Spinning Top คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

22 Spinning Top

Spinning Top คืออะไร? Spinning Top เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีตัวแท่งเทียน (body) ขนาดเล็ก มีเงาบนและเงาล่างที่ยาวกว่าตัวแท่งเทียน เงาบนและเงาล่างมีความยาวใกล้เคียงกัน สีของแท่งเทียนอาจเป็นสีขาวหรือสีดำก็ได้ Spinning Top มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความไม่แน่นอนในตลาด โดยแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่มีกำลังใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือการพักตัวของราคา วิธีใช้ Spinning Top ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Spinning Top มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Spinning Top เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลง อาจเป็นสัญญาณของการพักตัวของแนวโน้มปัจจุบัน สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Spinning Top มักมีความสำคัญในการบ่งชี้ทิศทางต่อไปของตลาด วิเคราะห์ความยาวของเงา: ยิ่งเงายาวมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความผันผวนและความไม่แน่นอนในช่วงเวลานั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ Spinning Top ไม่ควรใช้เพียงอย่างเดียว: การวิเคราะห์ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Long Lower Shadow คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

20 Long Lower Shadow

Long Lower Shadow คืออะไร? Long Lower Shadow เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีเงาล่างที่ยาวมาก โดยมีความยาวอย่างน้อย 2/3 ของความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน ตัวแท่งเทียน (body) มีขนาดสั้นเมื่อเทียบกับความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน อาจเป็นแท่งเทียนสีขาวหรือสีดำก็ได้ มีเงาบนสั้นหรือไม่มีเลย Long Lower Shadow มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงหรือที่ระดับแนวรับ วิธีใช้ Long Lower Shadow ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Long Lower Shadow มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวรับที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Long Lower Shadow เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Long Lower Shadow มักมีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มหรือการกลับตัว วิเคราะห์ความยาวของเงาล่าง: ยิ่งเงาล่างยาวมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงซื้อที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Long Upper Shadow คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

19 Long Upper Shadow

Long Upper Shadow คืออะไร? Long Upper Shadow เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีเงาบนที่ยาวมาก โดยมีความยาวอย่างน้อย 2/3 ของความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน ตัวแท่งเทียน (body) มีขนาดสั้นเมื่อเทียบกับความยาวทั้งหมดของแท่งเทียน อาจเป็นแท่งเทียนสีขาวหรือสีดำก็ได้ มีเงาล่างสั้นหรือไม่มีเลย Long Upper Shadow มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงแรงขายที่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นหรือที่ระดับแนวต้าน วิธีใช้ Long Upper Shadow ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Long Upper Shadow มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Long Upper Shadow เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Long Upper Shadow มักมีความสำคัญในการยืนยันแนวโน้มหรือการกลับตัว วิเคราะห์ความยาวของเงาบน: ยิ่งเงาบนยาวมากเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงขายที่รุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Hanging Man คืออะไร วิธีใช้วิเคราะห์

16 Hanging Man

Hanging Man คืออะไร? Hanging Man เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่มีลักษณะเฉพาะดังนี้: มีตัวเทียนเล็ก (สีขาวหรือดำ) อยู่ด้านบนของแท่งเทียน มีเงาล่างที่ยาวมาก โดยควรยาวอย่างน้อย 2-3 เท่าของตัวเทียน ไม่มีเงาบนหรือมีเงาบนที่สั้นมาก เกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้น Hanging Man มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น (bearish reversal) โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น วิธีใช้ Hanging Man ในการวิเคราะห์ พิจารณาบริบท: Hanging Man มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน หรือเมื่อราคาอยู่ใกล้ระดับแนวต้านที่สำคัญ ตรวจสอบปริมาณการซื้อขาย: หาก Hanging Man เกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่สูงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวที่แข็งแกร่ง สังเกตแท่งเทียนที่ตามมา: แท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลัง Hanging Man มักมีความสำคัญในการยืนยันการกลับตัว โดยเฉพาะถ้าเป็นแท่งเทียนสีดำ (bearish) วิเคราะห์ความยาวของเงาล่าง: เงาล่างที่ยาวมากบ่งบอกถึงการพยายามขายทำกำไรอย่างรุนแรง แม้ว่าราคาจะปิดใกล้จุดสูงสุดก็ตาม ใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น: เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) เพื่อยืนยันสัญญาณ ข้อควรระวังในการใช้ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ คืออะไร คำอธิบายอย่างละเอียด

กราฟแท่งเทียน 80 รูปแบบ

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick chart) เป็นวิธีหนึ่งในการแสดงข้อมูลการซื้อขายหุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนใช้รูปแบบของแท่งเทียนที่มีลักษณะเป็นตารางเรียงกันในแนวตั้ง โดยแต่ละแท่งจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับราคาเปิดตลาด (Open), ราคาปิดตลาด (Close), ราคาสูงสุดในช่วงเวลา (High), และราคาต่ำสุดในช่วงเวลา (Low) ของหุ้นหรือสินทรัพย์ที่กำลังวิ่งราคาในช่วงนั้น ๆ กราฟแท่งเทียนประกอบด้วยส่วนของตัวแท่ง (body) และส่วนของเส้นระดับราคาสูงสุดและต่ำสุด (wicks) โดยส่วนของตัวแท่งจะมีความหนาหรือบางขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างราคาเปิดตลาดและราคาปิดตลาด ถ้าราคาปิดตลาดสูงกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงขึ้นด้านบน ในทางกลับกัน ถ้าราคาปิดตลาดต่ำกว่าราคาเปิดตลาด จะมีส่วนตัวแท่งแสดงลงด้านล่าง หากแท่งต้นมีสีเขียว แสดงถึงราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ในขณะที่แท่งต้นสีแดงแสดงถึงราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด การวิเคราะห์รูปแบบและการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนช่วยให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบแนวโน้มราคา และดำเนินการตัดสินใจซื้อขายในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะของกราฟแท่งเทียน แผนภูมิแท่งเทียน (Candlestick Chart) มีลักษณะแท่งเทียนที่แสดงข้อมูลราคาของคู่สกุลเงินในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และสังเกตแนวโน้มของราคาในตลาด โดยการแสดงข้อมูลราคาของสินทรัพย์ในรูปแบบของแท่งเทียนที่สามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick) แท่งเทียนขาขึ้นเป็นแท่งเทียนที่แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาในตลาด ลักษณะของแท่งเทียนขาขึ้นมีลักษณะ ใส้เทียนล่าง (Lower Shadow) [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

จิตวิทยาแท่งเทียนและความหมายแท่งเทียนแต่ละแบบ มีอะไรบ้าง

กราฟแท่งเทียน คืออะไร

กราฟแท่งเทียน คืออะไร กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) คือ หนึ่งในวิธีการแสดงข้อมูลราคาของหุ้น, สินค้าหรือเงินตราต่างประเทศในตลาดการเงิน โดยเน้นไปที่การแสดงภาพรวมของการเคลื่อนไหวราคาในแต่ละช่วงเวลาที่กำหนด กราฟแท่งเทียนมีความสามารถในการสะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด และมักถูกนำมาใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อหาแนวโน้มของตลาดและสัญญาณซื้อขาย ส่วนประกอบหลักของกราฟแท่งเทียนได้แก่ ราคาเปิด (Open Price): ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (Close Price): ราคาสิ้นสุดในช่วงเวลานั้น ราคาสูงสุด (High Price): ราคาที่สูงที่สุดในช่วงเวลานั้น ราคาต่ำสุด (Low Price): ราคาที่ต่ำที่สุดในช่วงเวลานั้น ภาพรวมของกราฟแท่งเทียน ส่วนที่เป็นสี (ที่กล่าวว่าเป็น “เทียน” หรือ “Body”) แสดงถึงความแตกต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิด หากแท่งเทียนเป็นสีเขียวหรือขาว หมายความว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น) หากแท่งเทียนเป็นสีแดงหรือดำ หมายความว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลดลง) “เสา” หรือ “Shadow” ที่มีทั้งด้านบนและด้านล่างของเทียนแสดงถึงการเคลื่อนไหวราคาในช่วงเวลานั้น จากราคาสูงสุดไปถึงราคาต่ำสุด จิตวิทยาแท่งเทียน เครื่องมือของนักลงทุน จิตวิทยาแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น หรือตลาดเงินอื่น ๆ จิตวิทยาในที่นี้คือการแสดงถึงการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแต่ละช่วงเวลา [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Breakaway (Bearish, Bullish) คืออะไร วิธีการใช้งาน ลักษณะที่สำคัญ

1 Breakaway (Bearish, Bullish) คืออะไร

Breakaway คืออะไร “Breakaway” เป็นรูปแบบของแท่งเทียน (candlestick) ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟหุ้นหรือตลาดทั่วไป การเกิดขึ้นของ Breakaway pattern มักบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มตลาด (Trend Reversal) ในระยะยาว   รูปแบบ Breakaway candlestick pattern Breakaway candlestick pattern ประกอบด้วย 5 แท่งเทียน โดยมีลักษณะดังนี้ แท่งแท่งเทียนที่ 1 แท่งแท่งเทียนแรก เป็นแท่งเทียนของแนวโน้มปัจจุบัน ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาขึ้น แต่ถ้าเป็นแนวโน้มขาลง แท่งเทียนนี้จะเป็นแท่งเทียนขาลง แท่งแท่งเทียนที่ 2 แท่งแท่งเทียนที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนที่มีช่วงราคาที่ไม่ซ้อนทับแท่งเทียนแรก นั่นหมายความว่า ถ้าแนวโน้มเป็นขาขึ้น แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่สูงกว่าแท่งเทียนแรก และถ้าแนวโน้มเป็นขาลง แท่งเทียนที่สองจะเปิดที่ราคาที่ต่ำกว่าแท่งเทียนแรก แท่งแท่งเทียนที่ 3, แท่งแท่งเทียนที่ 4 และแท่งแท่งเทียนที่ 5 จะเป็นแท่งเทียนที่ยืนยันแนวโน้มใหม่ ซึ่งความยาวของแท่งเทียนไม่จำเป็นต้องเป็นแบบเดียวกัน แต่จะยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม การที่ Breakaway pattern [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

Candlestick Pattern คืออะไร ข้อมูล Candlestick pattern แบบต่าง ๆ

1.Candlestick Pattern คืออะไร

Candlestick Pattern คืออะไร Candlestick Pattern หรือรูปแบบของเทียนเทียน (Candlestick) คือ เทคนิคการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีที่มาจากญี่ปุ่น ถูกใช้ในการวิเคราะห์ราคาของหุ้น, สินค้าหรือสกุลเงินในตลาดทุนและตลาดเงินเพื่อทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต Candlestick มีส่วนประกอบสำคัญ 4 ส่วน คือ ราคาเปิด (Open), ราคาปิด (Close), ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ภายในช่วงเวลาที่กำหนด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดจะได้เทียนสีเขียวหรือขาว แต่ถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด เราจะได้เทียนสีแดงหรือดำ มีหลากหลายรูปแบบ Candlestick ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้ รวมถึง Bullish Engulfing, Bearish Engulfing, Hammer, Hanging Man, Doji และอื่น ๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางของตลาด และสามารถทำการลงทุนอย่างมีระบบและรอบคอบได้ ในส่วนของการใช้งาน Candlestick Pattern ควรถูกใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคอื่น ๆ เพื่อยืนยันแนวโน้มหรือสัญญาณที่ได้ การใช้มันเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ให้ความแม่นยำที่ต้องการ   Candlestick Pattern มีกี่แบบ [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด วิธีการอ่านเกมส์เทรดด้วยแท่งเทียน

1.แท่งเทียน คืออะไร

แท่งเทียน คืออะไร แท่งเทียนหรือ Candlestick เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้สำหรับการแสดงราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่กำหนดไว้ วิธีนี้มาจากญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมในการวิเคราะห์กราฟราคาตลาดหุ้น สกุลเงิน และตลาดอื่นๆ แท่งเทียนประกอบด้วยสี่ส่วนหลักคือ ราคาเปิด (Open Price) : ราคาที่เริ่มต้นในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาปิด (High Price) : ราคาที่สิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาสูงสุด (Low Price) : ราคาที่สูงที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ราคาต่ำสุด (Low Price) : ราคาที่ต่ำที่สุดที่ถูกทำการซื้อขายในช่วงเวลาที่กำหนด ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีเขียว หรือขาว(ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า) และถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด แท่งเทียนจะถูกแสดงเป็นสีแดง หรือดำ ในส่วนของ “ไส้เทียน” คือ เส้นที่ยื่นออกจากตัวแท่งเทียน แทนราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น ตัวแท่งเทียนในภาพรวมแสดงถึงกระแสความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาด และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำนายแนวโน้มของตลาดในอนาคต แท่งเทียนบอกอะไรในการเทรด การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick) สามารถช่วยให้นักเทรดทำความเข้าใจถึงความผันผวนของราคา, แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคา และเป็นสัญญาณแนะนำสำหรับการทำการซื้อขาย มีหลากหลายรูปแบบแท่งเทียนที่นักเทรดทำใช้เป็นสัญญาณ บางรูปแบบมีความแม่นยำสูงเมื่อใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม แท่งเทียนเดี่ยว: มีแท่งเทียนที่มีความหมายด้วยตัวเอง เช่น Doji [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

ทฤษฎีปลายไส้เทียน วิธีการเข้าออเดอร์ปลายไส้แท่งเทียน

ทฤษฎีปลายไส้เทียน

ทฤษฎีปลายไส้เทียน ทฤษฎีปลายไส้เทียนเป็นทฤษฎีที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและตลาดทั่วโลก วิธีนี้ใช้การศึกษา “เทียน” ซึ่งเป็นแผนภูมิที่แสดงราคาการเปิดปิดสูงสุดและต่ำสุดของหุ้นหรือตราสารอื่นในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ละเทียนในแผนภูมิเทียนจะมีส่วนประกอบสองส่วนหลัก คือ “ตัวแท่งเทียน” และ “ไส้เทียน” “ตัวแท่งเทียน” แสดงราคาการเปิดและปิดของตราสารในช่วงเวลาที่กำหนด ส่วน “ไส้เทียน” แสดงราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลานั้น การวิเคราะห์ “ปลายไส้เทียน” จึงมีความสำคัญเพราะสามารถช่วยระบุได้ว่าราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มเคลื่อนที่ในทิศทางใดในอนาคต ตัวอย่างเช่น ถ้าเทียนมีไส้เทียนยาวที่ปลายล่างและตัวแท่งเทียนสีเขียว (หรือแสดงว่าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด) นั่นหมายความว่าในช่วงนั้น ราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ถ้าเทียนมีไส้เทียนยาวที่ปลายบนและตัวแท่งเทียนสีแดง (หรือแสดงว่าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด) นั่นหมายความว่าราคาหุ้นหรือตราสารมีแนวโน้มลดลง ทว่าควรระลึกว่า การวิเคราะห์แผนภูมิเทียนและปลายไส้เทียนเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นักลงทุนและนักวิเคราะห์ยังควรใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคร่วมกับวิเคราะห์ทางพื้นฐาน เพื่อเข้าใจความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือตราสารในระยะยาว   ความหมายปลายไส้เทียน ของกราฟแท่งเทียน กราฟแท่งเทียน (candlestick chart) เป็นแผนภูมิที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด มีทั้งแท่งเทียนสีเขียวหรือแดงซึ่งมีหน้าตาคล้ายแท่งเทียน แต่ละแท่งมีส่วนประกอบที่สำคัญคือ ตัวแท่งเทียน (body) และไส้เทียน (wick หรือ shadow) ตัวแท่งเทียน (Body): ตัวแท่งของเทียนแสดงราคาเปิดและราคาปิดในช่วงเวลานั้น ถ้าราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ขาขึ้น) ต่วแท่งเทียนจะเป็นสีเขียว แต่ถ้าราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ขาลง) ตัวแท่งเทียนจะเป็นสีแดง [อ่านเพิ่มเติมคลิ๊ก]

PNFPB Install PWA using share icon

For IOS and IPAD browsers, Install PWA using add to home screen in ios safari browser or add to dock option in macos safari browser