บทที่ 5 การฝึก Mindset ให้กำไร

Mindset สิ่งที่ทำให้คนล้างพอร์ตมากที่สุด

นี่เป็นบทสุดท้ายของเรื่องสำคัญ ที่เหลือจะเป็นภาพรวมพอร์ตลงทุนค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มือใหม่ให้ความสำคัญน้อยที่สุด แต่ที่กองทุนของน้องเป็ดให้ความสำคัญมากพอ ๆ กับเรื่องการวิเคราะห์ค่ะ เพราะมันคือ การฝึก Mindset

เคยไหมคะ ที่ฝึกเทรดใหม่ ๆ จะมีอาการอยากเทรด อยากดูจอ อยากดูว่ามันกำไรเท่าไหร่แล้ว เปิดออเดอร์ใหม่ได้หรือยัง? หรือว่าเราจะกำไรเท่าไหร่ดี ฝันหวานว่า อยากจะทำกำไรให้ได้ทุกวัน คิดว่า ถ้าเราจะทำกำไรให้เดือนละ 30 % แล้วทุกเดือน ๆ เราจะมีเงินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แค่ไหนเราถึงจะมีเงินพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้

ถ้าคุณกำลังคิดแบบนั้น นั่นคือ คุณกำลังเกิด Mindset ที่ไม่ดีต่อการลงทุนค่ะ มันจะทำให้คุณหมกมุ่นอยู่กับการเทรด แล้วเราจะฝึก mindset ยังไง ไม่ให้ขาดทุน ล้างพอร์ต เพราะว่าความคิดแบบที่ว่านั่นแหละค่ะที่ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่ล้างพอร์ต

การพัฒนาส่วนนี้สามารถทำได้หลายวิธีแล้วก็สามารถทำร่วมกันหลายวิธีก็ได้เช่นกันค่ะ

1 Mindset สิ่งที่ทำให้คนล้างพอร์ตมากที่สุด

ควบคุมจิตตัวเองด้วยกฏ

วิธีควบคุมตัวเองด้วยกฏ เป็นวิธีที่นิยมกันมาก แต่ก็เป็นวิธีที่ล้มเหลวกันมากที่สุดสำหรับการพัฒนา Mindset ของการเป็นนักเทรด เพราะว่า ถ้าคนเราอยู่ในกฏกันได้ขนาดนั้น มีระเบียบวินัยกันขนาดนั้น ก็คงรวยกันหมดแล้วค่ะ วิธีนี้จึงใช้ได้กับคนที่เคร่งครัดกับวินัย กับคนที่จริงจังกับตัวเอง เท่านั้นค่ะ กฏที่นิยมตั้งในการเทรดมีดังนี้ค่ะ

  • ถ้าวิเคราะห์ผิดเมื่อส่งคำสั่งแรก ผิด ให้หยุดเทรดแล้วรอวันถัดไป หรือแบ่งช่วงเช้าและบ่าย โดยถ้าผิดช่วงใดก็จะหยุดเทรดช่วงนั้นไปเลย แล้วรอวันใหม่

การออกแบบกฏลักษณะนี้ต้องทำความเข้าใจกับ Consecutive Loss คือ การขาดทุนต่อเนื่อง เป็นหลักการในการเทรดทั่วไปค่ะ เพราะมันจะทำให้เกิด Consecutive Drawdown หรือก็คือ การลดลงของพอร์ตต่อเนื่อง แต่จะขาดทุนต่อเนื่องยังไง ที่เรายังบอกว่า อ๋อ!! ในการทดสอบระบบเราก็เจอการขาดทุนติด ๆ กันนี่แหละ 8 ครั้ง ฉะนั้นโดนมา 2 ครั้งแล้ว ไม่เป็นไรเป็นปกติ

ทำบันทึกการพัฒนาจิตใจ

นอกจากฏแล้วก็ทำบันทึกการเทรด เพื่อพัฒนาผลการเทรด ในการเทรดจะแบ่งเป็นการขาดทุนตามระบบ คือ การขาดทุนที่ระบบต้องเจออยู่แล้ว กับการขาดทุนนอกเหนือจากระบบ นั่นคือ เราไปเทรดนอกเกมส์ เช่น การเอาคืนบ้าง การเบิ้ลลอท หรือใช้ martingale ในการเทรด ทำให้เราขาดทุนเสียหายเพราะอยากเอาคืน อันนี้ไม่นับนะคะ เรียกว่า ถ้าคุณคิดเอาคืนและคุณจะเบิ้ลลอท คุณจะไม่สามารถเป็นนักเทรดอาชีพได้ค่ะ

การจ้าง Mentor ควบคุมเฉพาะส่วนการฝึก mindset

นี่เป็นวิธีการที่นิยมในกองทุนค่ะ จะมีผู้จัดการหรือบริษัทที่รับฝึกหัดนักเทรดให้อยู่แล้วค่ะ โดยที่คนเหล่านั้นก็จะมีประสบการณ์พอสมควร คอยสอนนักเทรดป้อนสถาบันการเงินดี ๆ ดัง ๆ หลังจากที่ฝึกเสร็จ โดยพวกนี้ก็จะรับพัฒนาด้านจิตใจด้วย

หรือถ้าไม่มีสถาบันแบบนี้ในบ้านเรา ก็จะใช้ Mentor พวก Fitness ก็สามารถฝึกให้เราได้เช่นกันค่ะ เพราะว่า โค๊ชฟิตเนต ก็ต้องใช้วินัยสูงมากในการฝึกตัวเองสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะแบบไหนก็ต้องใช้วินัยในการทำงาน การเทรดก็เช่นกันค่ะ เราจะสังเกตเห็นได้ว่า เวลาเราทำอะไรเองคนเดียวมันจะยาก แต่พอมีคนมาสอน เราจะยอมทำตาม ไม่ว่าเราจะจ้างโค๊ชมา ทั้ง ๆ ที่เราก็รู้แหละว่า ต้องออกกำลังกายยังไง ต้องกินยังไง แต่ว่าเราก็ทำเองไม่ได้สักที พอจ้างโค๊ชมาเราก็ตั้งใจมากขึ้น

เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นโค๊ชเทรดอย่างเดียวหรอกค่ะ โค๊ชแบบไหนก็ได้ที่ควบคุมวินัยเราได้ก็พอ สามารถทำให้เราทำตามกฏการเทรดได้แต่ถ้าเป็นโค๊ชที่รู้เรื่องเทรดได้ด้วยก็จะดีมากค่ะ

ให้ประสบการณ์สอน

น้องเป็ดมีเรื่องเล่าของพี่คนหนึ่งในกองเดียวกัน เขาเป็นนักเทรดแบบอิสระมาก่อน แต่ขาดทุนหนักมากค่ะ เพราะว่า ฝึกเองไม่มีใครสอน แรก ๆ ก็ส่ง Lot ใหญ่ พอหลัง ๆ ขาดทุนติดต่อกันมาเรื่อย ๆ ก็ส่ง Lot น้อยลง และ น้อยลงเรื่อย ๆ จนมันเริ่มรู้ว่าส่งเท่าไหร่ถึงจะพอดี เพราะว่าเจอกับการขาดทุนมาหลายครั้งค่ะ

นี่ก็เป็นรูปแบบการพัฒนาตัวเองรูปแบบหนึ่งค่ะ คือ ประสบการณ์จะสอนเราเอง แต่แบบนี้เงินต้องหนาหน่อยนะคะ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้กันเพราะว่า เงินจะหมดก่อนที่จะเทรดเก่งอีกค่ะ พอเงินหมดแล้วยังไม่รู้อะไรเลย ก็ต้องยอมแพ้ออกจากตลาดไป เพราะฉะนั้น สามารถฝึกกับ Demo และทำการบ้าน ศึกษาให้เยอะก่อนค่ะ จะได้ไม่เสียเงินไปก่อนที่จะเก่งเป็นมืออาชีพ หลายคนมาจบตรงนี้เยอะมาก ลองจนเงินหมด

แล้วเป้าหมายของการฝึก Mindset คืออะไร

แม้ว่าเราจะได้โค๊ชหรือ Mentor มาแล้วแล้ว เราจะฝึกให้อะไรเราดีขึ้นกันหล่ะ สิ่งที่นักเทรดฝึกส่วนใหญ่มีอยู่ 2 อย่างคือ ฝึกจิตใจตัวเอง กับ อย่างที่สองคือ ฝึกนิสัยตัวเอง โดยจะมุ่งกำจัดนิสัยเสียในการเทรด เช่น

  • นิสัยไม่อดทนรอกราฟให้เข้าจังหวะ รีบส่ง รีบตัดสินใจกลัวเข้าไม่ทัน
  • นิสัยชอบเอาคืน ขาดทุนแล้วอยากได้คืน
  • นิสัยไม่ทำบันทึกการเทรด ขี้เกียจหรือลืมทำบันทึก

นี่คือนิสัยเบื้องต้นค่ะ ส่งท้ายสำหรับบทนี้ สำหรับคนที่มีสภาพแวดล้อมการเทรดที่ดี เช่น การทำงานในกองทุน การเทรดจะจริงจังมากค่ะ และทุกเช้าจะมีการทำการบ้าน วิเคราะห์ก่อนไปลุยในตลาด ตอนเย็นมาก็ประชุมสรุปงานกันทำอย่างนี้ทุกวัน ซ้ำ ๆ เดิม ๆ วนไป เหมือนกับทำงานออฟฟิศ มันคืองานค่ะ พอมันมีสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอย่างนี้ ไอ้เรื่องวินัยมันตามมาโดยอัตโนมัติค่ะ โดยที่ไม่ได้บิดพริ้วอะไรเลย