Butterfly Bullish/Bearish คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

IUX Markets Bonus

Butterfly Bullish/Bearish คืออะไร?

71 Butterfly BullishBearish

Butterfly เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่เป็นส่วนหนึ่งของ Harmonic Patterns ซึ่งใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการวิเคราะห์ โดยมีลักษณะเฉพาะดังนี้:

  1. ประกอบด้วยห้าจุดสำคัญ: X, A, B, C, และ D
  2. ใช้อัตราส่วน Fibonacci ในการกำหนดจุดกลับตัวที่สำคัญ
  3. สามารถพบได้ทั้งในรูปแบบ Bullish (ขาขึ้น) และ Bearish (ขาลง)
  4. ใช้ในการคาดการณ์จุดกลับตัวของราคาและโอกาสในการเทรด

Butterfly Bullish

  1. เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง
  2. จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวขึ้น

Butterfly Bearish

  1. เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น
  2. จุด D เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัวลง

ลักษณะสำคัญของ Butterfly Bullish/Bearish

  1. อัตราส่วน Fibonacci ที่สำคัญ:
    • AB = 0.786 ของ XA
    • BC = 0.382 – 0.886 ของ AB
    • CD = 1.618 – 2.618 ของ AB
    • AD = 1.27 ของ XA
  2. รูปแบบการเคลื่อนไหว:
    • XA: การเคลื่อนไหวเริ่มต้น
    • AB: การปรับฐานของ XA
    • BC: การปรับฐานของ AB
    • CD: การเคลื่อนไหวสุดท้ายก่อนการกลับตัว
  3. จุดกลับตัว D:
    • เป็นจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว
    • มักจะอยู่ที่ระดับ 1.27 ของ XA

วิธีใช้ Butterfly Bullish/Bearish ในการวิเคราะห์

  1. การระบุรูปแบบ:
    • สังเกตการเคลื่อนไหวของราคาที่มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ
    • ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement และ Extension เพื่อวัดอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ
  2. การยืนยันอัตราส่วน Fibonacci:
    • ตรวจสอบว่าอัตราส่วนระหว่างจุดต่างๆ สอดคล้องกับอัตราส่วน Fibonacci ที่กำหนด
  3. การคาดการณ์จุด D:
    • ใช้อัตราส่วน 1.27 ของ XA เพื่อคาดการณ์จุด D
    • สังเกตการเกิดรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่จุด D
  4. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย:
    • สังเกตปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อราคาเข้าใกล้จุด D
  5. การใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น:
    • ใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้แนวโน้มหรือ oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
    • พิจารณาแนวรับแนวต้านสำคัญประกอบการวิเคราะห์

ข้อควรระวังในการใช้ Butterfly Bullish/Bearish

  1. ความซับซ้อนของรูปแบบ: Butterfly เป็นรูปแบบที่ซับซ้อนและอาจยากในการระบุ
  2. ความแม่นยำของอัตราส่วน: อัตราส่วนอาจไม่ตรงกับที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์เสมอไป
  3. การกลับตัวที่ไม่เกิดขึ้น: ราคาอาจไม่กลับตัวที่จุด D ตามที่คาดการณ์
  4. ความเหมาะสมกับกรอบเวลา: รูปแบบนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในกรอบเวลาที่ต่างกัน
  5. ปัจจัยภายนอก: ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคา

การประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด

  1. การเข้าซื้อ/ขาย:
    • Butterfly Bullish: เข้าซื้อเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
    • Butterfly Bearish: เข้าขายเมื่อราคาแสดงสัญญาณกลับตัวที่จุด D
  2. การตั้ง Stop Loss:
    • อาจตั้ง stop loss ไว้ใต้/เหนือจุด D เล็กน้อย
  3. การตั้งเป้าหมายกำไร:
    • เป้าหมายแรก: ระดับ 0.382 Fibonacci Retracement ของ AD
    • เป้าหมายที่สอง: ระดับ 0.618 Fibonacci Retracement ของ AD
    • เป้าหมายที่สาม: จุด B หรือ C
  4. การจัดการความเสี่ยง:
    • ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม (เช่น 1:2 หรือ 1:3)
  5. การเทรดระยะกลาง:
    • Butterfly มักใช้ในการวิเคราะห์และเทรดในระยะกลาง

ความแตกต่างระหว่าง Butterfly และ Gartley

  1. จุด D: ใน Butterfly, จุด D มักจะอยู่ที่ระดับ 1.27 ของ XA ในขณะที่ใน Gartley จะอยู่ที่ 0.786 ของ XA
  2. ความลึกของการปรับฐาน: Butterfly มักจะมีการปรับฐานที่ลึกกว่า Gartley ในช่วง AB
  3. โอกาสในการทำกำไร: Butterfly มักจะให้โอกาสในการทำกำไรที่มากกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย

สรุป

Butterfly Bullish และ Bearish เป็นรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา โดยใช้อัตราส่วน Fibonacci เป็นเครื่องมือหลัก อย่างไรก็ตาม ควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ การจัดการความเสี่ยง และการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของตลาด เพื่อให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำมากขึ้น

อ้างอิง

  1. Carney, S. M. (2010). Harmonic Trading, Volume One: Profiting from the Natural Order of the Financial Markets. FT Press.
  2. Pesavento, L., & Jouflas, L. (2007). Trade What You See: How To Profit from Pattern Recognition. John Wiley & Sons.
  3. Fischer, R. (2003). Fibonacci Applications and Strategies for Traders. Wiley Trading.
 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser