Long Lower Shadow คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

20 Long Lower Shadow

Long Lower Shadow คืออะไร? Long Lower Shadow เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีเงาล่างที่ยาวมาก โดยมีความยาวอย่างน้อย 2/3 ของความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน ตัวแท่งเทียน (body) มีขนาดสั้นเมื่อเทียบกับความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน อาจเป็นแท่งเทียนสีขาวหรือสีดำก็ได้ มีเงาบนสั้นหรือไม่มีเลย Long Lower Shadow มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงหรือที่ระดับแนวรับ วิธีใช้ Long Lower Shadow ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Long Lower Shadow มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวรับที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Long Lower Shadow เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Long Lower Shadow มักมีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มหรือการกลับตัว วิเคราะห์ความยาวของเงาล่าง: ยิ่งเงาล่างยาวมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงซื้อที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Long Upper Shadow คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

19 Long Upper Shadow

Long Upper Shadow คืออะไร? Long Upper Shadow เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีเงาบนที่ยาวมาก โดยมีความยาวอย่างน้อย 2/3 ของความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน ตัวแท่งเทียน (body) มีขนาดสั้นเมื่อเทียบกับความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน อาจเป็นแท่งเทียนสีขาวหรือสีดำก็ได้ มีเงาล่างสั้นหรือไม่มีเลย Long Upper Shadow มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงขายที่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นหรือที่ระดับแนวต้าน วิธีใช้ Long Upper Shadow ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Long Upper Shadow มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Long Upper Shadow เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Long Upper Shadow มักมีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มหรือการกลับตัว วิเคราะห์ความยาวของเงาบน: ยิ่งเงาบนยาวมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงขายที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Piercing Line คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

45 Piercing Line

Piercing Line คืออะไร? Piercing Line เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่งติดต่อกัน เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) ขนาดใหญ่ แท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีขาว (bullish) ที่เปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก แท่งที่สองปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก แต่ไม่สูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก Piercing Line ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น (bullish reversal pattern) โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลงหรือที่ระดับแนวรับสำคัญ วิธีใช้ Piercing Line ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Piercing Line มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน หรือที่ระดับแนวรับสำคัญ ตรวจสอบลักษณะของแท่งเทียน: แท่งแรกต้องเป็นแท่งสีดำขนาดใหญ่ แท่งที่สองต้องเป็นแท่งสีขาวที่เปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก แท่งที่สองต้องปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งแรก แต่ไม่สูงกว่าจุดเปิดของแท่งแรก วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย: ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในแท่งที่สองอาจเป็นสัญญาณยืนยันที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Piercing Line มีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ Piercing Line [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ คืออะไร คำอธิบายอย่างละเอียด

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick chart) เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงข้อมูลการซื้อขายหุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนใช้รูปแบบของแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นตารางเรียงกันในแนวตั้ง โดยแต่ละแท่งจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับราคาเปิดตลาด (Open), ราคาปิดตลาด (Close), ราคาสูงสุดในช่วงเวลา (High), และราคาต่ำสุดในช่วงเวลา (Low) ของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่กำลังวิ่งราคาในช่วงนั้น ๆ กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยส่วนของตัวแท่ง (body) และส่วนของเส้นระดับราคาสูงสุดและต่ำสุด (wicks) โดยส่วนของตัวแท่งจะมีความหนาหรือบางขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาเปิดตลาดและราคาปิดตลาด ถ้าราคาปิดตลาดสูงกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงขึ้นด้านบน ในทางกลับกัน ถ้าราคาปิดตลาดต่ำกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงลงด้านล่าง หากแท่งต้นมีสีเขียว แสดงถึงราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่แท่งต้นสีแดงแสดงถึงราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด การวิเคราะห์รูปแบบและการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบแนวโน้มราคา และดำเนินการตัดสินใจซื้อขายในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะของกราฟแท่งเทียน แผนภูมิแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีลักษณะแท่งเทียนที่แสดงข้อมูลราคาของคู่สกุลเงินในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และสังเกตแนวโน้มของราคาในตลาด โดยการแสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ในรูปแบบของแท่งเทียนที่สามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) แท่งเทียนขาขึ้นเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาในตลาด ลักษณะของแท่งเทียนขาขึ้นมีลักษณะ ใส้เทียนล่าง (Lower Shadow) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

จิตวิทยาแท่งเทียนและความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบ มีอะไรบ้าง

กราฟแท่งเทียน คืออะไร

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ หนึ่งในวิธีการแสดงข้อมูลราคาของหุ้น, สินค้าหรือเงินตราต่างประเทศในตลาดการเงิน โดยเน้นไปที่การแสดงภาพรวมของการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนมีความสามารถในการสะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด และมักถูกนำมาใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้มของตลาดและสัญญาณซื้อขาย ส่วนประกอบหลักของกราฟแท่งเทียนได้แก่ ราคาเปิด (Open Price): ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (Close Price): ราคาสิ้นสุดในช่วงเวลานั้น ราคาสูงสุด (High Price): ราคาที่สูงที่สุดในช่วงเวลานั้น ราคาต่ำสุด (Low Price): ราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลานั้น ภาพรวมของกราฟแท่งเทียน ส่วนที่เป็นสี (ที่กล่าวว่าเป็น “เทียน” หรือ “Body”) แสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิด หากแท่งเทียนเป็นสีเขียวหรือขาว หมายความว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น) หากแท่งเทียนเป็นสีแดงหรือดำ หมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลดลง) “เสา” หรือ “Shadow” ที่มีทั้งด้านบนและด้านล่างของเทียนแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลานั้น จากราคาสูงสุดไปถึงราคาต่ำสุด จิตวิทยาแท่งเทียน เครื่องมือของนักลงทุน จิตวิทยาแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น หรือตลาดเงินอื่น ๆ จิตวิทยาในที่นี้คือการแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละช่วงเวลา [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด วิธีการอ่านเกมส์เทรดด้วยแท่งเทียน

1.แท่งเทียน คืออะไร

แท่งเทียน คืออะไร แท่งเทียนหรือ Candlestick เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สำหรับการแสดงราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนดไว้ วิธีนี้มาจากญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในการวิเคราะห์กราฟราคาตลาดหุ้น สกุลเงิน และตลาดอื่นๆ แท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลักคือ ราคาเปิด (Open Price) : ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (High Price) : ราคาที่สิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาสูงสุด (Low Price) : ราคาที่สูงที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาต่ำสุด (Low Price) : ราคาที่ต่ำที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีเขียว หรือขาว(ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีแดง หรือดำ ในส่วนของ “ไส้เทียน” คือ เส้นที่ยื่นออกจากตัวแท่งเทียน แทนราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเทียนในภาพรวมแสดงถึงกระแสความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาด และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายแนวโน้มของตลาดในอนาคต แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick) สามารถช่วยให้นักเทรดทำความเข้าใจถึงความผันผวนของราคา, แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคา และเป็นสัญญาณแนะนำสำหรับการทำการซื้อขาย มีหลากหลายรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดทำใช้เป็นสัญญาณ บางรูปแบบมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม แท่งเทียนเดี่ยว: มีแท่งเทียนที่มีความหมายด้วยตัวเอง เช่น Doji [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Rejection pattern คืออะไร สัญญาณกลับตัว วิธีวิเคราะห์กราฟ

1.Rejection pattern คืออะไร

Rejection pattern คืออะไร Rejection pattern คือ รูปแบบหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในการซื้อขายหุ้น, Forex หรือเครื่องมือการลงทุนอื่น ๆ ในตลาดทางการเงิน เป็นการเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของราคาในช่วงเวลาที่มีสัญญาณการปฏิเสธ (rejection) หรือการต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่สำคัญ การที่ราคาถูก “ปฏิเสธ” มักจะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทางทิศทางของราคา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม rejection pattern จึงมักถูกนำมาใช้ในการทำนายการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา และ Rejection pattern มักจะปรากฏในรูปของ ‘Pin Bar’ หรือ ‘Hammer’ ในกราฟแท่งเทียน (Candlestick) Pin Bar มีลักษณะคล้ายหมุด โดยมีส่วน ‘เรียวยาว’ ที่ถูกเรียกว่า ‘wick’ และส่วน ‘สั้น’ ที่ถูกเรียกว่า ‘body’ ‘Wick’ แสดงถึงระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง ในขณะที่ ‘body’ แสดงถึงราคาเปิดและปิดเมื่อ ‘wick’ ยาวมากเมื่อเทียบกับ ‘body’ แสดงถึงการปฏิเสธของราคาในช่วงเวลานั้น Hammer คือ รูปแบบแท่งเทียนที่มี ‘body’ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน 26 รูปแบบ มีอะไรบ้าง

กราฟแท่งเทียน 26 รูปแบบ องค์ประกอบแท่งเทียน 2 ส่วนหลัก

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) เป็นวิธีการสรุปและแสดงข้อมูลราคาของหลักทรัพย์ หรือสินทรัพย์ทางการเงินในรูปแบบที่ช่วยให้ผู้นำข้อมูลไปใช้สามารถเข้าใจแนวโน้มราคาได้ดีขึ้น กราฟแท่งเทียนมีประวัติความเป็นมานานหลายศตวรรษ มาจากประเทศญี่ปุ่น กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลัก ซึ่งมีชื่อเรียกเป็น “เปิด” (Open) “สูง” (High) “ต่ำ” (Low) และ “ปิด” (Close) ถ้าราคาปิดอยู่สูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีเขียวหรือขาว และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดงหรือดำ แท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนเห็นแนวโน้มราคาสินทรัพย์ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจในการซื้อหรือขาย ในทำนองเดียวกัน มันสามารถใช้เพื่อระบุรูปแบบทางเทคนิคในการซื้อขาย เช่น เทรนด์ การกลับตัว และอื่น ๆ ที่สามารถช่วยในการพยากรณ์ความเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต องค์ประกอบของกราฟแท่งเทียน กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีสี่ค่าหลักที่ใช้ในการสร้างแต่ละ “แท่งเทียน” ซึ่งประกอบด้วย “เปิด” (Open), “ปิด” (Close), “สูงสุด” (High) และ “ต่ำสุด” (Low) เปิด (Open): ราคาที่สินทรัพย์เริ่มต้นการซื้อขายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น วัน, [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Downside Gap Three Methods คืออะไร รูปแบบกราฟแท่งแท่งเทียน

Downside Gap Three Methods 1

Downside Gap Three Methods คืออะไร Downside Gap Three Methods เป็นรูปแบบแท่งเทียน (candlestick pattern) ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตลาดการเงิน รูปแบบนี้ปรากฏในแนวโน้มขาลง (downtrend) และถือเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่าแนวโน้มลงนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป (Chen, 2023) แม้ว่าจะเป็นรูปแบบที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็มีความสำคัญสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิค ลักษณะของ Downside Gap Three Methods รูปแบบ Downside Gap Three Methods ประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง ดังนี้: แท่งเทียนแรก: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) ยาว ปรากฏในขณะที่ตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง แท่งเทียนที่สอง: เป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือแดง) อีกแท่ง ที่มีช่องว่าง (gap) ห่างลงมาจากแท่งเทียนแรก แท่งเทียนที่สาม: เป็นแท่งเทียนสีขาว (หรือเขียว) ที่เปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนที่สอง และปิดภายในร่างกายของแท่งเทียนแรก ทำให้ “เติม” ช่องว่างระหว่างสองแท่งแรก (Bulkowski, 2021) ความสำคัญของ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Abandoned Baby คืออะไร วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

Abandoned Baby คืออะไร

Abandoned Baby คืออะไร   The Abandoned Baby เป็นรูปแบบแท่งเทียนประเภทหนึ่งที่เทรดเดอร์ใช้ในการทำนายการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในตลาด เป็นรูปแบบที่หายากแต่มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งปรากฏทั้งในรูปแบบขาขึ้นและขาลง Abandoned Baby ในบริบทของการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือตลาดเป็นรูปแบบหนึ่งของ Candlestick ที่ใช้ในการคาดการณ์ทิศทางของตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของทิศทางของราคาสินทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วยCandlestickสามตัวที่จะแสดงให้เห็นถึงการสลับกลับราคาหรือการกลับตัวของการเทรนด์   รูปแบบ “Abandoned Baby” จะมีลักษณะดังนี้ รูปแบบ “Abandoned Baby” ในกราฟแท่งเทียน (Candlestick) มีลักษณะดังนี้ แท่งเทียนแรก (Candlestick แรก): จะเป็นแท่งเทียนในแนวโน้มที่มีอยู่ (ขึ้นหรือลง) เช่น ถ้าเป็นแนวโน้มลง แท่งเทียนแรกจะเป็นแท่งเทียนสีดำ (หรือสีแดงในกราฟบางอัน) แท่งเทียนที่สอง (Candlestick ที่สอง): จะเป็น “Doji” ซึ่งเป็นแท่งเทียนที่มีเปิดและปิดเท่ากันหรือใกล้เคียง มีรูปร่างเหมือนกับ “+”. และมีแก๊ป (ช่องว่าง) ระหว่างแท่งเทียนแรกและแท่งเทียนที่สอง ทำให้ดูเหมือนว่า “Doji” ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง แท่งเทียนที่สาม (Candlestick ที่สาม): จะเป็นแท่งเทียนในแนวโน้มที่ตรงกันข้ามกับแท่งเทียนแรก [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser