การลงทุนในตัวเอง”

ข้อที่ 11

“อย่าพึ่งพารายได้ทางเดียว ลงทุนเพื่อสร้างช่องทางรายได้อื่น ๆ เพิ่ม”

ข้อที่ 12

“เคล็ดลับของความรวยที่ผมจะบอก คือ ให้คุณกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภ และให้คุณโลภเมื่อคนอื่นกลัว”

ข้อที่ 13

“ไม่สำคัญว่าคุณจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน หรือพยายามมากแค่ไหน แต่ว่า การทำอะไรสักอย่างล้วนแต่ต้องใช้เวลา คุณไม่สามารถมีลูกได้โดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน ทั้งที่การตั้งครรภ์ใช้เวลา 9 เดือน”

ข้อที่ 14

“ทุกวันนี้คนที่ถือเงินสด แล้วรู้สึกว่าเงินของเขาปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วไม่ พวกเขาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่แย่ที่สุดในระยะยาว ซึ่งไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มอะไรเลยและกลับมีมูลค่าลดลงในอนาคต”

ข้อที่ 15

“เวลาที่ดีที่สุดที่ควรจะลงทุน คือ ช่วงที่ทุกอย่างกำลังแย่”

ข้อที่ 16

“ตลาด Wall street เป็นที่ที่คนขับรถ Rolls Royce เข้าไปขอคำแนะนำจากคนที่นั่งรถไฟมาทำงาน”