P/BV ratio คือ ค่า P/BV ที่เหมาะสม ไม่ควรเกินเท่าไหร่

P/BV Ratio คือ อัตราส่วนระหว่างราคาต่อมูลค่าทางบัญชีของกิจการ หมายความว่า ราคาปัจจุบันหารด้วยมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นของกิจการ ซึ่งจะบอกได้ว่า ราคาปัจจุบันนั้นเมื่อเทียบกับมูลค่าของกิจการจริง ๆ นั้นคิดเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ ซึ่งยิ่ง P/BV Ratio ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่า ราคาหุ้นตัวนั้น สูงกว่ามูลค่าของกิจการในทางบัญชีจำนวนกี่เท่า

ตัวอย่าง ค่า P/BV ratio เช่น ราคาของหุ้นตัวหนึ่งราคา 10 บาท ขณะที่ราคาต่อหุ้นทางบัญชี คือ 2 บาท หมายความว่า

P/BV = 10 / 2 = 5

การตีความ

สำหรับการตีความค่า P/BV หมายความว่า ราคานั้นคิดเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ ของมูลค่าของหุ้น ให้คุณจินตนาการถึง กิจการแห่งหนึ่งเมื่อบันทึกมูลค่าของกิจการทั้งหมดต่อหุ้นแล้ว ได้เพียงแค่ หุ้นละ 2 บาท แต่ว่า ราคาที่ซื้อขายกันในตลาดมีราคาถึง 10 บาท หมายความว่า เงินที่ผู้ซื้อจ่ายไป 10 บาทนั้น จะทำให้มูลค่าที่ได้มาจริงเพียง 2 บาท

1 P BV Ration การตีความ

ในภาพจะเห็นว่า P/BV ของหุ้นตัวหนึ่งในปี พ.ศ. 2561 เท่ากับ 1.21 เท่า ราคาล่าสุดในปี 2561 เท่ากับ 1.03 ขณะที่มูลค่าหุ้นทางบัญชี (บาท) ในปี 2561 เท่ากับ 0.85 หมายความว่า ราคาล่าสุดนั้นสูงกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น

ค่าที่เหมาะสมของ P/BV ต่อหุ้น

เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่ใช้ในการเปรียบเทียบคัดกรองหุ้นที่แพงและถูกออกจากกัน ของการลงทุนหลากรูปแบบ เช่นการลงทุนหุ้นพื้นฐาน และการลงทุนเน้นคุณค่า จึงมีคำถามว่า ค่าที่เหมาะสมของ P/BV ต่อหุ้นเท่ากับเท่าไหร่ เท่าไหร่ถึงเรียกว่า P/BV สูง หรือ ต่ำ เกินไป

สำหรับมูลค่าทางบัญชีที่เหมาะสมสำหรับหุ้นที่มีอนาคตดี ที่บอกว่าหุ้น “ไม่แพง” นั้น คือไม่ควรเกิน 1-3 เท่า เพราะว่านั่นคือบอกว่าหุ้นตัวนั้นมูลค่าทางบัญชีเมื่อเปรียบเทียบกับราคาแพงเกินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ข้อกำหนดตายตัว ที่จะใช้ในการลงทุน ในหลายตำรา มีข้อแนะนำเรื่อง P/BV ที่เหมาะสมแตกต่างกัน

2 P BV Ration ค่าที่เหมาะสมต่อหุ้น

ในตัวอย่าง P/BV ของหุ้นตัวหนึ่งในปี พ.ศ. 2561 จนถึง 2563 อยู่ที่ระดับ ต่ำกว่า 1 และไม่เกิน 2 ในปี พ.ศ. 2563 หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2564 ราคากระโดดจาก 1.93 บาทเป็น 215 บาทในปี 2565 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบ P/BV จะพบว่า ราคาในช่วงปี พ.ศ. 2561 ค่อนข้างมี P/BV ต่ำ

อย่างไรก็ตาม การขึ้นของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องดู P/BV อย่างเดียวที่จะบอกว่าหุ้นขึ้น การขึ้นของหุ้นจะมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง