สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการเทรด คือ ความมั่นใจ บ่อยครั้งในการเทรดที่นักเทรดสมัครเล่นกับนักเทรดอาชีพมีผลการเทรดที่แตกต่างกันมากเพราะตัวนี้แหละ ความมั่นใจ
ความมั่นใจในการเทรดสร้างมาจากการรู้ว่าระบบจะกำไรในระยะยาวและไม่ได้ไปผิดทาง จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเทรดไปสักพักและทำตามระบบได้
นักเทรดสมัครเล่นส่วนมากไม่มั่นใจในระบบ ทั้งที่ระบบเทรดก็เหมือนกันและไม่แตกต่างกันในการใช้เครื่องมือ ก็ใช้เครื่องมือธรรมดาเช่นเดียวกัน แต่จุดที่แตกต่างกันคือ ความมั่นใจ การจะสร้างความมั่นใจ การสร้างวินัย สำหรับใครบางคนอาจจะทำได้ แต่หลายคนอาจจะทำไม่ได้เพราะว่าไม่รู้กระบวนการ ระบบของเราไม่ใช่แค่สิ่งที่พิมพ์อยู่ในนี้ มันคือ กลุ่ม มันคือชุมชน มันคือคนที่คอยให้คำแนะนำคุณ
ผลิตภัณฑ์ที่กองทุนของเราใช้เทรดคือ หุ้นที่อยู่ในโปรแกรม MT4 ของ Exness ได้แก่หุ้น Facebook Apple Tesla Microsoft หรือผลิตภัณฑ์เดียวที่เราแนะนำนอกจากหุ้นคือ น้ำมันเท่านั้น อย่างไรก็ตามเราแนะนำหุ้นมากกว่า
นี่เป็นบทความระบบเทรด โดยทุกคนจะใช้ระบบนี้ซึ่งเป็นระบบเทรดพื้นฐานที่ใช้ฝึกกัน โดยใช้เครื่องมือธรรมดาในการเทรดโดยจะมีเป็นหัวข้อดังตามลำดับต่อไปนี้
ลำดับที่ 1 การกำหนดทิศทางในการเทรด
ทิศทางในการเทรด หรือเทรนด์ สำหรับรายย่อยไม่เคยมีการกำหนดทิศทาง หรือเทรนด์ว่า เทรนด์คืออะไร แล้วตอนนี้เทรนด์ขาขึ้นหรือขาลง การกำหนดเทรนด์ก่อนจะช่วยให้เราเทรดง่ายขึ้น โดยเราใช้เครื่องมือในการกำหนดเทรนด์คือ MACD เครื่องมือบอกเทรนด์ คุณสามารถใช้ MACD บอกเทรนด์ใน Time Frame ที่ใหญ่กว่าใน Time Frame 4 ชั่วโมง หรือ 1 วัน และต้องมีวันที่ไม่เทรดอยู่ด้วย การตั้งค่า MACD เป็นค่ามาตรฐานใน MT4 ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้จำกัดว่า คุณจะต้องใช้ MACD ระบุเทรนด์เหมือนเรา คุณสามารถใช้การตีเส้นเทรนด์ Line ได้ นักเทรดของเราใช้ Trend Line ในการบอกเทรนด์ได้เช่นเดียวกัน คุณสามารถเลือกได้ แต่ถ้าคุณไม่รู้จะเลือกตัวไหน ก็ใช้ MACD ได้เช่นเดียวกัน
ลำดับที่ 2 การหาจุดเข้าเทรด
การหาจุดเข้าเทรด นั้นไม่แตกต่างกับการหาเทรนด์ คือ ต้องหาจุดเข้าเทรดจากเครื่องมือที่ถนัด โดยต้องสอดคล้องกับเทรนด์ เช่น ถ้าเทรนด์เป็นขาลง คุณต้องเทรด Sell เท่านั้น และถ้าเทรนด์ เป็น Buy คุณต้องเทรด Buy เท่านั้น
สำหรับการใช้ Time Frame หาจุดเข้า เรากำหนดให้ใช้ 30M เท่านั้น ไม่แนะนำ Time Frame อื่นถ้านอกเหนือจากนี้เราไม่แนะนำ
การจะหาจุดเข้าเทรด คุณสามารถใช้ Indicator ธรรมดาตัวอื่นเป็นตัวบอกจุดเข้าได้ ไม่ว่าจะเป็น
- ตี Trend Line
- MACD
- Stochastic
- หรือ RSI
- Elliot Wave
แต่สิ่งสำคัญคือ เข้าเทรดให้ตรงกับเทรนด์ ความสำคัญของจุดเข้าเทรดคือ คุณต้องหาจุดเข้าได้ดี เพราะว่ายิ่งคุณหาจุดเข้าได้ดี มันจะยิ่งกำหนดกำไร และ ขาดทุนของคุณได้มาก แม้จะถูกเทรนด์แต่ว่า ถ้าหากหาจุดเข้าได้ไม่ดี ก็ทำให้ออเดอร์นั้นขาดทุนได้เพราะว่า การส่งคำสั่งอาจจะชน Stop loss ได้
สำหรับคนที่ไม่สามารถหาจุดเข้าที่ดีได้ เราแนะนำใช้ MACD หรือ อ่านบทความ บทที่ 2 การเรียนรู้การวิเคราะห์กราฟ ได้เลย
ลำดับที่ 3 การกำหนดขนาด Lot ในการเทรด
สำหรับการกำหนดขนาด เราจะใช้ความเสี่ยงต่ำสุดในการส่งคำสั่งแต่ละครั้ง โดยขนาด Lot ต่อเงินทุนมีดังต่อไปนี้
- เงินในบัญชีย่อย 100 USD ส่งขนาด 0.01 Lot
- เงินในบัญชีย่อย 200 USD ส่งขนาด 0.02 Lot
- เงินในบัญชีย่อย 300 USD ส่งขนาด 0.03 Lot
- เงินในบัญชีย่อย 1000 USD ส่งขนาด 0.10 Lot
- เงินในบัญชีย่อย 10000 USD ส่งขนาด 1 Lot
หมายเหตุ: ขณะที่การที่เงินในบัญชีย่อย ได้กำไรเกิน 100 USD จะต้องถอนออกและไปพักไว้ในบัญชีใหญ่ เช่น มีกำไร 50 USD จะถูกถอนออกไปเหลือเพียง 100 USD ตามเดิม กรณีที่ขาดทุนในบัญชีย่อยต่ำกว่า 50 USD ให้ดึงเงินมาจากบัญชีใหญ่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขาดทุนมากกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ลำดับที่ 4 TP ควรตั้งหรือไม่ควรตั้ง
หลายคนอาจจะแนะนำให้ตั้ง Take Profit หรือ TP แต่ที่นี่เนื่องจากเราทำการเทรดและกินกำไรกับวันที่เราเทรดถูกทาง เราจะไม่รู้ว่ามันจะลดลงมากหรือน้อยเพียงใด สิ่งที่เราทำได้คือ ไม่ควรจะตั้ง TP อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยากตั้งก็ตั้ง TP ได้เช่นเดียวกัน โดยอย่างน้อยควรตั้ง TP ให้มากเป็น สองเท่าของ SL
ลำดับที่ 5 การกำหนด SL
สำหรับการกำหนด SL คุณควรตั้งให้ขาดทุนได้ไม่เกิน 20 USD เพราะนั่นคือ ครึ่งหนึ่งของบัญชีเททรดของคุณในการเทรด 1 ครั้งเพราะว่า การเทรดหุ้น สหรัฐฯ มีการแกว่งตัวสูง จุดเข้าเทรดของคุณต้องดีด้วยเช่นกัน แม้จะถูกเทรนด์ แต่ถ้าจุดเข้าไม่ดี ก็จะทำให้ Stop Loss ที่ได้ไม่ดีทำให้ขาดทุนง่าย แต่เราแนะนำให้ไม่เกิน 20 USD สำหรับบัญชี 100 USD และ Lot 0.01 การเทรดในน้ำมัน Lot 0.01 นั้นรองรับได้ไกลอยู่แล้วสำหรับ ขนาด Lot 0.01 ซึ่งปกติถ้าขาดทุนเกิน 10 เหรียญก็ถือว่าผิดทางเยอะมากแล้วสำหรับการเทรดแบบ Prop Trader
ถ้าหากคิดว่าการเทรดนั้นผิดทางควรจะปิดออเดอร์ ไม่ต้องรอให้ชน Stop Loss จำไว้ว่า Stoploss มีไว้เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดเท่านั้น ส่วนถ้าหากจะรู้ว่าผิดทางก็ควรปิดออเดอร์ได้เลย
สำหรับการกำหนด Stop loss ไม่นิยมกำหนดเป็นจุด แต่เราจะกำหนดจากจุดไหนที่เรียกว่า กราฟไม่ควรจะเคลื่อนที่ไปถึง ถ้าไปถึงจุดนั้นเรียกว่า กราฟกลับตัวแล้ว จึงทำการปิดออเดอร์
ลำดับที่ 6 กฏอื่น ๆ ที่สำคัญ
- เราแนะนำเทรดเทรดน้ำมัน หรือ Crypto เพราะว่า เราไม่สามารถไปตามแก้ไขให้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์ได้ ถ้าทุกคนเทรดไม่เหมือนกัน และที่สำคัญ Forex มีความยากในการคุมเวลาเทรดมากกว่า
- ถ้าไม่มี SL คุณไม่ได้ทำตามกฏของเรา และนั่นร้ายแรงมาก คือ คุณไม่สามารถรักษาวินัย เราก็ไม่สามารถที่จะแนะนำคุณได้เช่นกัน
- การส่งออเดอร์ส่งได้เพียงครั้งละ 1 ออเดอร์ไม่ว่าคุณจะกำไรอยู่หรือขาดทุนอยู่คุณไม่สามารถส่งออเดอร์เพิ่มได้
- การเทรดส่งคำสั่งได้เพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้นครั้งละ 1 ออเดอร์ นั่นคือ ถ้าผิดพลาดในวันนั้น คุณจะต้องคิดให้ดีก่อนส่งคำสั่ง ถ้าผิดพลาดแล้ววันนั้นคุณจะหมดโอกาสทันที
- กรณีที่ขาดทุนติดกัน 3 ครั้ง คุณควรต้องพิจารณาตัวเองให้หยุดเทรดและหาสาเหตุว่า ทำไมผิดติดต่อกันถึง 3 ครั้ง เราแนะนำให้คุณปรับปรุงจุดเข้าเทรด โดยคุณหยุดเทรดก่อน 3 วันเพื่อทำการปรับปรุงจุดเข้าเทรด
- จุด Stoploss คือ จุดป้องกันจุดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การตัดขาดทุนด้วยมือ ถ้าไม่แน่ใจว่าราคาเคลื่อนไหวอย่างที่เราคิดควรทำได้
- วันไหนไม่แน่ใจในการวิเคราะห์จังหวะเข้าเทรดของตัวเองให้หยุดเทรด ไม่ต้องส่งคำสั่ง วันไหนวิเคราะห์ทิศทางไม่ออก หรือมองเทรนด์ไม่ออกให้หยุดเทรดไม่ต้องส่งคำสั่งเช่นเดียวกัน
- การถือออเดอร์ขาดทุน ไม่ควรถือออเดอร์เกิน 2 วัน (จริง ๆ แล้วควรวันเดียว แต่เนื่องจากเวลาประเทศไทย ไม่ตรงเวลาเทรดหุ้นสหรัฐฯ จึงอนุโลมให้ปิดในวันถัดไปได้) เพราะถ้าผิดพลาดยาวขนาดนั้นแสดงว่าคุณคาดการณ์ผิดแล้ว แต่ถ้าหากคุณกำไร คุณจะถือนานเท่าไหร่ก็ได้ นั่นคือ Let's Profit run
ขั้นตอนในการเทรดที่สำคัญมีเพียงเท่านี้ เราขอแนะนำให้คุณทำการเชื่อม Myfxbook ไว้ด้วย เพราะว่าจะต้องใช้ในการวิเคราะห์ระบบของคุณในกรณีที่คุณต้องการคำปรึกษาจากเรา
สำหรับนักเทรดที่ต้องการออกแบบระบบเอง ออกแบบความแม่นยำเอง คุณสามารถทำได้ โดยการหาอ่านได้ตามบทความทั่วไป หรือ อ่านบทเรียนของเราเพื่อใช้ในการเทรดได้ หรือใช้ระบบเทรดอย่างที่เรายกตัวอย่างก็ได้เช่นกัน
กฏการเทรดของเรา มีง่าย ๆ คือ ทำตามคำแนะนำของเราในหน้านี้ทุกข้อ เราถึงจะแนะนำให้คุณได้ “ว่าคุณต้องแก้ตรงไหน และผิดพลาดตรงไหน” ถ้าหากคุณไม่มีวินัยในการเทรดทำตามกฏหน้านี้ของเราได้ นั่นเป็นสิ่งที่เราแก้ไขให้คุณไม่ได้ เงินคุณ คุณต้องเห็นความสำคัญของเงินของคุณ
