Anti-martingale คืออะไร มีวิธีการคำนวณ Lot อย่างไร ขั้นตอนอย่างละเอียด

IUX Markets Bonus

Anti-martingale คืออะไร

1 Anti martingale คืออะไร

Anti-martingale คือ กลยุทธ์ในการจัดการเงินที่ตรงข้ามกับกลยุทธ์ martingale ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในวงการการเทรดและการพนัน ในขณะที่กลยุทธ์ martingale นั้นเน้นการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหรือปริมาณการเทรด (lot) เมื่อพบความเสียหายหรือการเสียเงิน กลยุทธ์ anti-martingale นั้น คือ การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเมื่อมีการทำกำไรและลดสัดส่วนเมื่อมีการสูญเสีย

การใช้ Anti Martingale มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทวีคูณผลกำไรเมื่อมีการเคลื่อนที่ของตลาดในทิศทางที่มีประโยชน์ต่อการเทรด ขณะเดียวกันจะลดภาระการสูญเสียในช่วงที่ตลาดไม่ได้เคลื่อนที่ตามทิศทางที่คาดหวัง การใช้กลยุทธ์นี้อย่างถูกต้องและระมัดระวังจะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไรในระยะยาว

การเข้าใจและการใช้ Anti Martingale ต้องอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการมีแผนการจัดการเงินที่เข้มงวด ด้วยเหตุผลนี้หลายๆ นักเทรดในตลาดการเงินโดยเฉพาะเลือกใช้ Anti Martingale เป็นกลยุทธ์หลักเนื่องจากมันมีการจัดการเงินที่เป็นมิตรและสมเหตุสมผล และยังช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนที่ของตลาดที่มีแนวโน้มทำกำไร โดยไม่ต้องเสี่ยงการสูญเสียเงินในปริมาณที่มากเกินไปเมื่อตลาดเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้าม

 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Martingale และ Anti Martingale

  1. กลยุทธ์ Martingale
  • วิธีใช้: เพิ่มเงินลงทุนเป็น 1 เท่าทุกครั้งที่เทรดขาดทุน โดยหวังว่าการชนะครั้งต่อไปจะคืนเงินทุนและทำกำไรได้
  • ความเสี่ยง: สูง หากเทรดขาดทุนเป็นจำนวนครั้งที่เยอะอาจจะสูญเสียเงินทุนได้มาก
  • จุดเด่น: หากมีการชนะแบบต่อเนื่องหลังจากการขาดทุน, มีโอกาสคืนเงินทุนและได้กำไร
  • ข้อจำกัด: จำเป็นต้องมีเงินทุนสูงในกรณีที่เทรดขาดทุนแบบต่อเนื่อง
  1. กลยุทธ์ Anti Martingale
  • วิธีใช้: ลดเงินลงทุนครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่เทรดขาดทุน และเพิ่มเงินลงทุน 2 เท่าทุกครั้งที่เทรดได้กำไร
  • ความเสี่ยง: ต่ำเมื่อขาดทุน แต่สูงเมื่อได้กำไรต่อเนื่อง
  • จุดเด่น: ช่วยทวีคูณผลกำไรโดยรวมระหว่างการเทรดที่ชนะและลดจำนวนเงินที่ขาดทุนระหว่างการเทรดที่แพ้
  • ข้อจำกัด: หากเทรดได้กำไรแบบต่อเนื่องโดยไม่มีการขาดทุน, จำนวนเงินลงทุนอาจสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยง

2 Martingale และ Anti Martingale

วิธีการเทรด Anti-martingale

 YWO Promotion

การเทรดด้วยวิธี Anti-martingale หรือที่บางครั้งเรียกว่า “การเพิ่มการลงทุนตามแนวโน้ม” คือ การใช้กลยุทธ์ที่ค่อนข้างสว่างแวว ซึ่งมีเป้าหมายในการทวีคูณผลกำไรขณะที่ตลาดยังคงเคลื่อนไปในทิศทางที่เราคาดการณ์ ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเทรดด้วยวิธี Anti-martingal

  • วิเคราะห์ตลาด: ก่อนอื่น ควรทำการวิเคราะห์ตลาดเพื่อกำหนดทิศทางหลักของการเคลื่อนไหว ว่ามันคือขาขึ้นหรือขาลง
  • เริ่มต้นด้วยการลงทุนมาตรฐาน: ในการเดิมพันครั้งแรก ควรเริ่มต้นด้วยการลงทุนขนาดมาตรฐานของคุณ เช่น 1% หรือ 2% ของทุนส่วนตัว
  • การเพิ่มขนาดการเดิมพัน: หากการเทรดครั้งก่อนหน้านั้นชนะ ควรเพิ่มขนาดการเดิมพันในครั้งถัดไป เช่น เพิ่มเป็นสองเท่า
  • การลดขนาดการเดิมพัน: หากการเทรดครั้งก่อนหน้านั้นแพ้ ควรลดขนาดการเดิมพันลงครึ่งหนึ่งในครั้งถัดไป
  • ตั้งค่า Stop-Loss: ควรตั้งค่า Stop-Loss ที่ระดับที่คุณสามารถรับได้ ซึ่งจะช่วยจำกัดขนาดของการสูญเสียในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของคุณ
  • การวิเคราะห์และประเมินผล: หลังจากการเทรดสักพัก ควรทบทวนและประเมินผลว่ากลยุทธ์นี้เป็นอย่างไร และว่ามีจุดใดที่ควรปรับปรุง
  • ไม่ควรลืม Money Management: ต้องตั้งค่าการลงทุนสูงสุดสำหรับการเทรดแต่ละครั้ง และควรมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดการเดิมพัน
  • ยอมรับความขาดทุน: ยอมรับว่าการเทรดแต่ละครั้งไม่สามารถชนะได้ทุกครั้ง แต่ด้วยกลยุทธ์ Anti-martingale การเสียทุนแต่ละครั้งจะถูกจำกัดไว้
  • พักผ่อน: หลังจากเทรดสักพัก ควรพักผ่อนและรักษาสมาธิเพื่อให้พร้อมสำหรับการเทรดครั้งถัดไป
  • การศึกษาและปรับปรุง: ยังควรศึกษาตลาดและค้นหาวิธีการปรับปรุงกลยุทธ์ต่อไป

 

การคำนวณ lot ระยะห่าง Anti-martingale

การคำนวณ lot ในระบบ Anti-martingale สำคัญเพื่อเพิ่มขนาดตำแหน่งเมื่อเราชนะและลดขนาดตำแหน่งเมื่อเราขาดทุน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงข้ามกับระบบ Martingale ที่เพิ่มขนาดตำแหน่งเมื่อขาดทุน และคงขนาดตำแหน่งเดิมหรือลดลงเมื่อชนะ

ตัวอย่างการคำนวณ lot ในระบบ Anti-martingale

  1. การตั้งค่าเริ่มต้น
  • กำหนดว่าทุนเริ่มต้นของคุณคือ $10,000
  • การเทรดขนาดเริ่มต้นคือ 1 lot (หรือ 10,000 unit)
  1. เทรดครั้งที่ 1
  • คุณเทรดด้วย 1 lot และชนะ
  • กำไรที่ได้, กล่าวได้ว่า, คือ $50
  1. เทรดครั้งที่ 2 (หลังจากชนะครั้งแรก)
  • คุณเพิ่มขนาดการเทรดเป็นสองเท่า (ตามกลยุทธ์ Anti-martingale) ดังนั้นคุณเทรด 2 lot
  • หากคุณชนะอีกครั้ง, กำไรที่ได้อาจเป็น $100
  1. เทรดครั้งที่ 3 (หลังจากชนะ 2 ครั้งต่อเนื่อง)
  • คุณเทรดด้วย 4 lot
  • แต่ครั้งนี้คุณขาดทุน, สูญเสีย $80
  1. เทรดครั้งที่ 4 (หลังจากขาดทุนครั้งก่อน)
  • คุณลดขนาดการเทรดลงครึ่งหนึ่งตามกลยุทธ์ Anti-martingale ดังนั้นคุณเทรด 2 lot

เมื่อนำมาสู่การเทรดในภาพรวม คุณจะเห็นว่าระบบ Anti-martingale ช่วยให้คุณเพิ่มขนาดตำแหน่งเมื่อกำลังชนะ และลดขนาดตำแหน่งเมื่อเริ่มมีสัญญาณของการขาดทุน ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทวีคูณกำไร และสำคัญที่ต้องระลึกว่าไม่ควรให้ขนาดตำแหน่งเพิ่มขึ้นเกินไปจนถึงระดับที่เสี่ยงเกินไป และควรมีวิธีการจัดการเงินที่รอบคอบ และมี Stop-Loss เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

 

การจัดการความเสี่ยง Stop-Loss

การเทรดโดยใช้ระบบ Anti-martingale ไม่ได้มาเพียงแต่แนวคิดในการเพิ่มหรือลดขนาดการเทรดเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงแนวคิดทั้งหมดในการจัดการความเสี่ยงและการมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ตลาด

  • การกำหนด Stop-Loss: หากใช้ระบบ Anti-martingale การกำหนดระดับ Stop-Loss ก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากเมื่อเราเพิ่มขนาดการเทรด จุดที่เราตั้งค่า Stop-Loss จะต้องมีความยืดหยุ่นในการรับรู้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
  • ระบบการเข้า-ออกตำแหน่ง: วิธีการเข้าและออกจากตำแหน่งเป็นสิ่งสำคัญในระบบ Anti-martingale ควรเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและได้รับการทดสอบอย่างดี ตามกลยุทธ์ของคุณ
  • การประเมินผล: การทบทวนและประเมินผลประสิทธิภาพของระบบเทรดเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทราบว่าระบบ Anti-martingale ทำให้คุณได้ผลกำไรเพิ่มขึ้นจริงๆ หรือไม่
  • การจัดการทุน: แม้ว่าคุณจะเพิ่มขนาดการเทรดเมื่อชนะ ควรกำหนดขีดจำกัดเพื่อป้องกันการเสี่ยงทุนเกินไป เช่น ไม่ควรเพิ่มขนาดการเทรดให้เกิน 10% ของทุนที่มี หรือจำกัดขนาดการเทรดสูงสุดที่ 2 lot ต่อครั้ง เป็นต้น

ตัวอย่างการเทรด

เทรดครั้งที่ 5 (หลังจากเทรดครั้งที่ 4 ที่ขาดทุน)

  • คุณเทรดด้วย 1 lot (หลังจากการลดขนาดตำแหน่งตามกลยุทธ์)
  • ครั้งนี้คุณขาดทุนอีก สูญเสีย $30

เทรดครั้งที่ 6 (หลังจากขาดทุน 2 ครั้งต่อเนื่อง)

  • คุณยังคงเทรดด้วยขนาด 1 lot เนื่องจากมีความสูญเสีย 2 ครั้งต่อเนื่อง
  • ครั้งนี้คุณชนะ ได้กำไร $40

เทรดครั้งที่ 7 (หลังจากชนะครั้งก่อน)

  • คุณเพิ่มขนาดการเทรดเป็นสองเท่า ดังนั้นคุณเทรด 2 lot

จากตัวอย่างที่อ้างมานั้น เห็นได้ว่าการใช้ระบบ Anti-martingale ทำให้เทรดเดอร์สามารถเพิ่มกำไรในช่วงเวลาที่เทรดได้ผล แต่ควรระวังไม่ให้ขนาดการเทรดเพิ่มขึ้นมากเกินไปจนเกินความสามารถในการรับความเสี่ยง

การเทรด forex ด้วย anti-martingale

ข้อสำคัญ

  • ระบบ Anti-Martingale เป็นวิธีการที่เน้นเพิ่มความแข็งแกร่งของการชนะต่อเนื่องและลดผลกระทบของการแพ้ต่อเนื่อง
  • แตกต่างจากระบบ Martingale แบบดั้งเดิม กลยุทธ์ Anti-Martingale เน้นการเพิ่มเงินเดิมพันเมื่อชนะและลดเงินเดิมพันที่แพ้ลงครึ่งหนึ่ง
  • โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นกลยุทธ์ที่ส่งเสริมให้มี “การเชื่อที่ผิด เพราะมีความใจร้อน” เมื่ออยู่ในช่วงที่ชนะต่อเนื่อง และใช้กลยุทธ์หยุดการเสียทุนเมื่อต้องเผชิญกับการแพ้ต่อเนื่อง
  • เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ระบบ Anti-Martingale คือ การปรับตัวตามสถานการณ์ในตลาด ในช่วงที่คุณชนะ คุณจะเพิ่มการเดิมพันเพื่อทวีคูณกำไร แต่เมื่อคุณแพ้ คุณจะปรับลดการเดิมพันลง เพื่อควบคุมและจำกัดการขาดทุนนั้นเอง

 

วิธีการทำงานของระบบ Anti-Martingale

ระบบ Martingale ต้นฉบับถูกนำเสนอโดยนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Paul Pierre Levy ในศตวรรษที่ 18 เพื่อเพิ่มโอกาสทางสถิติในการวางเดิมพันที่มีความเสี่ยงต่อเนื่องกัน ในกลยุทธ์ Martingale นักพนันหรือนักเทรดจะเพิ่มเงินเดิมพัน 2 เท่าทุกครั้งที่ขาดทุน และหวังว่าจะสามารถกู้คืนเงินที่ขาดทุนนั้นและทำกำไรจากการเดิมพันที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในที่สุด

ในทางกลับกัน แนวคิดของระบบ Anti-Martingale คือ นักเทรดสามารถทำกำไรจากการเทรดที่ชนะต่อเนื่องโดยการเพิ่มเงินเดิมพันที่มีตำแหน่งซื้อขาย ระบบ Anti-Martingale เปิดรับความเสี่ยงสูงขึ้นในช่วงที่การเติบโตของพอร์ต และถือว่าเป็นระบบที่ดีกว่าสำหรับนักเทรด เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าในการเพิ่มขนาดการเทรดในช่วงที่ชนะกว่าในช่วงที่แพ้

แต่แนวคิดประเภทนี้อาจจะตกเป็นกับดักของการเชื่อว่าเรากำลังมีแนวโน้มชนะอยู่ แต่เมื่อตลาดมีแนวโน้มขึ้น ระบบ Anti-Martingale อาจจะนำไปสู่ความสำเร็จสำหรับนักเทรด

เมื่อเกิดการเสียทุน คุณจะต้องลดการเดิมพันที่ขาดทุนลงครึ่งหนึ่ง ในที่นี้ นักเทรดจะใช้กระบวนการตั้งราคาสูงสุดที่ยอมรับได้เพื่อหยุดขาดทุน ระบบ Anti-Martingale เป็นการนำเสนอในหลักการของ “ปล่อยให้การเทรดที่ชนะต่อเนื่องและหยุดการเทรดที่ขาดทุนไว” นักเทรดอาจเทรดได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน แต่ตลาดอาจเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่านักเทรดจะรับรู้ ในขณะที่ระบบ Martingale มีแนวโน้มเป็น “การย้อนกลับสู่ค่าเฉลี่ย” ซึ่งอาจจะเหมาะกับตลาดที่ไม่มีทิศทางชัดเจนและไม่มีแนวโน้มที่แน่นอน

 

ตัวอย่างของระบบ Anti-Martingale

เพื่อทำให้เข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์นี้ได้ง่ายขึ้น ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ ได้แก่ การเล่นเกมทายฝั่งของเหรียญด้วยเงินเดิมพันเริ่มต้นที่ 1 usd โอกาสในการได้ฝั่งหัวหรือฝั่งก้อยนั้นเท่ากัน และการโยนเหรียญแต่ละครั้งนั้นเป็นอิสระต่อกัน (การโยนครั้งก่อนหน้านี้ไม่มีผลต่อการโยนครั้งถัดไป) พมาสมมติว่าคุณเลือกเดิมพันฝั่งหัวเสมอ

ถ้าการโยนครั้งแรกเป็นฝั่งหัว คุณจะชนะได้ 1 usd แล้วคุณจะเพิ่มเงินเดิมพันในครั้งถัดไปเป็น 2 usd ถ้าการโยนครั้งที่สองยังเป็นฝั่งหัว คุณจะเดิมพัน 4 usd ในครั้งถัดไป แต่ถ้าเป็นฝั่งก้อย คุณจะลดเงินเดิมพันลงครึ่งหนึ่ง แล้วเดิมพัน 2 usd ในครั้งถัดไปนั้นเอง

เมื่อพิจารณาตัวอย่างของระบบ Anti-Martingale ในเกมทายฝั่งของเหรียญ จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์นี้เน้นการเพิ่มเงินเดิมพันในระยะเวลาที่คุณชนะอยู่และการลดเงินเดิมพันเมื่อคุณพบการแพ้

ในตัวอย่าง สมมติว่าหลังจากคุณเดิมพัน 4 usd แล้วยังได้ฝั่งหัวอีกครั้ง คุณจะเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 8 usdสำหรับการโยนถัดไป นั่นเป็นการดำเนินการตามกลยุทธ์ของระบบ Anti-Martingale ที่เมื่อชนะ เราจะเพิ่มเงินเดิมพัน

แต่หากในการโยนครั้งถัดไป คุณได้ฝั่งก้อย คุณจะต้องลดเงินเดิมพันลงเป็นครึ่งหนึ่ หรือเพียง 4 usdสำหรับการโยนต่อไป

ระบบนี้มีประโยชน์ในการสร้างกำไรสูงสุดจากการชนะต่อเนื่อง แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการแพ้ต่อเนื่อง โดยการลดเงินเดิมพันลงทุกครั้งที่คุณแพ้ ทำให้คุณสามารถคงไว้ซึ่งส่วนใหญ่ของเงินที่คุณได้จากการชนะต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านั้น และทำให้คุณสามารถยืนยันในเกมได้นานขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับระบบ Martingale แบบดั้งเดิม

 Exness Promotion
PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser