เทรดประสบความสำเร็จต้องรู้
อย่างที่น้องเป็ดได้พูดไปตอนแรกค่ะว่า ไม่ว่าตลาดอะไรก็ตาม ต้องใช้การวิเคราะห์กราฟ เพราะฉะนั้น คนที่บอกว่า ไปเรียนพื้นฐานว่า Forex คืออะไร คุณก็หาอ่านตามอินเตอร์เนทได้ค่ะ แต่ไม่ได้ช่วยให้คุณเทรดเก่งขึ้นเท่าไหร่ค่ะ แค่รู้ประวัติค่ะ เนื้อ ๆ ของมันเลยมีอยู่แค่ 3 อย่าง คือ
- การวิเคราะห์กราฟ
- ระบบเทรด
- วินัยในการเทรด
บทเรียนของเราก็เลยมุ่งเน้นทำความเข้าใจ 3 อย่างนี้ตามแบบฉบับของกองทุนบริหารเงินส่วนบุคคลทั่วไปในต่างประเทศทำกัน โดยการวิเคราะห์กราฟก็คือ การวิเคราะห์ทางเทคนิคนี่แหละค่ะ สำหรับบทเรียนนี้ เราจะพูดถึงการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคเพียงแค่ไม่กี่ตัวอย่างค่ะ ซึ่งแต่ละคนก็จะเน้นไปที่เทคนิคที่แตกต่างกัน โดยน้องเป็ดจะเน้นไปในเทคนิคที่น้องเป็ดถนัด นั่นก็คือ Trend Line การตีเส้น Trend Line เพื่อหาจุดเข้าออกค่ะ น้องเป็ดคิดว่ามันเป็นเทคนิคที่ใช้ได้ดีและเรียบง่ายกว่าทุกเทคนิคแล้ว ส่วนใครจะไปหาวิธีใช้ Indicator หรือว่า เทคนิคพวก Elliot Wave Price Action หรือ Demand Supply Zone หรือว่า Fibonacci ก็ไม่ว่ากันค่ะ สามารถใช้ได้
ทำไม Trend Line ธรรมดาถึงใช้ได้ผล
ถ้าจะบอกว่า Trend Line ได้ผลหรือเปล่า ก็ต้องบอกตามความจริงเลยค่ะว่า ไม่ได้ผล 100 % หรอกค่ะ แต่ว่าในโลกนี้ไม่มี Indicator ตัวไหนใช้ได้ผล 100 % หรอกนะคะ นั่นก็หมายความว่า ใช้อะไรก็ใช้ไปเถอะค่ะ มันก็ได้ผลเหมือนกันหมด มันไม่ได้อยู่ที่ Indicator ตัวเดียว เมื่อก่อนตอนที่น้องเป็ดเข้าวงการใหม่ ๆ ก็ง่วนอยู่กับการหา Indicator เหมือนกันค่ะ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็มาจบที่เทรนด์ไลน์
นักเทรดส่วนใหญ่ก็จะมีเครื่องมือของตัวเองไม่ว่ากองทุน หรือรายย่อย สำคัญที่ว่าวิเคราะห์กราฟออกมาแล้วใช้ได้ก็พอค่ะ
ทีนี้ถ้าบอกว่าไม่ได้ผลเลยก็คงจะไม่ใช่ แต่ถามว่าทำไม Trend Line ถึงใช้ได้ผล ก็เพราะว่า Trend Line มันเป็นการตีจากความคิดคน ไม่ใช่ค่าคำนวณแบบคณิตศาสตร์ มันเลยยืดหยุ่นกว่า และไม่มีกฏที่จะทำให้มันเพี้ยนค่ะ แต่ความเพี้ยนนั้นจะมาจากคนตีเป็นหลัก ก็ถ้าหากว่ารู้วิธีการที่จะทำให้คนตีถูกได้ ก็จะแม่นยิ่งกว่า Indicator อีก
น้องเป็ดจะยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ใน indicator ที่ติดมาจะเห็นว่ามันใช้ได้เป็นช่วง ๆ บางช่วงใช้ไม่ได้ค่ะ ก็เพราะว่ามันเป็นค่าที่ตายตัวเกินไป แต่คนเราสามารถยืดหยุ่นความคิดตัวเองได้ค่ะ ทำให้มันไม่ตายตัวเหมือน Indicator แต่อย่างไรก็ตาม นักเทรดเก่ง ๆ ที่ใช้ Indicator ก็มีนะคะ ซึ่งพี่ ๆ ในที่ทำงานของน้องเป็ดก็ใช้ Indicator เช่นกัน
ถ้าในสถานการณ์ชาร์ทเดียวกัน น้องเป็ดจะลองตีเส้นเทรนไลน์ให้ดูค่ะว่า ทำไมคนถึงยืดหยุ่นกว่าและตีได้ดีกว่า ตามน้องเป็ดมาเลยค่ะ
นี่เป็นกราฟอันเดียวกันนะคะ แต่ว่าตีใหม่ค่ะ จะเห็นว่า มีกฏการตีเทรนไลน์ง่าย ๆ ค่ะ คือ ถ้าเบรกทะลุออกจากกรอบและไม่กลับเข้าไปปิดในเส้นก็ลากใหม่ พอเราลาก เราก็จะทำได้ง่าย เพราะเรากำหนดไว้แล้วว่าเราจะเทรดแบบไหนบ้าง ซึ่งมันทำได้เลยค่ะ มันสะท้อนความเป็นจริง และสามารถหาจังหวะเทรดได้หลายจังหวะกว่าอินดี้ค่ะ
ถ้าเป็นอินดี้อย่างที่ใส่ในกราฟ เราจะหาจังหวะเทรดบางช่วงไม่ได้เลยเพราะว่ากราฟมันพังไปแล้วค่ะ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเส้นเทรนไลน์ใช้ได้ผลดีกว่าอินดิเคเตอร์ตัวอื่น ๆ สำหรับน้องเป็ดค่ะ
วิธีการตีเส้น Trend Line
สำหรับเนื้อหานี้น้องเป็ดจะสอนภาพรวมก่อนนะคะ ว่า การตีเส้น Trend Line แบบน้องเป็ดตีได้กี่แบบ และกำหนดไว้กี่แบบเพื่อไม่ให้เราสับสนค่ะ น้องเป็ดเทรดมา 5 ปีแล้วค่ะ อยู่กับ Forexduck มา 2 ปี ประสบการณ์ไม่มากเท่าพี่ ๆ ในกองทุนที่มีประสบการณ์เป็น 10 ปีค่ะ เค้าเห็นน้องเป็ดว่างเลยให้มาเขียนเว็บค่ะ 5555
กฏการตีเส้นเทรนไลน์ของน้องเป็ด
การตีเส้นเทรนไลน์ก็มีกฏนะคะ ถ้าไม่มีกฏเราจะตีมั่วและตามใจเราค่ะ สำหรับน้องเป็ดการตีเส้นเทรนไลน์เราจะทำการตีตามกฏต่อไปนี้ คือ
กฏข้อที่ 1 การเริ่มนับจุดตีเส้นต้องนับจากแท่งเทียนที่หลุดออกจากเทรนไลน์มาเกิน 2 แท่ง คือ ถ้าแท่งต่อมามันวกกลับเข้าไปในเทรนไลน์ที่เราตีถือว่ายังเป็นเทรนเก่าอยู่ค่ะ ยังไม่ทำการตีเส้นใหม่
กฏข้อที่ 2 เส้นเทรนไลน์จะต้องตีตรงปลายเส้นแท่งเทียนล่างและบนค่ะ ไม่ตีบนตัวเทียน โดยจะตีบนแท่งที่ยาวสุดเท่านั้น
สมมุติว่าในกราฟกรอบสี่เหลี่ยมน้ำเงินยังไม่เกิดนะคะ ถ้าเราตีตามกรอบเทรนไลน์ที่น้องเป็ดวาง มันจะได้กินยาวหลายต่อเลย เพราะว่าเราตีปลายไส้ มันจะไม่ชน SL เราง่ายด้วยค่ะ
ส่วนใหญ่ที่ขาดทุนกันก็เพราะว่าไม่ได้กำหนดกฏการตีไว้แบบนี้แหละค่ะ
กฏข้อที่ 3 เทรนไลน์ต้องใช้จุด 3 จุดบรรจบกัน แต่ใครอยากจะใช้ 4 จุดก็ได้ไม่ว่ากัน นักเทรดกองทุนส่วนใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์กองทุนมาจะใช้ 4 จุดเพื่อความแน่นอน
แต่มีกฏสำคัญคือ จุดที่ 1 จะต้องห่างจากจุดที่ 2 มากกว่าหรือเท่ากับ 5 แท่ง และจุดที่ 2
ถึงจุดที่ 3 ก็เช่นกันค่ะ
ในรูป 1 ถึง 2 ห่าง 6 แท่ง จุดที่ 2 ถึง 3 ห่าง 6 แท่งเช่นกัน เพราะมันจะตีได้แน่นอนว่าเกิดเทรนแน่ ๆ ค่ะ
สำหรับกฏการตีเทรนไลน์มีแค่ 3 ข้อเท่านี้ค่ะ ทบทวนกันอีกทีเพื่อให้จำได้ในครั้งเดียวคือ
- นับจุดเริ่มต้นเทรนใหม่เมื่อแท่งที่ 2 ไม่กลับเข้าไปในเทรนไลน์ค่ะ
- ให้ตีปลายไส้ของแท่งเทียน อย่าตีบนตัวเทียน
- ให้ระยะห่างของการกำหนดจุดมากกว่าหรือเท่ากับ 5 แท่งค่ะ
- ส่วนการตีผิดก็มีกฏนะคะ ถ้าหากว่า ตีผิด ทางกองทุนที่น้องเป็ดทำงานมีกฏว่า ต้องเลิกเทรดเทรนนั้นไปเลยค่ะ เพราะว่า เรามองผิดเราไม่ควรเทรด ถ้าตีได้แล้วปรากฏว่ามันเทรดชน Stop loss ต้องไปรอเทรนใหม่เลยค่ะ
ขั้นตอนการวิเคราะห์ราคา
หลังจากที่เราตีเส้นเทรนไลน์เป็นแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะเทรดเป็นเลยนะคะ การวิเคราะห์ชาร์ทฉบับน้องเป็ดจะต้องมีขั้นตอนเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ ไม่งั้นมันจะผิดพลาดเหมือนนักเทรดที่เทรดผิดอยู่ในตลาดนั่นแหละค่ะ
- เทรนไลน์จะต้องใช้ดูว่า ตลาดไปทางไหน
- เทรนไลน์ใช้สำหรับหาจุดเข้าเทรด
- เทรนไลน์ใช้สำหรับหาจุดเข้าและจุดออก
ทั้ง 3 อันนี้ ใช้เทรนไลน์ได้เลยค่ะ ทำให้เราเทรดได้แม่นยำและเป็นระบบมากขึ้น เรามาดูทีละขั้นตอนกันเลยค่ะ ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ ใช้สำหรับการวิเคราะห์ ก่อนการวิเคราะห์ตลาดเพื่อทำการเข้าเทรดต้องทำตาม 3 กระบวนการนี้เท่านั้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 ดู Trend ก่อนว่าตลาดไปทางไหน
การดูว่าตลาดไปทางไหนเราก็ใช้ดู TF ใหญ่ค่ะ ส่วนทางกองทุนจะเป็นการเทรดรายวัน เราจะเน้นไปที่ TF 1 ชั่วโมงเป็นตัวกำหนดทิศทางการเทรดค่ะ แล้วไปเทรด TF ย่อย ๆ นี่เป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันที่นี่ค่ะ จะเห็นนักเทรด Asia ใช้กันเป็นส่วนมาก
เราตีบน Time Frame ใหญ่ค่ะ เช่น 1 ชั่วโมง แล้วเราจะไปดูที่กราฟ 15 นาทีเป็นหลัก เพราะว่ากราฟ 15 นาที 4 แท่งจะเท่ากับ 1 ชั่วโมง เราจะเห็นจังหวะเทรดเยอะมาก ทำให้เราหาสัญญาณเทรดได้ง่ายค่ะ ซึ่งคือขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 ตี Trend Line เพื่อหาจุดเข้าเทรด
เมื่อเราตีเทรนด์ไลน์แล้ว เราก็จะกด Zoom เปลี่ยนกราฟไปดูที่กราฟ 15 นาทีค่ะ ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น ตามวีดีโอเลยค่ะ
จะสังเกตได้ว่าใน Time Frame 15 นาทีเราจะเห็นจังหวะและจำนวนแท่งเทียนมากขึ้นค่ะ ซึ่งนี่คือ เทคนิคสำคัญที่ทำให้นักเทรดมืออาชีพต่างจากนักเทรดสมัครเล่นทั่วไปค่ะ
ทีนี้เราก็จะเห็นจุดที่เส้นสัมผัสเส้นเทรนไลน์ชัดเจนแล้วนะคะ เราก็จะสามารถเข้าเทรดได้แม่นยำขึ้นค่ะ เทคนิคนี้ไม่หวงค่ะ เพราะว่า เค้าก็รู้กันทั่วกองทุนอยู่แล้วค่ะ (555 ขำแห้ง)
ทีนี้วิธีการส่งคำสั่ง จะเห็นว่า มันจะต้องเฝ้าหน้าจอใช่ไหมคะ บางที่เขาจะมี EA ที่ตั้งว่าสัมผัสเส้นเทรนไลน์แล้วจะส่งออเดอร์ให้ค่ะ หรือว่า จะตั้ง Pending Order เอาก็ได้ค่ะ ส่วนมากก็ตั้ง Pending Order เอาเพราะว่า ส่งมือมันไม่ค่อยทันหรอกค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 กำหนดจุด Stoploss และ Take Profit
หลังจากนั้น เราจะมาดูกันว่า มุมมองของนักเทรดกองทุนเขามองกราฟยังไง ต่างจากคนข้างนอกยังไงค่ะ
ในภาพน้องเป็ดขยายตรงจุดเข้าให้ดูนะคะ นั่นคือ ไม้ SELL คู่เงิน GBPUSD เพราะเรามองว่า TF 1H เป็นขาลง เราเลยส่ง Sell อย่างเดียว เราหด TF มาเทรดที่เวลา 15 นาที หาจุดเข้าได้ ตรงจุดคำว่า Entry เพราะมันชนเส้น Trend Line ด้านบนค่ะ เลยเข้าเทรด
เส้น Trend Line สีเหลืองของเรา คือ กรอบเทรนไลน์นะคะ มีเหลืองล่างกับเหลืองบน แต่ว่า
เส้นสีแดงด้านบนสีเหลือง คือ จุด Stop loss ค่ะ จะเห็นว่ามันถูกตั้งสูงขึ้นไปด้านบนเทรนไลน์อีกทีหนึ่งค่ะ เพราะว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ชน SL ง่ายค่ะ
ส่วนจุดเข้าเทรดของเราก็คือตรงเส้นเทรนไลน์สีเหลืองนั่นแหละค่ะ คือจุดเข้า ง่าย ๆ ฉะนั้นจะตั้งจุดเข้าก็ตั้งตรง Trend line ได้เลย แต่จุดทำกำไรไม่เหมือนกันนะคะ
เส้นสีน้ำเงินมันจะอยู่ตรงข้างในเทรนไลน์อีกที นักเทรดมือสมัครเล่นส่วนใหญ่จะตีตรงเทรนไลน์ค่ะ แต่พอมันไม่ถึงเลยขาดทุนเป็นส่วนใหญ่ มืออาชีพเขาไม่ทำแบบนั้นค่ะ เขาตีข้างในจุดที่มีการชนราคาบ่อย ๆ ทำให้เขาชน TP ง่ายกว่า และ Risk Reward หรือ RR ก็ยังดีค่ะ
สรุป
สรุปการวิเคราะห์ชาร์ทในการเทรดก่อนนะคะ สำหรับการใช้ Trend Line เท่านั้นค่ะ เพราะน้องเป็ดใช้อันนี้คล่องอย่างเดียว จะเห็นว่าจะต้องมีกฏของการใช้และถ้าแหกกฏตัวเองจะไม่สามารถเทรดได้ค่ะ สิ่งที่กำกับตรงนี้อยู่คือ วินัย จะเห็นว่า หลายอย่างแตกต่างจากมุมมองของรายย่อยทั่วไปค่ะ และที่สำคัญ มันยังไม่จบแค่นี้นะคะ การจะกำไรได้ น้องเป็ดจะมีพี่ผู้จัดการกองทุนคอยควบคุมกำกับ ก็เหมือนกับเล่นกีฬา วอลเล่ย์บอลเลยค่ะ เวลาผู้จัดการหรือโค๊ชเห็นเราเล่นไม่ดี เล่นเสีย หรือวันไหนเราเล่นไม่ออก เขาจะเปลี่ยนเราออกก่อน การเทรดในกองทุนก็เหมือนกัน เห็นเราเทรดไม่ดีเขาจะให้เราพัก และทำอย่างอื่น วันไหนเราทำได้ดีเราก็โต้คลื่นเต็มที่เลยค่ะ
