ปัจจุบันการทำงานไม่ต้องไป Office แล้วคนสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ การทำงานผ่านเนตเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ที่สำคัญ สำหรับคนที่อยากได้รายได้เสริม วันละ 1000 สำหรับเป็นรายจ่ายครอบครัวสามารถทำได้
นี่เป็นข้อมูลที่เรารีวิวมาแล้วว่า ดีจริงและสามารถทำได้จริง มีอะไรบ้าง
5 วิธีทำงานผ่านเนทได้วันละพัน
5 วิธีทำงานผ่านเนตได้วันละ 100 บาท ต้องย้ำว่า ไม่ใช่จะลงมือทำแล้วได้เลย แต่ว่าได้จริงแต่ต้องฝึกฝนฝีมือให้เก่งด้วย
- เขียนบทความฟรีแลนซ์
เขียนบทความ Free lance เป็นอาชีพที่ไม่เคยจางหาย ยิ่งยุคปัจจุบันแล้วยิ่งทำงานได้เยอะมากขึ้น
รับงานเขียนบทความวันละ 1000
รับงานได้ที่ไหน
การเป็นนักเขียนออนไลน์สามารถรับงานได้หลายที่ ดังต่อไปนี้
- กลุ่มนักเขียนบทความ รับเขียนบทความใน Facebook
- เว็บ Free lance สำหรับรับงานฟรีแลนซ์
- สมัครตามบริษัท หรือเว็บไซต์ที่มีบทความ
- โพสต์ Page Facebook เพื่อเป็นข้อมูลติดต่อ
ทักษะที่ต้องใช้
- หาข้อมูลเก่ง
- พิมพ์เก่ง
- คิดและใช้คำพูดเข้าใจง่าย
- เรียบเรียงข้อมูลได้ดี
- หาข้อมูลเก่ง และรู้จักทำภาพ
- แต่งภาพและใช้โปรแกรมที่ตัดแต่งภาพเป็น
- มีความรู้ด้าน SEO บ้าง
ราคาและรายได้
ปกติแล้วเขียนบทความออนไลน์ คิดเป็นคำ แต่ค่าเฉลี่ยต่อบทความคือ 150 – 350 บาทต่อบทความ
- ถ้าสังกัดอาจจะได้บทความละ 500 บาทเลย
ข้อมูลควรรู้
สำหรับข้อมูลที่ควรเขียนบทความควรรู้เกี่ยวกับอาชีพนี้เลยคือ
- คนเขียนบทความเก่ง สามารถเขียนได้วันละ 8 บทความ
- ฉะนั้นวันละ 1000 บาทเป็นเรื่องที่หมูมาก
- มีหลายแห่งต้องการคนเขียนบทความ แต่ว่าต้องตรงกับสเปค
- และหลายที่จ้างราคาไม่แพง
- แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทำรายได้วันละ 1000 ได้สบาย
- ขายหนังสือออนไลน์
อาชีพที่ 2 สำหรับรายได้วันละ 1000 บาทคือ นักเขียน เอาจริง ๆ นักเขียนเก่ง ๆ นี่วันละ 1000 ไม่อยู่นะคะ เพราะว่า คนที่รู้จักรายได้ปีละ 1 ล้าน แถมไม่พอเสียภาษีอะไรถูกต้อง
เดี๋ยวนี้นักเขียนไม่ไส้แห้งนะ
ขายที่ไหน
สำหรับคนที่เขียนหนังสือขาย สิ่งที่ต้องรู้คือ platform แต่ละที่มีส่วนแบ่งไม่เท่ากันแต่ละที่ก็แตกต่างกันไป
- MEB ตลาดใหญ่สุดสำหรับนักเขียน
- ธันวลัย สำหรับขานิยาย
- Dek-D คือ จุดกำเนิดของนักเขียนดัง ๆ หลายท่าน
- สำนักพิมพ์อื่น ๆ
จริง ๆ แล้วมีอีกเยอะมาก แต่ว่า ดัง ๆ ก็จะมีเท่านี้ รายได้ยอดขายจากนิยาย ถล่มทลาย เชื่อสิ ว่าวันละ 1000 ไม่อยู่หรอก
สิ่งที่ต้องฝึก
สำหรับนักเขียน แตกต่างจากการเขียนบทความเพราะว่านักเขียนจะต้องมีวัตถุดิบ ได้แก่
- Plot เรื่อง
- แรงบันดาลใจและชนวน
- เป็นคนมีจินตนาการ
- เข้าใจคนอ่าน
- พิมพ์เร็วถือว่าได้เปรียบ
- ต้องใช้ คอมเป็นเพราะทำในคอมดีกว่า
- หัดใช้โปรแกรมพิมพ์เอกสาร
- หัดทำภาพบ้าง ไม่งั้นต้องจ้างคนอื่น
- เป็นคนเขียนบรรยายได้ดี
เขียนอะไรดี
งานเขียน หลายคนบอกว่าเป็นงานสำหรับคนที่มีจินตนาการ แต่จริง ๆ แล้วเราสามารถฝึกได้ หนังสือก็มีหลายแนวให้เลือกเขียน สิ่งที่เราสามารถเขียนได้มีเยอะแยะมากมาย แต่ว่า เราต้องเริ่มจากความถนัดและความชอบของเรามีให้เลือกดังนี้
- หนังสือนิยาย
- หนังสือ How to สอนทำต่าง ๆ เช่น ทำครัว ทำอาหาร
- หนังสือ ขายประสบการณ์ เช่น อกหัก เลี้ยงลูก
- หนังสือ การเงิน
- หนังสือ ติวสอบ
- หนังสือภาพ คอลเล็คชั่นภาพ
- หนังสือแนะนำ จิตวิทยา หมวดปลอบประโลม
รายได้ของนักเขียน
สำหรับรายได้ของนักเขียน พูดแล้วจะหาว่าโม้ นักเขียนบางคนมีรายได้เป็นล้าน ขึ้นอยู่กับว่ามีแฟน ๆ ติดตามมากขนาดไหน แต่ว่าของอย่างนี้ก็ต้องสะสมกันขึ้นมาได้
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับนักเขียน
- หลายคนคิดว่างานเขียน หรือนักเขียนง่าย แต่จริง ๆ ไม่ง่าย
- รายได้ดีมาก ถ้ามีฐานแฟนคลับ
- ฉะนั้นต้องอดทน และตั้งใจไม่ท้อง่าย ๆ
- หมั่นพัฒนาฝีมือ หัดทำความเข้าใจผู้อ่าน
- วันเวลาจะสะสมผู้อ่านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เอง
- ต้องมีงานเขียนออกมาอย่างต่อเนื่อง
- ขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์เป็นโจทย์ที่หินไม่ใช่น้อย สำหรับคนที่อยากจะขาย เพราะว่า นี่เป็นอย่างเดียวที่เรียกว่าคนทำเยอะ อย่างไรก็ตาม หลายคนคิดเสมอว่า ขายไม่ได้หรอก และต้องไปซื้อของเขามา แต่ถ้าขายไม่ได้หล่ะ
จริง ๆ แล้วการขายของออนไลน์ไม่ได้เริ่มจากการขายของที่มี ขายของคนอื่นยังได้เลย บางคนไปถ่ายรูปสินค้าใน Global house มาขายออนไลน์เพราะกำลังลดราคา พอลูกค้าสั่งก็ไปซื้อและไปส่งให้ลูกค้า
การขายออนไลน์จึงไม่ได้เริ่มด้วยการสต็อกสินค้าเสมอไป
มาถึงโจทย์ยากที่สุด คือ ขายออะไรดี สิ่งที่สำคัญคือ ต้องมองตลาดก่อน
- ต้องหาว่าลูกค้าของคุณอยู่ไหน เช่น กลุ่มไหน เลือกกลุ่มเป้าหมายให้แคบ
- เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
- ช่วงอายุเท่าไหร่
- ความชอบของเราและความรู้ของเขาจะทำให้เราทำได้ดี
- ขายของที่เราชอบและมีความรู้
- รู้จักหาจังหวะโอกาส เห็นโอกาสเสมอ
เอามาจากไหนดี
หลายคนคิดว่า ขายของออนไลน์ต้องมีปัญหาหลายอย่าง แต่เรามาดูมุมมองก่อน ว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง
- หาของตามสินค้าลดราคา
- หาของจาก Dropship ไม่ต้องลงทุน
- ทำของเอง พวกสินค้าง่าย เช่น ปลาหมึก หมูอบ หมูกรอบ
- ขายสินค้าแบรนด์ที่คนอื่นผลิต
- กลุ่มสินค้าน้ำเข้าจากจีน
- ขายของมือสอง
- ขายของจากสำเพ็ง
- รับหิ้วของจากต่างประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน
- ของในชุมชนที่ไม่มีที่อื่น
- ขายของให้ฝรั่ง กางเกงมวยไทย หาในไทยแต่ไปขายเมืองนอก
ขายที่ไหนดี
แน่นอน เราก็ขายออนไลน์อยู่แล้วไม่งั้นมันก็เป็นงานเพิ่มหน่ะสิ แล้วขายยังไงมีช่องทางไหนบ้าง
- ขายใน IG
- ขายใน Page Facebook
- ขายใน youtube
- ขายใน Tiktok
- ขายบนเว็บไซต์
ช่องทางการขายมีเต็มไปหมด แต่การขายไม่ได้สำเร็จได้จากการรู้ช่องทางอย่างเดียว
จะประสบความสำเร็จได้ยังไง
การจะประสบความสำเร็จกับการขายของออนไลน์สิ่งที่ทำให้สำเร็จคือ
- ต้องรู้จักและการทำการตลาดที่ดี
- รู้จักเครื่องมือดี มีฝีมือในการใช้งานออนไลน์
- ต้องเก่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งเช่น ตกแต่งภาพ เพราะว่าภาพคือหน้าตาของร้าน
- เก่งเรื่องออกแบบบ้าง
- พูดเก่ง และขยันหาลูกค้า
สิ่งที่คนขายของออนไลน์ต้องรู้
สิ่งที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับการขายของออนไลน์คือ คิดว่ามันต้องขายได้เลย แต่สิ่งที่คุณต้องรู้คือ ต้องอดทน เพราะว่ามันต้องใช้เวลาในการพัฒนาทั้งนั้น
การสะสมลูกค้า ให้ลูกค้าเก่ามาซื้อซ้ำเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกสินค้าที่ขายง่ายก็สำคัญ
- ขายรูปภาพออนไลน์
หลายคนบอกว่า ขายภาพจะไปทำได้อย่างไร แต่สิ่งที่เราไม่เคยคิดคือ ทุกคนมีมือถือ ขอแค่มีฝีมือในการถ่ายรูปให้ชัด
รู้หรือไม่ว่า การขายภาพ ไม่ได้ขายภาพแต่งให้มันสวย แต่มันคือภาพวัตถุดิบที่ให้คนอื่นเอาไปแต่งได้ต่อ ดังนั้น ใคร ๆ ก็ทำได้
ขายภาพที่ไหน
ปัจจุบันมีเว็บขายภาพเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีทำ icon ทำภาพเองด้วยไม่ต้องมีกล้องก็ทำได้เช่นกัน
- Shutterstock.
- iStockphoto.
- Dreamstime.
- Adobe Stock.
- Fotolia.
- Depositphotos.
- CanStockPhoto.
- Crestock.
ทำภาพอย่างไร
สำหรับคนที่สร้างภาพขึ้นมาเช่น icon หรือ vector ก็จะมีข้อได้เปรียบ แต่ว่าคนเหล่านี้จะต้องใช้โปรแกรมออกแบบภาพเป็น
ขายภาพราคาถูกจะได้วันละพันยังไง
การขายภาพสิ่งที่จะทำให้มันได้ คือ การสะสมทีละเล็ก ทีละน้อย คนที่ขายภาพเก่ง ๆรายได้เดือนละเป็นล้าน แต่ว่า จุดสูงสุดก็ต้องมาจากจุดเริ่มต้นเดียวกัน คือ ก่อนจะมีล้าน คุณก็ต้องมียอดดาวน์โหลดที่ 1 ก่อน
นั่นคือกำลังใจเล็ก ๆ น้อยของคุณ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนจะขายภาพ
สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการทำภาพขายออนไลน์คือ คุณต้องรู้ว่าจะทำยังไงให้ภาพของเราอยู่อันดับต้น ๆ นั่นคือสิ่งสำคัญ
การออกแบบให้ตรงใจลูกค้าก็มีส่วนสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง เพราวะ่า ถ้าออกแบบไม่ตอบโจทย์ต่อให้หาเจอไปก็เท่านั้น
- ทำเว็บไซต์
การทำรายได้จากเว็บไซต์ วันละ 1000 เดือนละ 30,000 เรียกได้ว่าเป็นเรื่องไม่ง่านยและไม่ยาก แต่สำหรับคนที่ทำเว็บไซต์เป็นแล้ว การทำรายได้ขนาดนั้นถือว่าเป็ฯเรื่องไม่ยาก เพราะรู้ว่าช่องทางที่จะได้มามาจากไหน
ทำเว็บอะไรดี
นี่เป็นโจทย์สำคัญ คือ ทำเว็บอะไรดี จริง ๆ แล้วให้เริ่มจากความรู้เดิมของเราเพราะว่า เราจะเขียนมันได้ลื่นและคนอื่นก็จะอ่านง่าย ทำให้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นรวดเร็ว
อีกเรื่องที่ต้องคิดคือ แล้วช่องทางทำเงินเป็นอย่างไร ซึ่งมันจะสัมพันธ์กัน ตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวนี้มีคอร์สสอนทำเว็บเยอะแยะค่ะ
ต้องเริ่มยังไง
- จด Domain
- ซื้อ Host
- ติดตั้ง WordPress
- เริ่มเขียนได้เลย ไม่ยากเลย เด็กมัธยมก็ทำได้
ทำรายได้จากเว็บยังไง
การทำรายได้จากเว็บมีหลายช่องทาง โดยช่องทางที่สำคัญมีดังนี้
- ลง Affiliate เพื่อให้คนคลิ๊กซื้อของ ซื้อบริการ เช่นขายภาพเป็ฯต้น
- ลงโฆษณาแบนเนอร์ ให้ติดโฆษณา
- ทำรายได้จาก Google Ads ที่คลิ๊กแล้วจะได้ตังค์
- ขายของสินค้าของเราเองบนเว็บของเรา
จะเห็นว่า ลองขายหนังสือ หรือว่า ขายของบนเว็บของเรา เขียนบทความบนเว็บของเราสิ่งเหล่านี้ก็สร้างเงินให้เราได้จำนวนมากแล้ว
ทักษะที่ต้องมี
- การทำเว็บเดียวนี้ง่ายมาก แค่ใช้ดปรแกรมสำเร็จรูปก็ได้แล้วไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
- แค่พิมพ์งานได้ วิธีการสอนทำเว็บมีเยอะแยะ
- ลงคอร์สเรียน แต่สิ่งที่ยากคือ เขียนบทความ เพราะบางคนเขียนไม่เป็นก็ลำบาก
- ทักษะคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำเว็บมาก
- ทักษะการพิมพ์การเขียน การอ่านก็สำคัญ
- ความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO ต้องเก่ง แต่ก็มีหาอ่านได้ทั่วไป
สิ่งที่คนทำเว็บต้องรู้
การทำเว็บแม้จะมองว่าง่ายน แต่ก็ไม่ง่ายเพราะว่า ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง ใน 1 – 2 ปีแรกอาจจะไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ก็ต้องทำเพราะว่า มันยังไม่ติด SEO
- เขียนบทความออนไลน์
เว็บของเราเติบโตมาจากการเขียนบทความออนไลน์ เราเป็นนักเขียนออนไลน์อาชีพ เมือ่ก่อน ราคาเขียนบทความออนไลน์บทความละ 250 บาท โดยที่จำนวนบทความที่เขียน คือ 4 บทความต่อ 1 วัน การทำรายได้ ผ่านออนไลน์วันละ 1000 บาท จึงสามารถทำงานเขียนบทความออนไลน์ได้
คุณสมบัติที่ต้องมี
สำหรับคุณสมบัติที่ต้องมีสำหรับนักเขียนคือ
- การจินตนาการ ความคิด
- ทักษะการเรียบเรียง การเขียนออกมา
- ทักษะการพิมพ์
- การใช้โปรแกรม Microsoft Word
วิธีฝึกเขียนบทความ
คุณสามารถฝึกเขียนบทความออนไลน์ จากการดูบทความของคนอื่น แล้วใช้บทความคนอื่นในการเป็นข้อมูลในการเขียน การรวบรวมข้อมูลมาจากหลายแหล่งเพื่อใช้เป็นข้อมูลกลางในการทำบทความ โดยให้แหล่งอ้างอิงเป็นเครดิต
- แรก ๆ การเขียนจะยากมาก ในการเขียนให้ได้ 1 บทความ
- หลังจากผ่านไป 3 – 6 เดือนความเร็วจะเพิ่มขึ้น
- ความเร็วของการเขียน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
- เมื่อเขียนเร็วขึ้นจะสามารถรับงานได้มากขึ้น
หางานที่ไหน
สามารถหางานได้ตามเพจ หรือ กลุ่มรับเขียนบทความออนไลน์ หรือประกาศตามเว็บ ซึ่งจะมีกลุ่มรับงานเขียนออนไลน์อยู่เต็มไปหมด แต่การได้งานประจำนั้นจะดีมาก เพราะจะได้งานสม่ำเสมอ ปัจจุบัน แม้จะมี AI ช่วยเขียน แต่การเขียนด้วยแรงงานมนุษย์ยังดีกว่ามาก
