Leverage คือ อะไร ทำความรู้จักกับคำศัพท์การลงทุน forex

IUX Markets Bonus

Leverage คืออะไร

ในโลกของการเทรด Forex (Foreign Exchange) คำว่า “Leverage” หรือ “การใช้เงินทุนแบบทวีคูณ” เป็นหนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดที่นักลงทุนทุกคนควรเข้าใจอย่างถ่องแท้ Leverage เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลัง สามารถเพิ่มกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำมาซึ่งการขาดทุนอย่างรุนแรงได้เช่นกัน บทความนี้จะอธิบายความหมาย กลไกการทำงาน ประโยชน์ และความเสี่ยงของ Leverage ในตลาด Forex อย่างละเอียด

Leverage คืออะไร
Leverage คืออะไร

ความหมายของ Leverage ในตลาด Forex

Leverage ในตลาด Forex หมายถึง การที่นักลงทุนสามารถควบคุมปริมาณเงินในการเทรดที่มากกว่าเงินทุนที่มีอยู่จริงในบัญชี โดยการ “ยืม” เงินจากโบรกเกอร์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเปิดสถานะการเทรดที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่หลายเท่า

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน $1,000 ในบัญชี และโบรกเกอร์ของคุณเสนอ Leverage 1:100 คุณจะสามารถควบคุมปริมาณเงินในการเทรดได้สูงถึง $100,000 ($1,000 x 100) ซึ่งหมายความว่าการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อบัญชีของคุณ

แนวคิดเกี่ยวกับ Leverage

การใช้ Leverage ในการลงทุน เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อในการซื้อขาย ทำให้เงินเพียงน้อยนิดสามารถทำกำไรได้จำนวนมาก เพราะว่าสามารถซื้อได้มากขึ้น ยิ่ง Leverage สูงยิ่งทำให้สามารถซื้อได้จำนวนมากเขึ้น Leverage ของตลาด Forex มีหลายระดับและแต่ละระดับแตกต่างกัน

  • Leverage คือ สิ่งที่โบรกเกอร์เสนอให้กับเทรดเดอร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการซื้อขาย
  • Leverage ยิ่งสูง ยิ่งทำให้ความสามารถในการเพิ่มกำไรสูงขึ้น
  • Leverage ยิ่งสูง ยิ่งเปิดออเดอร์ได้มากขึ้น โดยเงินลงทุนเท่าเดิม
  • Leverage ยิ่งสูง ยิ่งเปิดออเดอร์ด้วย Lot ที่สูงขึ้นได้
  • แต่ละโบรกเกอร์ได้เสนอ Leverage ให้กับเทรดเดอร์แตกต่างกัน
  • บัญชีประเภทต่าง ๆ มีการเสนอ Leverage ในระดับแตกต่างกัน
  • Leverage มี 1:30, 1:100, 1:200, 1:500, 1:1000, 1:2000 เป็นต้น
  • Leverage สูงสุดที่โบรกเกอร์เสนอให้กับเทรดเดอร์ คือ ไม่จำกัด

TIPs: ยิ่ง Leverage ยิ่งเยอะ การเปิดออเดอร์ยิ่งทำได้จำนวนมากยิ่งขึ้น เมื่อจำนวนที่สามารถเปิดได้มากขึ้น กำไรก็ยิ่งมากขึ้น ขณะเดียวกัน การขาดทุนก็จะมากขึ้นเช่นเดียวกัน

 

HFM Market Promotion

โบรกเกอร์ Forex ที่เสนอ Leverage สูงสุดคือ โบรกเกอร์ Exness ซึ่งให้ Leverage แบบ Unlimited แก่นักลงทุน ทำให้นักลงทุนไม่เจอปัญหาเงินทุนไม่เพียงพอในการส่งคำสั่ง และทำให้ฝากขั้นต่ำของนักลงทุนสามารถทำกำไรได้แม้ใช้เงินเพียง 10 USD เท่านั้น

กลไกการทำงานของ Leverage ในตลาด Forex

การทำงานของ Leverage ในตลาด Forex เกี่ยวข้องกับแนวคิดของ “Margin” หรือ “หลักประกัน” ซึ่งเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่คุณต้องมีในบัญชีเพื่อเปิดและรักษาสถานะการเทรด

Margin-Based Leverage

Margin-Based Leverage คำนวณได้จากสูตร:

Margin-Based Leverage = มูลค่ารวมของธุรกรรม / Margin ที่ต้องใช้

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเทรด 1 ล็อตมาตรฐานของ USD/CHF ซึ่งมีมูลค่า $100,000 และโบรกเกอร์กำหนด Margin Requirement ที่ 1% คุณจะต้องวาง Margin $1,000

ดังนั้น Margin-Based Leverage จะเท่ากับ:

100,000 / 1,000 = 100:1

Real Leverage

Real Leverage คือ Leverage ที่คุณใช้จริงในการเทรด ซึ่งคำนวณได้จากสูตร:

Real Leverage = มูลค่ารวมของธุรกรรม / เงินทุนทั้งหมดในบัญชี

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน $10,000 ในบัญชี และคุณเปิดสถานะการเทรดมูลค่า $100,000 Real Leverage ของคุณจะเท่ากับ:

100,000 / 10,000 = 10:1

ประเภทของ Leverage Ratios ในตลาด Forex

Leverage Ratios ในตลาด Forex มีหลากหลายระดับ โดยทั่วไปมักจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 50:1 ไปจนถึง 400:1 ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และกฎระเบียบของแต่ละประเทศ ตัวอย่าง Leverage Ratios ที่พบบ่อย ได้แก่:

  1. 50:1 – เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ระมัดระวังหรือมือใหม่
  2. 100:1 – เป็นระดับที่พบบ่อยในตลาด Forex
  3. 200:1 – สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และยอมรับความเสี่ยงได้สูง
  4. 400:1 – ระดับสูงสุดที่มักพบในบางประเทศ ใช้ความระมัดระวังสูงมาก

ประโยชน์ของการใช้ Leverage ในตลาด Forex

  1. เพิ่มกำไรที่อาจเกิดขึ้น: Leverage ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเพียงเล็กน้อยได้
  2. ใช้ประโยชน์จากเงินทุนจำนวนน้อย: คุณสามารถเข้าถึงตลาด Forex ด้วยเงินทุนเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก
  3. ความยืดหยุ่นในการลงทุน: คุณสามารถกระจายการลงทุนไปในหลายคู่สกุลเงินได้ง่ายขึ้น
  4. โอกาสในการ Short Sell: Leverage ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรจากตลาดขาลงได้ง่ายขึ้น
  5. การเทรด 24 ชั่วโมง: ตลาด Forex เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Leverage ได้ตลอดเวลา

ความเสี่ยงและข้อควรระวังในการใช้ Leverage

  1. การขาดทุนที่เพิ่มขึ้น: เช่นเดียวกับการเพิ่มกำไร Leverage ก็สามารถเพิ่มการขาดทุนได้เช่นกัน
  2. Margin Call: หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกับที่คุณคาดการณ์ คุณอาจได้รับ Margin Call ซึ่งหมายความว่าคุณต้องเพิ่มเงินในบัญชีหรือปิดสถานะการเทรดบางส่วน
  3. การขาดทุนเกินเงินฝาก: ในบางกรณี การขาดทุนอาจมากกว่าเงินที่คุณฝากไว้ในบัญชี
  4. ความผันผวนของตลาด: ตลาด Forex มีความผันผวนสูง ซึ่งเมื่อรวมกับ Leverage แล้วอาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างรวดเร็ว
  5. ความเสี่ยงทางจิตวิทยา: Leverage อาจทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าตนมีเงินทุนมากกว่าความเป็นจริง นำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ

กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้ Leverage

  1. ใช้ Stop Loss: กำหนดจุด Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
  2. ไม่ใช้ Leverage สูงเกินไป: เริ่มต้นด้วย Leverage ต่ำๆ และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น
  3. ศึกษาและวิเคราะห์ตลาดอย่างสม่ำเสมอ: การมีความรู้และข้อมูลที่เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ
  4. จำกัดขนาดการเทรด: ไม่ควรใช้เงินทุนทั้งหมดในการเทรดเพียงครั้งเดียว
  5. ใช้ Demo Account: ฝึกฝนการใช้ Leverage ในบัญชีทดลองก่อนเริ่มเทรดจริง
  6. มีแผนการเทรดที่ชัดเจน: กำหนดเป้าหมายกำไรและจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า

ตัวอย่างการใช้ Leverage ในการเทรด Forex

สมมติว่าคุณมีเงินทุน $1,000 และต้องการเทรด EUR/USD โดยใช้ Leverage 100:1

  1. คุณสามารถควบคุมปริมาณเงินในการเทรดได้สูงถึง $100,000 (1,000 x 100)
  2. หากคุณซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.2000 และราคาเพิ่มขึ้นเป็น 1.2010 (10 pips)
  3. กำไรของคุณจะเท่ากับ: (1.2010 – 1.2000) x 100,000 = $100
  4. ซึ่งคิดเป็น 10% ของเงินทุนเริ่มต้นของคุณ

ในทางกลับกัน หากราคาลดลงเป็น 1.1990 คุณจะขาดทุน $100 หรือ 10% ของเงินทุนเริ่มต้น

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leverage

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leverage มีอะไรบ้าง การลงทุนประเภทใดบ้างที่ใช้ Leverage มีรายชื่อดังต่อไปนี้

  • Forex Spot
  • Forex Futures
  • Forex CFDs
  • Stock Futures
  • Stock Options
  • Cryptocurency CFDs
  • Commodity CFDs : ทองคำ น้ำมัน โลหะ อื่น ๆ
  • Binary Options : เช่น IQ option OLYMPTRADE

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Leverage จะไม่สามารถเป็นเจ้าของสินค้าหรือบริการที่เราซื้อได้ ตัวอย่างเช่น ซื้อทองโดยใช้ CFDs เราจะไม่ได้รับทองคำจริง ๆ ซึ่งแตกต่างจากสัญญา Futures นักเทรดต้องศึกษารายละเอียดประเภทสัญญา CFD ให้ดี

Leverage 1:100 คืออะไร

บ่อยครั้งที่จะได้ยินคำถามว่า Leverage 1:100 หมายความว่าอะไร Leverage 1:100 หมายความว่า คุณสามารถใช้อำนาจซื้อจากเงินที่คุณมี 100 เท่า

 

 

3 การคำนวณ Leverage

Myfxbook.com

ตัวอย่างการคิด

ถ้าหากว่า หุ้นตัวหนึ่ง ราคา 100 บาท และเรามีเงินลงทุน 10,000 บาทจะเห็นว่า เราจะซื้อหุ้นได้เท่ากับ

สูตรจำนวนหุ้นที่ซื้อได้ = เงินทุน / ราคาหุ้น = (10,000/100) = 100 หุ้น

ซึ่งจากตัวอย่างนี้เราจะซื้อหุ้นได้เพียง 100 หุ้นเท่านั้น แต่เมื่อโบรกเกอร์ให้อำนาจซื้อ หรือ Leverage 1:100 ก็หมายความว่า เราสามารถได้อำนาจซื้อเพิ่มขึ้น 100 เท่าของเงินที่เรามี

10,000 x 100 = 1,000,000 บาท

แต่ concept ของการใช้งาน Leverage จะไม่ได้เพิ่มตัวเลขในบัญชีของเรา แต่จะใช้หลักการลดทอนราคาของหุ้นที่เราจะซื้อลงแทน เรียกว่า ทำให้จำนวนเงินที่จะวางลดน้อยลง หรือเรียกว่า เป็นการคำนวณ Margin ที่จะต้องใช้ นั่นคือ เอาราคาหุ้น/Leverage ทำให้ ราคาสามารถซื้อได้ด้วยเงิน 10,000 เท่ากันกับการเพิ่มเงิน ดังการคำนวณต่อไปนี้

ราคาหุ้น/Leverage = 100/100 = 1 คือ Margin ที่ต้องใช้

ดังนั้น

  • เงิน 10,000 บาท ใช้ Leverage 100 เท่ากับ
  • 10,000/1 = 10,000 หุ้น

เทียบเท่ากับ

  • เงินทุน x Leverage = 10,000 x 100 = 1,000,000
  • เงิน 1,000,000 ซื้อหุ้นราคา 100 ได้ดังนี้
  • 1,000,000/100 = 10,000 หุ้น

สรุป จะเห็นว่าทั้ง 2 วิธีได้จำนวนหุ้นเท่านั้น นี่ก็คือหลักการเบื้องต้นสำหรับการใช้ Leverage เท่านั้น การคำนวณ Leverage ในตลาด Forex จริง ๆ จะซับซ้อนกว่านี้ เนื่องด้วยการนับจำนวนหุ้น ในตลาด Forex และตลาดหุ้นแตกต่างกัน โดยเราจะยกตัวอย่างในสูตรคำนวณต่อไป

Leverage กับ เงินลงทุน

การคิด Leverage มันคือ การหารด้วยจำนวนความสามารถในการซื้อขาย โดยการคิด Leverage จะสัมพันธ์กับเงินลงทุนของเรา ว่าเราจะใช้เงินเท่าไหร่ โดยการใช้ Leverage จะทำให้การใช้ค่าเงินต่อ Position แตกต่างกันไป ซึ่งจะปรากฏในโปรแกรม MT 4 โดย Leverage มีความสัมพันธ์กับ เงินลงทุน ดังนี้

ตัวอย่าง สมมุติ Bitcoin ราคา 20,000 USD ต่อ 1 BTC จะลงทุน Bitcoin ต้องใช้เงิน 2 หมื่น USD แต่ถ้าเราใช้ Leverage ในการลงทุน จะใช้เงินดังต่อไปนี้ตาม Leverage

Leverage
จำนวนเงินที่ใช้ BTC
ซื้อได้
1: 1
20,000 USD
1 BTC
1:10
2,000 USD
10 BTC
1: 100
200 USD
100 BTC
1: 1000
20 USD
1000 BTC
1: 10000
2 USD
10,000 BTC

ตาราง Leverage

จากตัวอย่างจะเห็นว่า ถ้าหากเรามีเงินในบัญชี หรือในพอร์ตลงทุน Forex แค่ 200 USD โดยไม่ใช้ Leverage เราจะไม่สามารถซื้อ Bitcoin ได้เลย แต่ว่าถ้าเราใช้ Leverage เราจะสามารถที่ 1:1000 ด้วยเงินแค่ 200 USD เราจะสามารถซื้อได้เลย โดยได้ถึง 1,000 BTC เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอก เมื่อราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับการส่งคำสั่ง ก็จะเกิดการ ล้างพอร์ต หรือ พอร์ตแตก ได้อย่างง่ายได้ สำหรับการใช้ Leverage สูง แต่ถ้าราคาเคลื่อนไหวไปอย่างที่เราคิด จะทำให้เราได้รับกำไรมหาศาล เมื่อเทียบกับเงินลงทุนอันน้อยนิดนั้น

สูตรคำนวณ Leverage ด้วยมืออย่างง่าย

สำหรับการคำนวณ Leverage ในตลาด Forex ในตัวอย่างนี้จะเป็นการคำนวณตลาด Forex เพื่อที่จะหาว่า Margin ที่จะต้องใช้เท่าไหร่ เมื่อทราบว่า Margin ที่จะต้องใช้เท่าไหร่ ก็จะสามารถหาได้ว่า สามารถส่งคำสั่ง หรือ ซื้อขาย Forex ได้เท่าไหร่เป็นอย่างน้อย

ตัวอย่างการคำนวณ Leverage ค่าเงิน EURUSD

 

 

 

2 การคำนวณ Leverage

MT4 Leverage

 

ในการเทรด Forex การคำนวน Leverage จะแตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ Forex ที่ให้ Leverage สูงสุด คือ Exness ซึ่งให้ Leverage ไม่จำกัด แต่นั่นทำให้การคำนวณในตัวอย่างลำบาก เราจึงยกตัวอย่าง Leverage ของค่าเงินดังต่อไปนี้

สมมุติการคำนวณครั้งนี้ใช้ค่าเงิน EURUSD ซึ่งมีราคา 1.00363 หรือก็คือ 1 EUR สามารถแลกได้ 1.00363 ดอลล่าร์ สำหรับการเทรดค่าเงินนั้น จะเรียกแตกต่างจากตลาดหุ้น แทนที่จะเรียกเป็นจำนวน เหรียญ หรือหุ้นจะเรียกว่า Lot

  • มูลค่า 1 Lot จะเท่ากับ 100,000 หรือ ถ้าเทียบกับหุ้นก็คือ 1 แสนหุ้น ดังนั้นการจะซื้อ 1 Lot จึงเท่ากับซื้อ 100,000 ในบัญชี Standard
  • ถ้าหากเป็นแบบนี้ ถ้า EURUSD ราคา 1.00363 และจะซื้อประมาณ 100,000 นั่นเท่ากับว่า เงินจริง ที่จะต้องใช้เท่ากับ โดยที่ไม่ใช้ Leverage เลย
  • 1.00363 x 100,000 เท่ากับใช้เงิน 100,363 USD
  • แล้วใครจะมันจะไปมีเงินขนาดนั้นไปเทรดจริงไหม?

เหตุผลที่โบรกเกอร์ให้ Leverage กับเรา

เมื่อต้องใช้เงินถึง 100,363 USD ใครจะกล้าเทรด โบรกเกอร์ก็ต้องเสนอ Leverage โดยใช้แนวคิดที่เราได้อธิบายข้างบนนี้ คือ การให้ Leverage คือการเพิ่มอำนาจซื้อให้เรา แต่แทนที่จะนำไปเพิ่มกับยอยด Balance ของเรา ก็ให้เอาไปหารกับราคาของค่าเงินแทน ดังนั้น กรณี EURUSD และให้ Leverage ตามระดับ จะได้ราคาเท่ากับ

พอได้มูลค่า Leverage 1:1 แล้ว เราก็จะสามารถปรับเพิ่มได้เพียงแค่ เอามูลค่าเต็ม ไปหารด้วย Leverage ด้วยสูตร

= ราคาของสินทรัพย์ / จำนวน Leverage

คำตอบที่ได้ก็คือ Margin ที่จะใช้นั่นเอง

  • 1:1 ใช้เงิน 100,363 USD
  • 1:10 ใช้เงิน 10,036.3 USD
  • 1:100 ใช้เงิน 1,003.63 USD
  • 1:1000 ใช้เงิน 100.363 USD

ข้อสังเกตุที่ได้จะเห็นว่า 1:1000 ใช้เงินวางมาร์จิน เท่ากับ 100.36 เหรียญ แต่นั่นคือ 1 Lot นะ ถ้าหากว่า ส่งเทรดแค่ 0.01 Lot ก็จะเป็นตามนี้

  • 1 Lot ใช้ Margin 100.36 USD
  • 0.10 Lot ใช้ Margin 10.036 USD
  • 0.01 Lot ใช้ Margin 1.003 USD

นี่คือที่มาของการคำนวณ Leverage ง่าย ๆ เพียงแต่ว่าตอนนี้มีเครื่องมือคำนวณ Leverage จำนวนมากที่เกิดขึ้น เราก็มีเครื่องมือคำนวณ Lot ให้ในเว็บไซต์ของเราที่คุณสามารถใช้ได้

สรุป

Leverage เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ทรงพลังในตลาด Forex ซึ่งสามารถเพิ่มทั้งโอกาสในการทำกำไรและความเสี่ยงในการขาดทุน การใช้ Leverage อย่างชาญฉลาดและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรด Forex ในระยะยาว นักลงทุนควรศึกษาและเข้าใจกลไกการทำงานของ Leverage อย่างถ่องแท้ ใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม และพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง

อ้างอิง

  1. Investopedia. (2024). How Does Leverage Work in the Forex Market? Retrieved from https://www.investopedia.com/ask/answers/06/forexleverage.asp
  2. Investopedia. (2024). Forex Leverage: A Double-Edged Sword. Retrieved from https://www.investopedia.com/articles/forex/07/forex_leverage.asp
  3. tastyfx. (2024). What is leverage in forex? Retrieved from https://www.tastyfx.com/learn/risk-management/what-is-leverage-in-forex/

 

 

FOREXDUCK Logo

FOREXDUCK (นามปากกา) นักเขียนของเรามีประสบการณ์การเงินการลงทุนกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตลาด Forex และคริปโต โดยเฉพาะการวิเคราะห์ทางเทคนิค รวมถึงเทคนิคต่าง

HFM Promotion